ตลาดหลักทรัพย์เสนอปลดล็อก กฎหมายเอกชนร่วมทุน หลังยังต่ำเทียบกับเพื่อนบ้าน เหตุไม่มาตรการภาษีช่วย นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ กล่าวในงานสัมมนา BEYOND SME PART 2 : POWER OF IT เพิ่มโอกาสเติบโตอย่างก้าวกระโดดว่า ในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยมีการลงทุนในลักษณะ นิติบุคคลร่วมลงทุน ค่อนข้างน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยไทยมีการลงทุนในระดับ พันล้านบาท แต่ในประเทศ มาเลเซีย อยู่ในระดับที่ 2 แสนล้าน ทำให้ต้องหาวิธีการส่งเสริมการลงทุนมากขึ้น "ช่วงที่ผ่านมาประเทศไทย สนับสนุนนิติบุคคลร่วมลงทุน ทั้งการให้สิทธิกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จัดตั้ง กองทุนรวม ที่ลงทุนในรูปแบบดังกล่าว ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ทั้งภาษีเงินปันผลและภาษีรายได้จากการขายหุ้น เป็นเวลา 5 ปี แต่ไม่มีการต่อมาตรการดังกล่าว หลังจากนั้นทำให้กองทุนร่วมลงทุนหายไป ทำให้ในช่วงที่ผ่านมา มีบริษัทที่เติบโตจากการร่วมลงทุนของเอกชนเพียง 2 ราย ที่สามารถผลักดันเข้าสู่การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอได้" นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า แต่ปัจจุบันเริ่มมีสัญญาณที่ดี ภาครัฐเริ่มให้ความสนใจ ทั้งกระทรวงการคลังที่มีแนวคิดจะจัดตั้งกองทุน เพื่อลงทุนในรูปแบบดังกล่าวมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท เพื่อสนับสนุนในเอสเอ็มอีให้เติบโตได้ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) หรือ สสว. ที่มีเงินทุนในการสนับสนุนเอสเอ็มอีกว่า 5 พันล้านบาท และเหลือวงเงินกว่า 700 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนลงทุนเพิ่มเติม รวมถึงภาคเอกชนอีกหลายราย ที่เห็นประโยชน์การเติบโตของเอสเอ็มอี สนใจเข้าร่วมลงทุน นอกจากนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง มีแนวคิดจะนำกฎหมายนิติบุคคลร่วมลงทุน เพื่อเสนอสู่กระทรวงการคลัง ผลักดันให้กลับมาอีกครั้ง โดยนำร่างกฎหมายเดิมมาปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยมากขึ้น โดยปรับลดเงื่อนไขที่มีความซ้ำซ้อนให้ลดลง ผู้ที่ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินปันผล และกำไรจากการซื้อขายหุ้นเป็นเวลา 5 ปี โดยให้ใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ได้รับการพิจารณาจากสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ สสวท. โดยในความคิดเห็น ควรเปิดกว้างให้มากกว่า 10 อุตสาหกรรม และปลดล็อกเงื่อนไขสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้ไม่จำกัดระยะเวลา เพื่อดึงดูดให้เกิดการลงทุนที่มากขึ้น ด้านนายคิมห์ สิริทวีชัย รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การลงทุนในลักษณะนิติบุคคลร่วมลงทุน เป็นสิ่งที่น่าสนใจลงทุนอยากมาก เพราะช่วยให้เอสเอ็มเอที่เข้าไม่ถึงแหล่งทุนเติบโตได้ดี โดยบริษัทมีนโยบายในการลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของบริษัท และเกื้อหนุนธุรกิจหลักของบริษัทแม่ได้ โดยใช้วิธีการตั้งงบปีละ 200 ล้านบาท เพื่อลงทุนด้านนี้โดยเฉพาะ ปัจจุบันลงทุนไปแล้ว 4 โครงการ และอยู่ระหว่างพิจารณาอีก 3 - 4 โครงการ "การลงทุนช่วงที่ผ่านมาถือว่าคุ้มค่า บริษัทที่เข้าลงทุนแห่งหนึ่ง อินทัชเข้าไปร่วมถือหุ้นช่วงตั้งธุรกิจ 25% ใช้เงินลงทุน 57 ล้านบาท แต่พอบริษัทเติบโตได้ระยะหนึ่ง มีบริษัทญี่ปุ่นสนใจเข้าลงทุนด้วย โดยเข้ามาถือหุ้น 11% ใช้เงินลงทุนมากกว่า 70 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทตั้งเป้า จะถือหุ้นบริษัทที่ร่วมลงทุน จนกว่าบริษัทเหล่านี้จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอได้" Tags : ประพันธ์ เจริญประวัติ • ตลาดหลักทรัพย์ • ปลดล็อก