ห่างหายไปจากวงการบันเทิงถึง3ปีเต็ม สำหรับหนุ่ม "โดโด้ ยุทธิชัย" ที่ล่าสุดในงานพิธีบวงสรวงละครเรื่อง ผู้หญิงคนนี้ชื่อบุญรอด เจ้าตัวก็ได้หวนกลับมาเคาะสนิม รับงานละครให้แฟนๆได้หายคิดถึงอีกครั้ง งานนี้เลยไม่พลาดที่จะอัพเดตชีวิตช่วงที่หายจากวงการบันเทิงไปว่าทำอะไรอยู่บ้าง พร้อมถามถึงเรื่องคดีความที่ยืดเยื้อมาพอสมควร กับกรณีของสายการบินชื่อดังทำเสียชื่อเสียง ไม่สามารถทำตามข้อตกลงที่จะต้องนำคณะทัวร์บุญไปร่วมงานที่วัดพุทธคยา ประเทศอินเดียได้ทันกำหนด นอกจากนี้ยังไม่มารับในวันและเวลาที่ระบุ สร้างความเสียหายหนัก จนทำเกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โตอยู่สักพักหนึ่ง ครั้งนี้เลยมีโอกาสได้สอบถามถึงเรื่องราวความคืบหน้าทั้งหมด ว่าได้บทสรุปแล้วหรือยัง ซึ่งหนุ่มโดโด้ก็ได้เผยให้ฟังแบบหมดเปลือกว่า ห่างหายไปนาน ตอนนี้ทำอะไรอยู่บ้าง ? "ตอนนี้นะครับ ที่หลักๆก็ทำอยู่สามอย่าง หนึ่งเป็นอาจารย์สอนที่คณะวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยบีทียู และอีกอันที่ทำคือพาคนไปไหว้พระ ตามประเทศต่างๆที่มีพระเยอะๆ เช่นพม่า อินเดีย ศรีลังกาครับ" ครั้งนี้หวนกลับมารับงานละครอีกครั้ง ? "ก็มีละครเรื่องนี้เรื่องหนึ่ง และเดี๋ยวเปิดกล้องอีกเรื่องช่วงเดือนมกราคมครับ หายไปนานกี่ปีนั้น เรื่องสุดท้ายที่เล่นกับช่อง3 คู่คุณมาช่า น่าจะประมาณ3ปีกว่าๆครับ กลับมาครั้งนี้ก็ขอเคาะสนิมนิดหน่อยมั้ง (หัวเราะ)" จะมีผลกระทบต่อเรื่องของเวลาการสอนไหม ? "ไม่ครับ เพราะผมจัดเวลาให้มันพอดีกัน แยกระหว่างคิวละครกับตารางสอนเลย กลับมาครั้งนี้ก็ขอรับงานเต็มตัวเลย" จากที่หายหน้าไป อะไรคือเหตุผลที่ทำให้เราหวนกลับมารับงานในวงการอีกครั้ง ? "น่าจะคิดถึงมั้งครับ คงคิดถึงวงการ เวลาเราเห็นเพื่อนๆเราเริ่มกลับมาเล่น หรือเห็นน้องๆรุ่นใหม่เขาเล่น บางอันเราก็คิดถึงกลิ่นอายของมันและอยากกลับมาครับ" ขออนุญาตถามถึงเรื่องคดีก่อนหน้านี้ ที่พาลูกทัวร์ไปทัวร์ จบหรือยัง ? "อ่อขอฝากหน่อยเลย คือตอนนี้ในกฎหมายเบื้องต้นเราไปให้กับกรมการบินพลเรือนจัดการเรียบร้อยแล้ว ก็มีหนังสือออกมาปรับโทษเขาแล้ว และเราก็ตามสืบเรียบร้อย สล็อตการบินเป็นไปตามที่ตกลงกับเรา แต่เขาไม่บินตามที่ตกลงกับเรา และเราก็ไปดูตอนนี้พูดชื่อได้แล้วคือ ซิตตี้แอลเวย์ นอกจากเขาทำกับเราแล้ว