นักวิเคราะห์กังวลเศรษฐกิจในประเทศ หั่นเป้ากำไรกลุ่มค้าปลีกปีหน้า 13.6% แต่มองกลุ่มสื่อสารกำไรไตรมาส 4 ดีสุด สอดคล้องกลุ่มยานยนต์ที่คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวปีหน้า ขณะที่ท่องเที่ยว-โรงแรมคาดฟื้นยาก ด้านเอกชน ประเมินเศรษฐกิจปีหน้ากระเตื้อง วอนยกเลิกกฎอัยการศึก ฟื้นเชื่อมั่นผู้บริโภค ท่องเที่ยว ลงทุน ภาคธุรกิจที่แท้จริง หรือ "เรียลเซ็กเตอร์" คือเครื่องสะท้อนสถานการณ์ธุรกิจของประเทศได้ที่สุด จากผลการดำเนินการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งในไตรมาส 3 และ 9 เดือนของปีนี้ พบว่าแม้ภาพรวม "ยอดขาย" จะยังคงปรับตัวสูงขึ้น แต่อยู่ในอัตราเร่งต่ำ เช่นเดียวกับ "กำไรสุทธิ" สะท้อนกำลังซื้อในประเทศที่ชะลอตัว การแข่งขันทางธุรกิจดุเดือดจนหั่นกำไรแต่ละบริษัทให้บางลง ทั้งนี้ผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ งวดไตรมาส 3/2557 มียอดขายเท่ากับ 2,895,548 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.29% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 194,851 ล้านบาท ลดลง 5.17% สำหรับงวด 9 เดือนปี 2557 มียอดขายรวม 8,580,260 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 614,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.23% ด้านอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน อยู่ที่ 1.23 เท่า นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมยอดขายไตรมาส 3 ปีนี้ของ บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ ยังคงเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ช่วยหนุนให้ยอดขายงวดสะสม 9 เดือนเติบโตเช่นเดียวกัน ซึ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากหลากหลายธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค อสังหาริมทรัพย์ และธนาคาร รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกสินค้าในบางอุตสาหกรรม เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาหาร และวัสดุก่อสร้าง นอกจากนี้ การขาดทุนสต็อกน้ำมัน ซึ่งเกิดจากราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงไตรมาส 3 ส่งผลกระทบต่อการทำกำไรของธุรกิจพลังงานและทำให้กำไรสุทธิไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนโดยรวมปรับตัวลดลง สำหรับกำไรสุทธิงวด 9 เดือนปี 2557 ปรับเพิ่มขึ้น 0.23% แต่หากไม่รวมกำไรจากรายการพิเศษที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการดำเนินงานในปี 2556 จะทำให้กำไรสุทธิงวด 9 เดือนของปี 2557 เพิ่มขึ้น 11.22% 'แบงก์-ปตท.'กำไรสูงสุด 5 อันดับแรก ทั้งนี้ บริษัทที่มีกำไรสุทธิ 9 เดือน ปี 2557 สูงสุด 5 อันดับแรก คือบริษัท ปตท. (PTT) บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) บริษัท ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB), บริษัท ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และ บริษัท ธนาคารกรุงเทพ (BBL) กลุ่มอุตสาหกรรม 3 อันดับแรกจาก 8 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสุทธิ 9 เดือนสูงสุด ได้แก่ ธุรกิจการเงิน ทรัพยากร และอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และสำหรับหมวดธุรกิจที่มีกำไร 9 เดือนสูงสุด 3 อันดับแรกจาก 28 หมวดธุรกิจ ได้แก่ พลังงานและสาธารณูปโภค ธนาคาร และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยทั้ง 3 หมวดมีกำไรสุทธิรวม 391,311 ล้านบาท คิดเป็น 63.69% ของกำไรสุทธิรวมทั้งหมด และยอดขายรวมของทั้ง 3 หมวดคิดเป็น 53.24% ของยอดขายรวมทั้งหมด โบรกฯหั่นกำไรกลุ่มค้าปลีกปีหน้า นักวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยมีมุมมองว่า เศรษฐกิจในประเทศกำลังชะลอตัว กำลังซื้อหดหาย จึงปรับลดประมาณการกลุ่มการค้าปลีก-ส่ง ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2557 ของบริษัทจดทะเบียนที่อิงกับการบริโภคในประเทศเป็นหลัก ผลการดำเนินงานออกมาทรงตัวหรือต่ำกว่าคาด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยฤดูกาลที่เป็นช่วงโลว์ซีซัน รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว ฝ่ายวิจัยปรับลดประมาณการกำไรปี 2557 และ 2558 ของกลุ่มค้าปลีก-ส่ง ลดลง 15.5% และ 13.6% ตามลำดับ เกิดจากการปรับลดกำไรของหลายบริษัท ได้แก่ บริษัท ซีพี ออลล์ (CPALL) โดยปรับลดประมาณการกำไรปีนี้และปีหน้าลงเฉลี่ยปีละ 5% บริษัท สยามแม็คโคร (MAKRO) ได้ปรับลดประมาณการกำไรในปีนี้และปีหน้าลง 8% และ 10% ตามลำดับ จากยอดขายและอัตราการทำกำไรที่ต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตามแนวโน้มกำไรปีนี้ยังเติบโต 16% จากปีที่แล้ว และปีหน้าเติบโตราว 24% จากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและผลบวกของการเปิดสาขาใหม่ เป็นต้น สำหรับกลุ่มปิโตรเคมีและโรงกลั่น ฝ่ายวิจัยคาดแนวโน้มกำไรกลุ่มปิโตรและโรงกลั่นในงวดไตรมาส 4/2557 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากงวด ไตรมาส 3/2557 เนื่องจากคาดราคาน้ำมันน่าจะมีความผันผวนลดลงซึ่งอาจทำให้เผชิญกับผลขาดทุนสต็อกน้ำมันลดลง รวมถึงคาดค่าการกลั่นจะเห็นการปรับตัวขึ้นตามฤดูกาลซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวได้ในช่วงปลายงวด ไตรมาส 4 ปีนี้ สื่อสารแชมป์กำไรโตไตรมาส4 ทีมวิเคราะห์ บล.