"อดิศร" ระบุ กฎหมายค้ำประกันใหม่ มีผลกระทบโดยตรงในการอนุมัติสินเชื่อให้กับเอสเอ็มอีกู้เงินยากขึ้น นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย กล่าวถึงการประกาศใช้พ.ร.บ.แพ่งและพาณิชย์ พ.ศ.2557 ว่าด้วยการลดภาระของผู้ค้ำประกัน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือน ก.พ. 2558 ว่า ธนาคารพาณิชย์ต้องปรับกระบวนการพิจารณาการให้สินเชื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ. ดังกล่าว ซึ่งยอมรับจะมีผลกระทบโดยตรงในการอนุมัติสินเชื่อให้ธุรกิจขนาดกลางหรือขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี อาจจะไม่สามารถขอสินเชื่อได้ตามความต้องการ หรือวงเงินการให้สินเชื่อน้อยลง เพราะสินเชื่อเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจขนาดเล็ก ต้องใช้ผู้ค้ำประกัน แตกต่างจากสินเชื่อบ้าน สินเชื่อบุคคล ที่ใช้ที่อยู่อาศัยค้ำประกัน และพิจารณาจากรายได้ของผู้กู้ ดังนั้นเมื่อไม่มีผู้ค้ำประกันแล้ว ธนาคารก็ต้องพิจารณาส่วนอื่นๆประกอบการตัดสินใจมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาข้อมูลของเอสเอ็มอีมีไม่มากพอ และเมื่อไม่มีผู้ค้ำประกัน ทำให้ความสามารถในการกู้เงินก็น้อยลง ธนาคารต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบมากขึ้น และพิจารณาเป็นรายกรณี นายอดิศร กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีหน้า ว่า อาจไม่ฟื้นตัวแรงน่าจะโตได้น้อยกว่าที่คาด ทำให้มองว่า แนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายในปี 2558 ยังทรงตัวระดับต่ำ หรืออาจจะมีการปรับลดลง ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คงจะรอดูตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส ที่ 4 ของปี2557 ว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้นตามคาดหรือไม่ ซึ่งการกำหนดนโยบายการเงิน มองว่าธปท. จะใช้นโยบายดอกเบี้ยในการดูแลอัตราแลกเปลี่ยน มากกว่ากระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นเมื่อดอกเบี้ยมีทิศทางขาลง ทำให้ประชาชนสนใจออมเงินระยะยาวมากขึ้น ธนาคารจึงได้ออกเงินฝากประจำพิเศษระยะยาว 15 เดือน ดอกเบี้ย ร้อยละ 3.5 สำหรับบัญชีเงินฝากบุคคลธรรมดา ขั้นต่ำฝาก 50,000 บาท ระหว่าง 1 – 31 ธ.ค 2557 ต้อนรับเทศกาลวันพ่อ และปีใหม่ ทั้งนี้เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าสามารถออมระยะยาว ด้วยการล็อคดอกเบี้ยในระดับสูงไว้ได้ ภายใต้ภาวะดอกเบี้ยที่น่าจะลดลง คาดระดมเงินฝากรอบนี้ได้ 7,000-8,000 ล้านบาท Tags : อดิศร เสริมชัยวงศ์ • เอสเอ็มอี • กู้เงิน • ธนาคารซีไอเอ็มบี