(รายงาน) ปรับราคาพลังงานรอบสุดท้าย คนไทยใช้ตาม "ต้นทุน" สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อ่อนตัวลงและนักวิเคราะห์จากหลายสำนักคาดการณ์ในปีหน้าราคาน้ำมันจะอยู่ที่ระดับ 90-95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กระทรวงพลังงานสามารถเดินหน้าปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งในส่วนของน้ำมันและก๊าซได้ราบรื่น การปรับโครงสร้างราคาน้ำมันให้กลุ่มน้ำมันเบนซินขยับเข้ามาใกล้เคียงกับดีเซล โดยที่ถูกเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและเสียภาษีสรรพสามิตในอัตราเดียวกัน ถือเป็นหลักการที่ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เน้นย้ำอยู่หลายครั้ง “ของคล้ายกัน ราคาต้องใกล้กัน เสียภาษีก็ต้องเท่าเทียมกัน ส่งเงินเข้าหรือรับเงินจากกองทุนก็ต้องเท่าเทียมกัน โดยกองทุนจะใช้เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาเป็นหลัก ทั้งน้ำมันและแก๊ส อีกไม่นาน เราจะได้เห็นโครงสร้างราคานี้” นายณรงค์ชัย เขียนอธิบายย้ำถึงเรื่องของการปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน ในเฟซบุ๊คส่วนตัว ย้อนไปเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 ที่ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาควบคุมอำนาจ ราคาขายปลีกเบนซิน 95 อยู่ที่ 49.15 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 อี 10 อยู่ที่ 41.13 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อี10 อยู่ที่ 38.68 บาทต่อลิตร และดีเซลอยู่ที่ 29.99 บาทต่อลิตร โดยที่ค่าการตลาดเฉลี่ยของผู้ค้าอยู่ที่ 1.66 บาทต่อลิตร และเบนซิน 95 ต่างจากดีเซลอยู่ที่ 19.16 บาทต่อลิตร และแก๊สโซฮอล์ 95 ต่างจากดีเซล อยู่ที่ 11.14 บาทต่อลิตร ปัจจุบัน (21 พ.ย.2557) หรือผ่านไป 6 เดือน.ราคาขายปลีกเบนซิน 95 อยู่ที่ 41.66 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 อี10 อยู่ที่ 34.60 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์91อี10 อยู่ที่ 32.58 บาทต่อลิตร และดีเซลอยู่ที่ 29.39 บาทต่อลิตร ค่าการตลาดเฉลี่ยของผู้ค้าอยู่ที่ 2.40 บาทต่อลิตร และส่วนต่าง ราคาเบนซิน95 กับดีเซล ลดลงมาอยู่ที่ 12.27 บาทต่อลิตร และส่วนต่างของแก๊สโซฮอล์95 กับดีเซลลดลงมา อยู่ที่ 5.21 บาทต่อลิตร นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันปี 2558 จะยังคงผันผวนและทรงตัวระดับสูงกว่าปัจจุบัน โดยคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 90-95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากสหรัฐฯสามารถผลิตน้ำมันดิบได้สูงขึ้นต่อเนื่องทำให้ลดพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดิบลง และปัจจุบันสหรัฐกลายเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกในกลุ่มที่ไม่ใช่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันโอเปก นายณรงค์ชัย กล่าวว่า แนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อ่อนตัวลงมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้กองทุนน้ำมันสามารถเรียกเก็บเงินจากดีเซลได้มากขึ้น มาอยู่ที่4.30บาทต่อลิตรในปัจจุบัน ซึ่งจะมีการเรียกเก็บเงินเพิ่มจนกองทุนมีเงินสะสมในระดับที่เหมาะสม จึงจะหยุดการจัดเก็บ และจะมีการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตดีเซลเพื่อเป็นรายได้ให้กับรัฐจากปัจจุบันที่เก็บเพียง 75สตางค์ต่อลิตร ในขณะที่กลุ่มเบนซินเก็บอยู่ประมาณ 5 บาทต่อลิตร ซึ่งไม่เป็นธรรม อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตดีเซลจะไม่มีผลต่อราคาขายปลีกดีเซล