โบรกเกอร์ทองคำประเมินราคาปรับลดลงต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันร่วง ลั่นราคาในประเทศเห็นต่ำสุด 17,000 บาท ภาพรวมของเศรษฐกิจในตลาดต่างประเทศแนวโน้มดีขึ้น เช่น สหรัฐที่มีแนวโน้ม จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุน ลดการถือครองในตลาดทองคำแล้วหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนดีกว่า ส่งผลให้ราคาทำคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองคำในตลาดโลกปีหน้า ยังคงเป้ากรอบราคาทองคำเดิมที่ 1,100-1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทิศทางหลักยังคงมีโอกาสเคลื่อนไหวลดลง ส่วนราคาทองในไทย ยังประเมินกรอบการเคลื่อนไหวยาก เนื่องจากต้องติดตามประเด็นค่าเงินเป็นสำคัญประกอบกัน "ราคาทองในประเทศปรับลดลง แต่ถือว่ายังร่วงน้อยกว่าตลาดต่างประเทศ เพราะเงินบาทอ่อนค่าช่วยหนุนอยู่ ส่วนปีหน้าราคาทอง ยังมีโอกาสร่วงมากกว่านี้ เพราะนักลงทุนเริ่มลดบทบาทในสินค้าทอง หันไปตลาดหุ้นมากขึ้น ซึ่งการลงทุนในสินค้าทองคำปีหน้า ยังคงแนะนำให้เก็งกำไรระยะสั้นตามเดิม" นายจิตติกล่าว นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอ็มทีเอส โกลด์ฟิวเจอร์ กล่าวว่า การที่ราคาทองคำในตลาดโลกและในประเทศปรับลดลง เพราะมีแรงเทขายออกมาจากปัจจัยลบ กรณีที่สวิตเซอร์แลนด์ ไม่เพิ่มสัดส่วนการใช้ทองคำ ตามที่มีการคาดการณ์กันไว้ล่วงหน้า ทำให้ราคาทองคำลดลงมาอยู่ที่ 1,155 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลงต่อเนื่อง โดยคาดว่าช่วงต้นปีหน้าราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลดลงต่ำสุดรอบ 6 ปีที่ 1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งคาดว่าอาจจะต่ำกว่าในระดับดังกล่าวในช่วงต้นปี 2558 เนื่องจากราคาสินค้าคอมมูนิตี้ โดยเฉพาะน้ำมันที่มีความผันผวนและปรับลดลงต่อเนื่อง "ราคาทองคำในประเทศปรับลดลงมาครั้งแรก 250 บาทต่อบาททองคำและระหว่างวันก็แกว่งตัวขึ้นมา ราคาทองคำในประเทศมีโอกาสจะยืนที่ระดับ 1,7000 บาทต้นๆ ในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2558 ซึ่งปัจจัยที่จะเป็นเรื่องที่กดดันราคาทองคำ ก็คือ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะเกิดขึ้นก็จะส่งผลให้ราคาทองคำอ่อนตัวทันที" กรรมการผู้จัดการกล่าว ด้านนักวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมัน ที่ลดลงรวมถึงการไม่เห็นด้วยในการเพิ่มสัดส่วนทองคำของประชามติในสวิตเซอร์แลนด์ ทำให้มีการปรับตัวลงใกล้ทดสอบแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำมีการดิ่งลงอย่างหนัก โดยปัจจัยลบสำคัญอยู่ที่การปรับตัวลงของราคาน้ำมันหลังจากที่โอเปค มีมติคงการผลิตน้ำมันไว้ดังเดิม รวมถึงผลการลงประชามติของธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ที่ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยในการเพิ่มสัดส่วนทองคำในเงินทุนสำรอง โดยมีเสียงไม่เห็นด้วยกว่า 77% ทั้งสองปัจจัยกดดันราคาทองคำอย่างหนัก ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจจีนอย่างดัชนี PMIภาคการผลิตออกมาใกล้เคียงที่คาด ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.90 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มอ่อนค่ากองทุน SPDR ถือครองทองคำที่ 718.82 ตัน ไม่เปลี่ยนแปลง "ราคาทองคำมีการปรับตัวลงอย่างหนัก และหลุดแนวรับที่ระดับ 1,160 ดอลลาร์ ทำให้มีโอกาสลงทดสอบแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ที่จุดต่ำสุดเดิม โดยหากหลุดแนวรับดังกล่าว จะมีโอกาสลงทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่แนวรับจิตวิทยาที่สำคัญ" Tags : จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี • ราคาทองคำ • ราคาน้ำมัน