"ก้องเกียรติ"เสนอปรับความชันหรือการปรับขึ้นของราคาหุ้นต่ำกว่า1บาท ป้องกันราคาขึ้นสูงผิดปกติกับการเก็งกำไร นายก้องเกียรติ โอภาสวง ประธานกรรมการบริหาร บล.เอเชีย พลัส เปิดเผยว่า เขาได้เสนอมาตรการควบคุมหุ้นที่มีความร้อนแรงกับนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเสนอให้มีการปรับช่องว่างการปรับขึ้นของราคาของหุ้นที่มีการเก็งกำไรสูง มีราคาที่ต่ำกว่า 1 บาทใหม่ เพราะการปรับเพิ่มขึ้นของราคาในแต่ละช่องจะมีการปรับเปลี่ยนของราคาที่สูงกว่าปกติ "มาตรการที่ควรจะมีในหุ้นที่เก็งกำไรสูง คือการปรับบันไดการปรับเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นให้มีความชันน้อยลง โดยเฉพาะในหุ้นที่ราคาต่ำมากๆ ในหลักสตางค์ การปรับเพิ่มขึ้น1ช่อง ทำให้มีผลกำไรที่สูงในระดับ 20% ถ้ายังเป็นลักษณะนี้นักลงทุนก็แค่แข่งกันตั้งคำสั่งซื้อขาย ราคาขยับช่องเดียวก็ได้กำไรหรือขาดทุนเยอะมาก" นอกจากนี้อาจบังคับให้หุ้นมีการเก็งกำไรสูงและราคาต่ำมากๆ ต้องเพิ่มจำนวนการส่งคำสั่งซื้อขายขั้นต่ำเพิ่มขึ้น เช่นจากเดิมที่กำหนดไว้ที่ 100 หุ้นต่อหนึ่งคำสั่ง เป็น 1 ล้านหุ้นต่อหนึ่งคำสั่ง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการส่งคำสั่งที่น้อยเกินไป จำกัดผู้ที่เข้าไปเก็งกำไรในหุ้นให้ลดลง โดยมาตรการแบบนี้มีความคล้ายคลึงกับในต่างประเทศอย่างในสหรัฐ ที่หลักทรัพย์ใดที่มีราคาต่ำมากๆ หรือในหุ้นที่เรียกว่าเพนนีสต็อก มีการเก็งกำไรสูงมากกว่า 20 วัน หลักทรัพย์นั้นจะถูกให้มีการรวมหุ้นให้มีจำนวนน้อยลงและมีมูลค่าสูงกว่า 1 ดอลลาร์ทันที ซึ่งจะช่วยลดการเก็งกำไรในหุ้นได้ อย่างไรก็ตามสำหรับมาตรการควบคุมหุ้นที่มีความร้อนแรง ทั้ง 3 มาตรการ มองว่าจะช่วยลดความร้อนแรงของหุ้นขนาดเล็กได้ จำกัดวงของผู้เล่นให้น้อยลง และจำกัดความเสียหาย แต่มาตรการที่เสนอเข้าไปใหม่นั้น จะเป็นมาตรการเสริมกับมาตรการที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า จากมาตรการควบคุมหุ้นที่มีความร้อนแรงที่เสนอเข้ามาใหม่นั้น ทางตลาดหลักทรัพย์ยินดีที่ผู้เกี่ยวข้องในตลาดทุนช่วยกันแก้ปัญหาและรับฟัง พร้อมที่จะพิจารณาแนวทางดังกล่าวเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตามทางตลาดหลักทรัพย์ได้ออกมาตรการควบคุมหุ้นที่มีความร้อนแรงเป็น 3 มาตรการ และยังไม่ได้มีการบังคับใช้ ดังนั้นตลาดหลักทรัพย์ฯจึงอยากจะขอเวลาในการพิจารณาผลจากมาตรการที่พึ่งออกไปในระยะหนึ่งก่อน ทั้งนี้มาตรการที่ตลาดหลักทรัพย์จะนำมาใช้ในต้นปีหน้านั้น จะดูแลหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ โดยในขั้นตอนแรกหากราคาหุ้นใดที่เคลื่อนไหวผิดปกติและถูกให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมกับนักลงทุน (เทรดดิ้งอะเลิร์ท) และให้ทำการซื้อขายด้วยเงินสดทันที 3 สัปดาห์ หากครบกำหนดแล้วยังมีความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ จะถูกสั่งให้ซื้อขายด้วยเงินสดเพิ่มเติมอีก 3 สัปดาห์ และเพิ่มความเข้มข้น โดยห้ามนำหลักทรัพย์นั้นเป็นหลักประกันในการซื้อขายหุ้น หากราคาหุ้นยังมีการเก็งกำไรสูงต่อเนื่อง จะถูกสั่งให้ทำการซื้อขายด้วยเงินสดอีก 3 สัปดาห์ และไม่สามารถชำระราคาได้ภายในวันเดียว Tags : ก้องเกียรติ โอภาสวงการ • สเปรดหุ้น