ผู้จัดการตลาดเอ็มเอไอ เผย พีอีลดเหลือ 60 เท่า หลังผลประกอบการไตรมาส 3 ออกมาดี รับมาตรการคุมหุ้นร้อนเหมาะสม นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้ช่วยผู้จัดการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ เปิดเผยว่า ภาวะตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ มีระดับราคาปิดกำไรต่อหุ้น (พี/อี) ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 60 เท่า เป็นผลมาจากผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปรับตัวดีขึ้น แต่ยังมีระดับพี/อีสูงอยู่ โดยมองว่า ระดับพี/อี ที่เหมาะสมน่าจะอยู่ในระดับสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ 20-30% "พี/อีของตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอปรับตัวลดลง มาอยู่ในระดับ 60 เท่า ซึ่งเป็นผลมาจากผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 3 ที่ดีขึ้น แต่ยอมรับว่าการปรับตัวลดลงส่วนหนึ่งอาจมาจากการปรับตัวลดลงของราคาหุ้น เป็นไปตามภาวะของตลาดหุ้นทั่วไป"นายประพันธ์ กล่าว ส่วนการปรับตัวลดลงของราคาหุ้นนั้น อาจเป็นเพราะในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนบางส่วน มีกำไรในการลงทุน และเห็นโอกาสที่จะขายทำกำไรช่วงหลังประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3 แต่การปรับตัวลดลงของระดับพี/อี ปัจจุบัน ยังไม่ถือว่าเป็นช่วงที่เหมาะสม ระดับพี/อี จะอยู่ในระดับที่สูงอาจมากกว่า 1 ปี เนื่องจากต้องรอผลประกอบการหลังจากนี้ ตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีนี้ และไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ของปี 2558 ต้องออกมาดี จึงจะสามารถดึงระดับพี/อีปกติได้ ดังนั้นระดับพีอีที่เหมาะสม จะอยู่ในระดับไหนนั้น นายประพันธ์ มองว่า หากมองดัชนีตลาดหุ้นไทย เป็นมาตรฐานที่เหมาะสม ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ มักซื้อขายในราคาที่พรีเมียมมากกว่า โดยระดับพี/อีของตลาดหุ้นไทยปัจจุบันอยู่ที่ 18 เท่า โดยพี/อีที่เหมาะสมของตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ น่าจะสูงกว่าระดับ 20-30% สำหรับมาตรการดูแลหุ้นที่มีความร้อนแรงที่ออกมา 3 มาตรการใหม่ ทั้งการบังคับให้ซื้อขายด้วยเงินสดทันทีเป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ หากมีการขึ้นเครื่องหมายเทรดดิ้งอะเลิร์ท และหากไม่หยุดความร้อนแรง จะห้ามเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันบัญชี และให้การซื้อขายด้วยเงินสดต่ออีก 3 สัปดาห์ และหากยังไม่หยุดความร้อนแรงจะมีมาตรการสูงสุด คือ ห้ามชำระราคาในวันเดียว "มองว่าที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ มีมาตรการดูแลการซื้อขายที่เหมาะสมอยู่แล้ว ทั้งการให้หุ้นที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ ซื้อขายด้วยเงินสด หรือ แคชบาลานซ์ ซึ่งการปรับเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการนั้น ผมมองว่ามีความเหมาะสม เพราะมีลำดับการเพิ่มขึ้นของความเข้มงวด ตามความรุนแรงของการเก็งกำไร"นายประพันธ์ กล่าว สำหรับความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ พบว่า ปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียน 109 บริษัท ระดับพี/อี อยู่ที่ 67.11 เท่า ลดลงจากเดือนต.ค.ที่ 78.30 เท่า มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 9,858.09 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 391,507.22 ล้านบาท โดยผลประกอบการไตรมาส 3 พบว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอมียอดขาย 30,418 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.33% ต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 7.67% ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 20.92% เพิ่มขึ้นจาก 20.44% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิรวม 1,369 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 160.64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งไตรมาส 3 มี บริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิ 77 บริษัท คิดเป็น 71% ของบริษัทจดทะเบียนที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด Tags : ประพันธ์ เจริญประวัติ • เอ็มเอไอ • พี/อี • มาตรการคุมหุ้นร้อน