เคเคเทรด กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานกลุ่มสื่อสารว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2557 ของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ 3 บริษัทที่ศึกษาจะเติบโตสูง จากฐานต่ำในไตรมาส 4/2556 และดีต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2557 โดยมีปัจจัยบวกฤดูกาลใช้งานโทรศัพท์มือถือและการเติบโตของยอดขายเครื่องโทรศัพท์มือถือจากการเปิดขาย iPhone 6 / 6 plus ด้านนักวิเคราะห์บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักการลงทุนหุ้นยานยนต์เท่ากับตลาด โดยคาดว่าผลการดำเนินงานกลุ่มยานยนต์ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/2557 แต่การฟื้นตัวยังค่อยเป็นค่อยไป และคาดว่าในปี 2558 ผลการดำเนินงานของกลุ่มยานยนต์จะกลับมาเติบโตได้ ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า กลุ่มอุตสาหกรรมที่จะเป็นโดดเด่นต่อไปยังคงจะต้องเป็นกลุ่มที่อิงกับอุปสงค์ภายในประเทศ อาทิ อสังหาฯ วัสดุก่อสร้าง และรับเหมา ในขณะเดียวกันแนะนำลดน้ำหนักกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทั้งโรงแรมและสายการบิน โดยถึงแม้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดือนล่าสุดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่เป็นการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวเอเชียตะวันออก ไม่ใช่นักท่องเที่ยวจากโซนยุโรป อเมริกา โอเชียเนีย ที่มีกำลังซื้อสูง "เอกชน"มองปีหน้าธุรกิจกระเตื้อง นายสรรค์ชัย เตียวประเสริฐกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคและฝ่ายธุรกิจอี คอมเมิร์ซ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือบีเจซี เปิดเผยว่า หากพิจารณาปัจจัยลบปีนี้ที่ส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภค (คอนซูเมอร์) ไม่ให้เติบโต มี 3 ปัจจัยหลัก คือ 1.กำลังซื้อที่ชะลอตัวไปมาก 2.การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไม่ดีนัก โดยมีสาเหตุจากการส่งออกที่ชะลอตัว ค่าแรงขั้นต่ำที่อยู่ในระดับสูงเกิน วันละ 300 บาท และ3.เงินในกระเป๋าของผู้บริโภคถูกดึงไปใช้จ่ายล่วงหน้า ในโครงการรถยนต์คันแรก อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่า ตลาดคอนซูเมอร์ในปีหน้า โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มที่ไม่ใช่อาหาร (นอนฟู้ดส์) คาดว่าจะเติบโตได้ 5-6% ส่วนหนึ่งเพราะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของกำลังซื้อผู้บริโภคที่เริ่มกลับมา ผู้ประกอบการก็ลดความร้อนแรงในการทำตลาด เพราะสินค้าคอนซูเมอร์มีอัตรากำไรไม่มากนัก ทั้งนี้ ปัจจัยบวกในปีหน้า แม้จะยังไม่เห็นภาพชัดเจนนัก แต่คาดการณ์ว่าเมื่อประเทศสงบ การท่องเที่ยวจะกลับมาคึกคัก โดยเฉพาะจากต่างชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายมาก รวมทั้งรัฐบาลคงไม่ปล่อยให้สถานการณ์ย่ำแย่ลง จึงต้องผลักดันมาตรการต่างๆ ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการช่วยเหลือภาคการเกษตร นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มทริปเปิลไอ โลจิสติกส์ กรุ๊ป กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจโลจิสติกส์ของบริษัทในช่วง 9 เดือน เติบโตกว่า 10% ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้จะเติบโต 20% โดยเฉพาะการขนส่งทางอากาศที่ค่อนข้างเหนื่อย เนื่องจากผู้ประกอบการส่งออกน้อยลง แต่การขนส่งทางเรือ และกลุ่มธุรกิจสินค้าเคมีและอันตราย ที่ยังเติบโตได้ 20% ก็แต่ไม่สามารถทดแทนยอดขายที่หดตัวลงได้ "การส่งออกมาเลเซีย เวียดนามโต แต่ของไทยติดลบ ทั้งที่ผู้ซื้อและตลาดเดียวกัน รัฐต้องตอบคำถามนี้ รวมทั้งวิเคราะห์สาเหตุว่าเกิดจากอะไร โดยเห็นว่าไทยจึงควรปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมการส่งออกใหม่ ว่าเราจะส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตใด เพื่อวางยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศในอนาคต" ส่วนแนวโน้มปี 2558 คาดว่าธุรกิจจะฟื้นตัวขึ้น จากปีนี้ฐานค่อนข้างต่ำ หากสถานการณ์การเมืองนิ่ง การท่องเที่ยวค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้น และหากรัฐยกเลิกประกาศกฎอัยการศึก ต่างชาติเริ่มผ่อนคลายการเดินทางมาไทย ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเยือนเมืองไทยมากขึ้น Tags : นักวิเคราะห์ • หลักทรัพย์ • จดทะเบียน • กำไรสุทธิ • ชนิตร ชาญชัยณรงค์ • ค้าปลีก • โบรกเกอร์ • ปตท. • ฟื้นตัว