"ประเดช"หนึ่งในผู้ถือหุ้น"ซุปเปอร์บล๊อก"และ"วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ส์"หวัง"นพพร ศุภพิพัฒน์"จะถอนตัวจากการถือหุ้น นายประเดช กิตติอิสรานนท์ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่บริษัทซุปเปอร์บล๊อก (SUPER), บริษัทเอเวอร์แลนด์ (EVER) รวมถึงบริษัท วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ส์ โฮลดิ้ง (WEH) กล่าวผ่านสื่อออนไลน์ว่าโดยส่วนตัวได้ถือหุ้นบริษัทวินด์ ในสัดส่วน 4% ที่เหลือเป็นของบุตร และบริษัทดีดี มาร์ท ซึ่งรวม ทั้งกลุ่ม 27%ซึ่งทางกลุ่มก็มีแผนที่ขายหุ้นที่ถืออยู่ออกไปในช่วงที่จะเสนอขายไอพีโอตามแผนที่กำหนดไว้ช่วงปี 2558 และอยู่ระหว่างคณะกรรมการพิจารณาถึงความเหมาะสม "การที่ตัวเองลงทุนในบริษัทซุปเปอร์บล๊อก และได้ยื่นขอทำธุรกิจพลังงานลม ทำให้คณะกรรมการบริษัทวินด์ มองว่ามีความขัดแย้งกับบริษัทวินด์ จึงเสนอให้กลุ่มตัวเองถอนตัวออกไป และก็ยินดีที่จะถอนหุ้น แต่จะขายตอนที่บริษัทวินด์ไอพีโอ ซึ่งมีแผนจะเข้าตลาดในกลางปีหน้า " นายประเดชกล่าวว่า การบริหารงานในบริษัทวินด์นั้น ระยะหลังได้มีการว่าจ้างชาวต่างชาติมาร่วมทีมบริหาร 3-4 ราย ซึ่งผู้บริหารบริษัทชี้แจงว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานลมอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่มีการระบุชื่อเกี่ยวข้องกับนายนพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้บริหาร บริษัทวินด์ เอนเนอร์ยี่( WEH) ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีสำคัญ ขอชี้แจงว่าโดยส่วนตัวไม่ทราบถึงพฤติกรรมส่วนตัว และระยะหลังไม่ได้ติดต่อพูดคุยกัน แต่ยอมรับว่าเคยร่วมธุรกิจด้วย "กรณีปัญหาภาพลักษณ์บริษัทวินด์ นั้น คณะกรมการบริษัทจะมีการประชุมด่วนเพื่อหาทางออกในเรื่องดังกล่าว แนวคิดส่วนตัวเห็นว่า บริษัท รีนิวเอเบิล เอนเนอยี คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด (REC) ของนายนพพร ซึ่งถือหุ้นในบริษัทวินด์กว่า 63% ควรจะถอนตัวออกไป มิฉะนั้นจะไม่สามารถ ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นการกู้เงินจากสถาบันการเงิน หรือการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็เป็นเรื่องยาก "ในฐานะนักลงทุนเชื่อว่า เมื่อเจอปัญหาอย่างนี้ ก็จะเข้าตลาดฯไม่ได้ ดังนั้นทางบริษัทรีนิวฯ ต้องหาทางออกด้วยการถอนตัว ถ้าไม่ดำเนินการก็จะทำอะไรไม่ได้ และหากคิดจะขายหุ้นก็คิดว่าหาคนมาซื้อแทนได้ เพราะมีบริษัทใหญ่ ๆ สนใจเยอะที่อยากจะลงทุนธุรกิจพลังงาน"นายประเดช กล่าว สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับนายนพพรนั้น เมื่อประมาณ 6-7 ปีแล้ว โดยนายนพพรเข้ามาเสนอให้ร่วมลงทุนในธุรกิจพลังงาน จึงตัดสินใจใช้เงินส่วนตัว 5-10 ล้านบาทเข้าลงทุน ซึ่งเบื้องต้นก็รับตำแหน่งผู้บริหารทั้งในคณะกรรมการของบริษัทเด็มโก้ (DEMCO) และบริษัทวินด์ โดย เงื่อนไขการลงทุนในบริษัทวินด์คือหากมีงานจะต้องส่งต่อให้บริษัทเด็มโก้ทำให้ได้รับงานสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมกว่า 2,000 ล้านบาทในช่วงปี 2555-2556 นายประเดช