เขายังไปทำกับคนอื่นอีก เขาก็ทำแบบนี้ แต่กรมการบินพลเรือนทำได้แค่ปรับเขาตามที่เราเสียหายจริง แต่ทางผู้ใหญ่แนะนำว่าให้ฟ้องไปเลย เพื่อนเรียกค่าเสียหาย ค่าเสียโอกาส ค่าเสียชื่อเสียงด้วย ตอนนี้ก็กำลังดำเนินการเอาใบงานกรมการบินพลเรือนไปทำเรื่องฟ้องร้องให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่จริงๆเราไม่อยากเสียเวลา อยากให้มันจบๆไป แต่เขาไม่หือไม่อือ ไม่ตอบกลับอะไรเราเลย ก็เลยคิดว่าคงต้องดำเนินการให้ถึงที่สุดครับ" เราจะเรียกค่าเสียหายประมาณเท่าไหร่ ? "กำลังพิจารณากันอยู่ เพราะมันขึ้นอยู่กับค่าวางศาลด้วย แต่ตอนนี้ที่สบายใจเพราะผู้โดยสารทั้งหมด168คน ที่เข้าใจเราผิดว่าเราเป็นคนทำ ตอนนี้เคลียร์แล้ว เพราะเรามีใบจากกรมการบินพลเรือนชัดว่าคนที่ผิดจริงๆคือสายการบินไม่ใช่เรา" เขาได้ชดใช้ค่าเสียหายบ้างหรือเปล่า ? "ไม่เลยครับ นี้แหละ จริงๆเขาต้องเป็นคนรับผิดชอบ ถ้าสายการบินเลต สายการบินไม่มารับ เขาต้องรับผิดชอบค่าต่างๆ ค่าอาหาร ค่ารถ ค่าโรงแรม แต่ไม่มีเลยสักนิดเดียว คือกรมการบินพลเรือนเป็นเหมือนตัวกลางในการดำเนินเรื่อง แต่ผมยังไม่แน่ใจว่าครั้งต่อไปที่จะฟ้องคือวันไหน แต่เดี๋ยวจะแจ้งอีกที ไปช่วยๆกันครับ เพราะผมไม่อยากให้มีสายการบินแบบนี้อยู่ ที่มาเอาเปรียบคนในเมืองไทย" ค่าเสียหายที่สูญเสียไปทั้งหมดประมาณเท่าไหร่ ? "พูดตรงๆเลยนะ ค่าใช้จ่ายที่เสียไปทั้งหมดในวันนั้นเนี้ย ไม่ถึงวันแค่หนึ่งคืน กับค่าอาหารอีก2มื้อ ประมาณสามแสนกว่าบาท นั้นคือสิ่งที่เราเสียนะ แต่ผู้โดยสารบางคนเขาเสียหายมากกว่านั้น เพราะเขาบินกลับไม่ได้ เขามีธุรกิจที่จะต้องไปทำต่ออีกมากมาย อันนี้เราก็เห็นใจและตอนนั้นน้อมรับทุกอย่างเลย เหมือนเรากลายเป็นคนผิดในตอนนั้นยืนหน้าซีดเลยนะ แต่วันนี้เราสบายใจแล้ว เพราะเราไม่ได้เป็นคนผิดเองจริงๆ เราพยายามทำทุกอย่างแล้ว แต่สายการบินเป็นคนทำกับเรา" แบบนี้ทางผู้เสียหายมีการดำเนินการฟ้องร่วมกับเราไหม ? "มีสิทธิ์ครับ มีสิทธิ์ เพราะตอนนี้มีอยู่ท่านหนึ่งที่ตอนแรกเลยจะเอาเรื่องผม แต่ตอนนี้กลายมาเป็นกัลยาณมิตรกัน เดินทางไปทำบุญด้วยกัน กลายเป็นคนที่สนิทกันเลย เพราะเขาเข้าใจเราจริงๆแล้วครับ" ถ้าทางนู้นขอไกล่เกลี่ยมา เรายินดีไหม ? "ยินดีครับ ถ้าเขาติดต่อเรามา เราก็ยินดีเรียกมาสักทีหนึ่ง นี้ติดต่อไปก็หายไปเลย เงียบไปเลยครับ"