'พ.อ.วินธัย' แถลง คสช. ได้เบาะแสกลุ่มปลุกปั่น พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย ย้ำ ไร้แผนนิรโทษกรรม ลุยสร้างความปรองดองสมานฉันท์คนในชาติ ขณะที่ โฆษก กอ.รมน. ชี้แจง ตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ นำไปสู่ปฏิรูป ไม่เกี่ยวกับการนิรโทษกรรม มอบปลัดกระทรวงกลาโหมดูภาพรวม พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก แถลงถึงกรณีที่มีกลุ่มต่อต้านการควบคุมอำนาจการปกครองของคณะ คสช. ว่า เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งขั้นตอนขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ และตามสถานการณ์เฉพาะหน้า ทั้งนี้ ขอวิงวอนให้ญาติพี่น้อง เตือนและห้ามปรามไม่ให้ร่วมกับการชุมนุมกับกลุ่มต่อต้าน สำหรับกลุ่มที่มีเจตนาไม่หวังดี ปลุกปั่น ขณะนี้เจ้าหน้าที่เริ่มมีเบาะแส และจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนเรื่องของอาวุธสงคราม ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันและป้องปราบไม่ให้มีอาวุธสงคราม ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัย ผู้ต้องหาเพิ่มขึ้น และจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม กรณีผู้ที่ถูกเรียกรายงานตัว แต่มารายงานตัวไม่ได้ตามกำหนด ต้องทำเรื่องชี้แจงเหตุผลความจำเป็นให้ คสช. พิจารณา ซึ่งจะได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับ คสช. เท่านั้น นอกจากนี้ พ.อ.วินธัย กล่าวถึงกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. จะพิจารณาเรื่องของกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อนำไปสู่ความปรองดองหรือไม่นั้น ขอยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้อยู่ในนโยบายของ คสช. เนื่องจากนโยบายหลัก จะมุ่งเน้นเรื่องของการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ ขณะที่ นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักวิชาการอิสระ ที่ถูกเรียกตัวตามคำสั่งของ คสช. ไปบรรยายที่ต่างประเทศ โดยมีเนื้อหาที่ทหารมีความไม่ประสงค์ดีต่อตัวตนเองนั้น ไม่เป็นความจริง ส่วนทาง ฮิวแมนไรท์วอทช์ ระบุถึง กรณีอำนาจของศาลทหาร การดำเนินคดีไม่สามารถมีทนายได้นั้น ยืนยันว่า เป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะศาลทหารมีการพิจารณาคดีที่ไม่แตกต่างจากศาลพลเรือน ซึ่งมีเพียงศาลเดียวเท่านั้น ในช่วงภาวะไม่ปกติ กอ.รมน.แจงตั้งศูนย์ปรองดองนำปฏิรูป-ปลัดกห.ดูภาพรวม พันเอกบรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่หลายฝ่ายกังวล ว่า การตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป จะนำไปสู่การนิรโทษกรรม รวมถึงการยกเว้นข้อกฎหมายนั้น ขอยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน เนื่องจากเป็นงานคนละส่วน เพราะการตั้งศูนย์ดังกล่าว เพื่อต้องการสร้างความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ และนำความสงบคืนสู่ประเทศไทย ทั้งนี้ ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ให้เกิดผลสัมฤทธิ์โดยเร็ว ส่วนกลุ่มคนที่กระทำความผิดก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เข้าควบคุมอำนาจการปกครอง ยังต้องดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมเช่นเดิม ล่าสุด พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้า คสช.ที่มอบหมายให้ กอ.รมน.รับผิดชอบการตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป เน้นสร้างความรัก สามัคคี นำไปสู่การปฏิรูป โดยปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นผู้รับผิดชอบ และดูแลในภาพรวม ตามแนวทางที่ คสช.กำหนด ซึ่งขณะนี้กิจกรรมสมานฉันท์ได้เริ่มในหลายพื้นที่แล้ว มีรูปแบบเริ่มตั้งแต่ระดับครอบครัว ชุมชน หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัด ให้ครอบครัวสามารถอยู่ร่วมกันได้ สำหรับโมเดลและรูปแบบ จะชัดเจนหลังแต่ละพื้นที่มีความพร้อม เพราะในพื้นที่มีปัญหาที่แตกต่างกัน ข่าวที่เกี่ยวข้อง : คสช.สั่งมอบอาวุธสง คราม10มิ.ย.-โคทม, อำนวยรายงานตัว http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=540823