กล่าวว่าปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทซุปเปอร์บล๊อกในสัดส่วนกว่า 9% และบริษัทเอเวอร์แลนด์สัดส่วนกว่า 5% เป็นการถือหุ้นมานานเกือบ 2 ปีแล้ว และยังไม่คิดจะขายหุ้นออกไปแต่อย่างใด โดยเฉพาะหุ้นซุปเปอร์ มีความคิดจะซื้อเพิ่มด้วยซ้ำ เพราะหันมาทำธุรกิจพลังงานหลายโครงการ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ส่วนตัวชอบอยู่แล้ว ดังนั้น หาก SUPER มีการเพิ่มทุนก็จะซื้อเพิ่มอย่างแน่นอน และจะถือลงทุนระยะยาวด้วย เช่นเดียวกับหุ้นเอเวอร์แลนด์เพราะมองว่าแนวโน้มธุรกิจไปได้ดีหากทำธุรกิจโรงพยาบาล การเคลื่อนไหวราคาหุ้นที่ถูกนำไปเกี่ยวโยงกับผู้ถือหุ้นบริษัทวินด์ที่ถูกดำเนินคดี โดยราคาหุ้น บริษัท เด็มโก้ ปรับลดลง 2.78% หุ้นซุปเปอร์บล๊อก ปรับลดลง เพิ่มขึ้น 2.18% และหุ้นเอเวอร์ลดลง 6.25% รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ ระบุว่า บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก รายงานว่า ตามที่มีข่าวปรากฏในโซเชียลมีเดีย กล่าวถึงบริษัท ซุปเปอร์บล๊อก มีส่วนเกี่ยวพันกับ 1) นายนพพร ศุภพิพัฒน์ 2)บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน) 3) บริษัท เดมโก้ จำกัด (มหาชน) และ 4)นายประเดช กิตติอิสรานนท์ นั้น บริษัท ใคร่ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้ 1.กลุ่มบริษัท ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นกับนายนพพร ศุภพิพัฒน์ 2.กลุ่มบริษัท ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับ บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) 3.กลุ่มบริษัท ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นกับ บริษัท เดมโก้ จำกัด (มหาชน) 4.นายประเดช กิตติอิสรานนท์ เป็นเพียงผู้ถือหุ้นรายหนึ่งของบริษัท โดยมิได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและ/หรือผู้บริหารของกลุ่มบริษัทรวมทั้งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับการบริหารงานของกลุ่มบริษัท นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า กรณีที่ผู้ก่อตั้งบริษัท วินด์ ถูกศาลอนุมัติหมายจับ และบริษัทเด็มโก้ถือหุ้น 4% ในบริษัทวินด์นั้นถือเป็นความเสี่ยงในเชิงการบริหารจัดการ ซึ่งอาจกระทบแผนไอพีโอและแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้า 360 เมกะวัตต์ของ บริษัทวินด์ ทำให้ล่าช้ากว่ากำหนด แต่เราไม่ได้รวมงานก่อสร้างและผลตอบแทนจากโครงการดังกล่าวในประมาณการของบริษัทเด็มโก้อยู่แล้ว โดยยังคงคาดกำไรสุทธิปีหน้าของบริษัทเด็มโก้เติบโต 15%จากปีก่อน แม้ราคาหุ้นจะร่วงแรง แต่ยัง เกินมูลค่าพื้นฐาน จึงยังคงแนะนำขาย ราคาหุ้นที่ปรับขึ้นถึง 80% ในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. เป็นการเก็งกำไรข่าวบริษัทวินด์จะเข้าไอพีโอในตลาดฯ และมีราคาขายนอกตลาดที่สูงกว่าต้นทุนของบริษัทเด็มโก้มาก ราคาหุ้นปัจจุบันจึงยังมีความเสี่ยงอยู่ Tags : ประเดช กิตติอิสรานนท์ • ซุปเปอร์บล๊อก • วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ส์ โฮลดิ้ง • นพพร ศุภพิพัฒน์