นายกรัฐมนตรีรู้แล้ว มธ. มีเสวนาปฏิรูป เตรียมจัดให้เปิดเวทีรับฟังความเห็น ขออย่าตำหนิ คสช. - รบ. ขู่นักการเมืองพูดทำแตกแยก มีขั้นตอนจัดการ ส่วนคดีตำรวจรับส่วย ให้เป็นไปตามกระบวนการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวว่า กรณีที่มีการเสวนาเรื่องการปฏิรูปประเทศ ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวานนี้ ส่วนตัวได้รับฟังและได้ให้ไปรับข้อเสนอมา อย่างไรก็ตาม การจัดสัมมนาต่างๆ ต้องไม่เป็นการตำหนิ คสช. หรือ รัฐบาล พร้อมเปิดเผยว่าเตรียมที่จะมีการเปิดเวทีรับฟังความคิดของนักศึกษาและนักวิชาการด้วย ขณะเดียวกันยังระบุว่า คสช. ได้ติดตามการแสดงความคิดเห็นของนักการเมือง ซึ่งหากออกมาแสดงความคิดเห็นให้เกิดความขัดแย้ง คสช. ก็มีมาตรการที่จะดำเนินการต่อไป เช่น ไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศ หรือห้ามทำธุรกรรมทางการเงิน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่การจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงในข้อหาเรียกรับสินบนนั้น เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายและจะมีการขยายผลหาผู้เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งหากใครกระทำความผิดก็จะต้องถูกดำเนินคดี ทั้งนี้ คาดหวังว่าปัญหาการเรียกรับส่วยจะลดลง ส่วนเรื่องการปฏิรูปตำรวจนั้นมีอยู่ในขั้นตอนการปฏิรูปประเทศอยู่แล้ว นายกฯให้คสช.ดูกลุ่มต้าน-เตือนอย่าพูดให้แตกแยก พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีถึงการประชุมร่วม 5 ฝ่าย ว่า มีความพยายามของบางกลุ่มที่ออกมาก่อกวน ซึ่งทาง คสช. จะต้องดูแลให้เกิดความแนบเนียนและเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย โดยเริ่มจากมาตรการเบาไปหาหนัก ขณะเดียวกันทางกระทรวงการต่างประเทศก็ต้องสร้างความเข้าใจกับชาวต่างชาติให้เข้าใจการทำงานของ คสช. ด้วย ส่วนการให้สัมภาษณ์ของคู่ขัดแย้งทางการเมืองหากเป็นการแสดงวาทกรรมนั้นสามารถทำได้ แต่หากเกิดความขัดแย้งทำให้เกิดการต่อต้านผู้พูดจะต้องรับผิดชอบ โดยอาจจะระงับธุรกรรมทางการเงิน หรือ ห้ามออกนอกประเทศ รวมถึงประสานไปยังสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. ให้ฟังความคิดเห็นที่หลากหลายและมีกรอบแนวทางจากประเทศอื่น ๆ มาเป็นแนวทาง ทั้งนี้ เรื่องใดๆ ก็ตามที่ สปช. รับมาและเห็นว่ารัฐบาลพร้อมก็ขอส่งเรื่องให้รัฐบาลปฏิบัติ ส่วนเวทีการแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ขอให้ทำเอกสารส่งมายังรัฐบาล โดยจะต้องแยกการแสดงความคิดเห็นกับการต่อต้านออกจากกัน ซึ่งขณะนี้ผ่านมาแล้ว 6 เดือน ก็ขอประชาชนให้ความร่วมมือในการปฏิรูปประเทศมากกว่าการต่อต้าน เพื่อให้การปฏิรูปสามารถเดินหน้าต่อไปได้