เพราะอีกด้านหนึ่งจะมีการลดการจัดเก็บการนำส่งเงินของดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันลง และกองทุนน้ำมันจะทำหน้าที่รักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันในอนาคต คือในช่วงที่ราคาในตลาดโลกปรับขึ้นราคาขายปลีกในประเทศจะปรับขึ้นตามในช่วงจังหวะที่ช้ากว่า แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานอยู่ในระหว่างการหารือกับกระทรวงการคลังถึงอัตราภาษีสรรพสามิตของดีเซลที่จะปรับขึ้น ว่าควรจะอยู่ในระดับ 3 บาทหรือ 4 บาทต่อลิตร ซึ่งขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันในตลาดโลกจากนี้ไปจนถึงช่วงปีใหม่ว่าจะเป็นอย่างไร หากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงมาอีก กระทรวงพลังงานอาจจะฉวยจังหวะเสนอปรับโครงสร้างราคาน้ำมันในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ที่จะประชุมต้นเดือนธันวาคมนี้ โดยอัตราภาษีสรรพสามิตทั้งเบนซินและดีเซลจะอยู่ในอัตราเดียวกัน และสามารถที่จะปรับลดราคาทั้งในส่วนของเบนซิน แก๊สโซฮอล์ รวมทั้งดีเซลอีกเล็กน้อย เพื่อให้มีผลในเชิงจิตวิทยาว่า รัฐบาลการปรับโครงสร้างราคาพลังงานบรรลุเป้าหมายที่สามารถลดราคาน้ำมันเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน "กองทุนน้ำมันมีฐานะเป็นบวกกว่า 4 พันล้านบาท มากพอจะรักษาระดับราคาไปจนกว่าจะพ้นช่วงปีใหม่ได้"แหล่งข่าวกล่าว ในส่วนของก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ที่อาจจะมีการปรับขึ้นนั้น ปัจจุบันต้นทุนเฉลี่ยที่เราใช้อยู่ที่ประมาณ 17.30 บาทต่อกิโลกรัม โดยเมื่อบวกภาษีสรรพสามิต 2.17 บาทต่อกิโลกรัม ภาษีอื่นๆ ทุกขั้นตอนอีก 1.70 บาทต่อกิโลกรัม และค่าการตลาด 3.26บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ราคาอยู่ที่ 24.43 บาทต่อกิโลกรัม แต่ที่ให้ขายอยูที่ 23.13 บาท ต่อกิโลกรัม เพราะรัฐยังเอาเงินกองทุนน้ำมันไปอุดหนุนอยู่ประมาณ 1.30 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งส่วนนี้จะต้องมีการทยอยปรับขึ้นราคาเพื่อไม่ให้มีการอุดหนุนเลยในที่สุด อย่างไรก็ตาม ครัวเรือนที่มีรายได้น้อย (ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือน) และร้านหาบเร่แผงลอยขนาด พื้นที่ไม่เกิน 50 ตารางเมตร ยังสามารถซื้อก๊าซหุงต้มในราคาเดิมคือ 18.13 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับราคาเอ็นจีวีที่ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 11.50 บาทต่อกิโลกรัม ก็มีข้อเสนอที่จะปรับขึ้นประมาณ 1 บาทต่อกิโลกรัมทุก 6 เดือน โดยที่ปตท.จะต้องเร่งขยายสถานีบริการให้ทั่วถึงตามที่ตกลงไว้กับสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ทางด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การปรับโครงสร้างพลังงานของรัฐบาลที่พยายามจะไม่กำหนดเพดานราคาดีเซลเอาไว้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรนั้น หากแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ภาคอุตสาหกรรมจะสามารถที่จะรองรับราคาน้ำมันดีเซลที่ไม่เกิน 32 บาทต่อลิตรเท่านั้น โดยจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและขนส่งเล็กน้อย "หากเกินกว่านี้ ภาครัฐคงจะต้องมีมาตรการอื่นๆเข้ามาช่วยดูแลผู้ประกอบการ" ต้นเดือนธันวาคมนี้ คนไทยอาจจะได้เห็นการปรับโครงสร้างราคาพลังงานที่เดินมาสู่จังหวะสุดท้าย เมื่อราคาสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง แต่สิ่งท้าทายจากนี้ไป คือ หากแนวโน้มราคาพลังงานโลกเป็นช่วง"ขาขึ้น" รัฐบาลนี้หรือรัฐบาลต่อๆไป จะใช้นโยบายราคาพลังงานตาม"ต้นทุน"หรือไม่ Tags : ราคาน้ำมัน • ดีเซล • ส.อ.ท. • ไฟฟ้า • แอลพีจี • เอ็นจีวี • แก๊สโซฮอล์ • คสช.