แอบซุ่มจัดงานแต่งงานและจดทะเบียนสมรสตั้งแต่ต้นปี 2557 ไปแล้ว สำหรับนางแบบ นักแสดงสาว "มาริสา แอนนิต้า" กับหวานใจหนุ่มนักบิน "เบิร์ท อัตตพล" และล่าสุดก็ทำเอาแฟนๆเซอร์ไพรส์ไปกันอีก เพราะเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทั้งคู่ก็ได้ควงกันฉลองงามงคลสมรสหลังปล่อยทิ้งระยะเวลาไว้นานพอสมควร งานนี้เลยเกิดข้อสงสัยตามมาหลายอย่างว่าทำไมก่อนหน้านี้ถึงได้จัดพิธีแต่งแบบสายฟ้าแลบ โดยที่ไม่เชิญใครมาร่วมงานเลยนอกจากคนในครอบครัว พอมีโอกาสได้เจอสาวมาริสาที่มาร่วมเดินแบบในงาน The Platinum 9th Anniversary จึงไม่พลาดที่จะสอบถาม ซึ่งงานนี้เจ้าตัวก็ได้มาเปิดใจถึงเรื่องราวทุกอย่างให้ฟัง พร้อมเล่าถึงบรรยากาศในงานวันนั้นด้วยว่า กับงานแต่งงานที่เพิ่งผ่านไป เป็นอย่างไรบ้าง ? "สนุกสนานมาก จะบอกว่าเจ้าสาวหมดสภาพมาก (หัวเราะ) วันรุ่งขึ้นคือตื่นมาทำงานไม่ได้ ก็นอนพักผ่อนอยู่บ้านไปนะ สนุกดีค่ะ" หลังจากที่เราได้จัดงานแต่งอย่างเป็นทางการไปแล้ว ครั้งนี้เหมือนเพิ่งจะจัดงานฉลอง ? "ใช่ค่ะ เพราะว่าแต่งไปตอน 28 มีนา และได้ฉลองวันที่ 16 พฤศจิกา พอดีตรงกับวันเกิดตัวเองด้วยค่ะ ก็เลยเลือกวันนี้ จริงๆเป็นวันที่หลายๆคู่แต่งงานเยอะมาก คนก็จะถามทำไมจัดวันนี้ จริงๆไม่ดูฤกษ์อะไรเลย ดูเอาเองนี้แหละ พอเห็นว่าเป็นวันเกิดก็เลยจัดทีเดียวเลยค่ะ" กับงานแต่งวันที่ 28 ดูเหมือนจะเป็นงานที่ส่วนตัวมาก ? "28 มีนาเหรอคะ คือจริงๆได้ฤกษ์มาค่อนข้างกระชันด้วย คือห้ามให้แต่งหลังเดือนเมษา เราะไม่อย่างนั้นไปรออีกทีคือ2ปีเลย ก็เลยคิดว่าถ้ารีบก็ขอรีบๆจัดๆไปเดี๋ยวไม่ได้แต่ง (หัวเราะ) ค่อนข้างฉุกละหุกนิดหนึ่งค่ะ เพราะมีฤกษ์ให้เลือกน้อยมากๆค่ะ เดือนมีนาคมเป็นเดือนที่ไกลที่สุดล่ะที่เราเลือกได้ จริงๆมันมีให้เลือกตั้งมกรา กุมภา และมามีนา" เห็นในพิธีมีแค่ญาติสนิท มิตรสหายแค่นั้นเอง ? "ไม่มีญาติสนิทเลยค่ะ มีแค่คุณแม่สา คุณแม่พี่เบิร์ท คุณพ่อพี่เบิร์ท พี่ชายพี่เบิร์ท และก็พี่เหน่งผู้จัดการ แค่นั้น 5 คน จริงๆเราตั้งใจที่จะจัดให้เล็กๆแบบนี้อยู่แล้วค่ะ ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะแค่จดทะเบียนสมรสเฉยๆด้วยซ้ำ แต่คุณแม่ก็บอกว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว ก็เชิญคุณพ่อคุณแม่พี่เบิร์ทมาทานข้าวที่บ้านด้วยเลยก็แล้วกัน พอเราชวนเสร็จ พี่ชายพี่เบิร์ทที่รักน้องชายมาก เขาก็ขอมาด้วย พอทีนี้เราก็ทิ้งผู้จัดการส่วนตัวไม่ได้ เลยพามาด้วย ทั้งหมด 5 คนค่ะ" เพื่อนสนิทมีน้องใจบ้างไหม