ไทยยูเนี่ยนประกาศคงเป้ารายได้ปีนี้ 4 พันล้านดอลลาร์ อานิสงส์ทูน่าราคาตก เงินบาทอ่อนค่า หวังไตรมาส 3 ปี 2557 ผลประกอบการดีที่สุด ในปีที่ผ่านมาเป็นปีที่กดดันกลุ่มธุรกิจอาหารแช่แข็ง และส่งออกอย่างมาก จากการผันผวนของค่าเงินบาท และโรคระบาดในกุ้งกดดันผลประกอบการ แต่ในปีนี้ทิศทางของธุรกิจมีแนวโน้มที่ดีขึ้น นายวายยัท ปาโก้ ลี รองผู้จัดการทั่วไปนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจผลการดำเนินงานในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายรายได้ 4 พันล้านดอลลาร์ ผลจากวัตถุดิบหลักปลาทูน่า มีราคาลดลง “ราคาปลาทูน่าลดลงต่อเนื่อง เหลือ 1,225 ดอลลาร์ต่อตัน เทียบกับช่วงปลายปี 1,400 ดอลลาร์ต่อตันลดลง 22% ส่งผลต่อยอดขายภายใต้แบรนด์ของเราเริ่มดีขึ้น มีกำไรที่ดีต่อเนื่อง แนวโน้มไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 ยังได้รับผลดีด้วย” เขากล่าวว่าบริษัทยังได้รับอานิสงส์ค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ทำให้รายได้ในรูปสกุลเงินบาทปรับเพิ่มขึ้น 14% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หากในระยะต่อไปค่าเงินบาทยังทรงตัวระดับ 32.5 ถึง 33.5 ดอลลาร์ จะส่งผลดีต่อธุรกิจ โดยตลาดที่เติบโตต่อเนื่อง คือประเทศสหรัฐ มีส่วนแบ่งจากยอดขาย 43% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ที่มีส่วนแบ่ง 42% ผลจากบริษัทลูกมีผลงานดี มีมาร์เก็ตแชร์อยู่อันดับที่ 3 ยุโรปคงที่ 30% ในประเทศ คงที่ 7% แต่ยอดขายในญี่ปุ่น 5% ลดลงจากเดิม 7% เพราะกำลังซื้อหายไป ทั้งนี้ ไตรมาสที่ 1/2557 มียอดขาย 27,948 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.3% กำไรขั้นต้น 4,158 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56% กำไรสุทธิ 1,014 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 120.4% เมื่อพิจารณาส่วนแบ่งผลิตภัณฑ์พบว่า ในทุกกลุ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นทั้งหมด ยกเว้น กุ้ง ยังคงเจอปัญหาโรคตายด่วน (อีเอ็มเอส) อาจขยายตัวได้เพียง 10 % เท่านั้น ธุรกิจแพ็คฟู้ดปรับตัวดีขึ้น จากการควบรวมกำลังการผลิตกับบริษัทลูกที่ซื้อกิจการเข้ามาในปี 2556 ส่วนปลาซาร์ดีน คุณภาพอาจแย่ลงบ้าง กดดันกำไร โดยยอดขายในปัจจุบัน ปลาทูน่ายังสูงที่สุด 48% กุ้ง 23% อาหารสัตว์ 8 %ปลาซาดีน 6% แซลมอน 4% สำหรับงบลงทุนปีนี้ 3,500 ล้านบาทอยู่ในระดับปกติ ใช้ในการซ่อมแซมโรงงานและขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ส่วนการซื้อกิจการยังให้ความสนใจ แต่ต้องดูความคุ้มค่า จะเน้นในธุรกิจที่มีความชำนาญ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี เปิดเผยว่า กำไรของบริษัท ไทยยูเนี่ยน ปีนี้จะอยู่ที่ 5.1 พันล้านบาท หรือเติบโตจากปีก่อน 82 % แม้กำไรก่อนรายการพิเศษในไตรมาสที่ 1/2557 จะต่ำกว่าที่คาด คิดเป็น 13 % ของกำไรทั้งปี แต่เชื่อว่าการเร่งตัวของยอดขายช่วงที่เหลือของปีจะทำกำไรดีขึ้นจากการประหยัดขนาด ต้นทุนวัตถุดิบทูน่าเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คำสั่งซื้อทูน่ารูปแบบรับจ้างผลิตเพิ่มขึ้น และธุรกิจทูน่าในแบรนด์ของบริษัทมีการทำกำไรที่ดี โดยคาดว่ากำลังซื้อจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งปีแรก สำหรับศักยภาพในระยะยาว บริษัทจะมีการเติบโตที่ดี เพราะเป็นผู้นำตลาดทูน่ากระป๋อง และมีความแข็งแกร่งด้านตราผลิตภัณฑ์และความได้เปรียบด้านต้นทุนวัตถุดิบ การขยายตลาดใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเพิ่มมูลค่า ขณะที่การจ่ายเงินปันผลยังอยู่ในระดับ 3 % ต่อปี อีกทั้งการปรับตัวลงของราคาหุ้นมีจำกัด Tags : ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ • TUF • รายได้ • กำไร • ทูน่า