ที่เราไม่ได้ชวนเขามาร่วมงานเลย ? "ถ้าเพื่อนในกลุ่มก็จะค่อนข้างรู้อยู่แล้วว่าจะมีจดทะเบียนวันนี้ค่ะ เพียงแต่ว่าเราได้บอกไปมันเป็นเรื่องภายในครอบครัว ก็ขอเฉพาะคนในครอบครัวอย่างเดียวเท่านั้น" พอเราแต่ง ก็มีกระแสตามมาว่าเราแต่งสายฟ้าแลบ ? "ไม่ซีเรียสเลยค่ะ คือจริงสามองว่าเรื่องของการแต่งงานมันไม่ได้อยู่ที่ว่า คนเราคบกันมากี่ปี หรือจะต้องบอกคนอื่นตลอดเวลาว่ามีแฟนแล้วนะ กำลังจะแต่งงานวันนี้ๆ สากับพี่เบิร์ทเป็นคนที่ใช้ชีวิตแบบง่าย และเลือกอะไรที่ง่ายๆสะดวกสำหรับทุกๆคน ไม่ได้ท้องไม่ต้องเม้าท์ แค่อ้วน (ยิ้ม)" หลังจากได้ใช้ชีวิตคู่แล้ว เป็นอย่างไรบ้าง ? "ก็แฮปปี้ดีค่ะ คือแบบแฮปปี้มากเลย ลงตัวมาก ลงตัวทุกเรื่องเลยค่ะ ทั้งเรื่องของการใช้ชีวิตร่วมกัน เรื่องของการคุยกันทุกๆเรื่องค่ะ เราได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากพอสมควร" กับการที่เราเพิ่งจะมาจัดงานฉลอง ทำให้บางคนแอบตกใจว่าเราแต่งงานไปแล้วเหรอ มีกระแสนี้เกิดขึ้นบ้างไหม ? "ก็มีบ้างค่ะ จริงๆสำหรับงานที่เพิ่งจัดไปเมื่อวันที่16 ก็จะมีเฉพาะเพื่อนสนิทจริงๆ เพราะว่าสากับพี่เบิร์ทตั้งใจจะให้คอนเซปต์ว่าคนที่มามีความสุขกับเราที่เรากำลังจะใช้ชีวิตคู่ค่ะ ก็เลยขอเลือกจริงๆ ปวดหัวพอสมควรกว่าจะได้200คนค่ะ อย่างที่บอกงานมันค่อนข้างจะเป็นไพรเวทพอสมควร เลยทำให้มีบางท่านที่ไม่ได้ชวน แต่ก็ได้บอกกล่าวแล้ว แต่อาจจะไม่ได้เชิญด้วยตัวเอง ผู้ใหญ่บางท่านก็ไม่ชวน เพราะว่าเราไม่ได้จัดในโรงแรมแค่เน้นชวนเพื่อนๆมาทานข้าวด้วยกัน ถ้าจะชวนผู้ใหญ่มาก็คงจะไม่เหมาะสม" เห็นธีมงานในวันนั้นน่ารักอยู่เหมือนกัน ? "เป็นธีมโมฮีเบียนค่ะ และก็ใส่รองเท้าผ้าใบ ทุกคนจะฮือฮามาก กับการที่สาใส่รองเท้าผ้าใบ จริงเราคิดและตั้งใจไว้นานแล้วว่างานแต่งอยากใส่รองเท้าผ้าใบ เพราะคงเป็นอะไรที่สบายๆ และสาเป็นคนที่ชอบอะไรที่เป็นโมฮีเบียนอยู่แล้ว ก็เลยเลือกที่จะเป็นธีมนี้ขึ้นมา และหลายๆจุดในงานพยายามทำให้เป็นมุมสำหรับถ่ายรูป ถือว่าเป็นงานในฝันไหมนั้น สาว่ามันลงตัวค่ะ และทุกคนก็ชมว่างานน่ารักมาก มันดูอบอุ่นและก็แฮปปี้ค่ะ สาว่าแค่นี้ก็ดีมากแล้วค่ะ" วางแพลนไปฮันนีมูนกันที่ไหนแล้วหรือยัง ? "ยังไม่รู้เลย ถามหลายรอบแล้วก็ไม่ยอมตอบว่าเขาจะพาไปไหน แต่จริงๆสากับพี่เบิร์ท เราไปเมืองนอกกันเกือบทุกเดือนอยู่แล้ว ด้วยความที่เขาต้องบินตลอด บางทีเราก็แอบหนีงานไปบ้าง จริงๆสาอยากไปไอซ์แลนด์ หรือนอร์เวย์ หรืออะไรที่มันประหลาดๆหน่อยค่ะ คงไม่ได้ไปแบบที่คนทั่วไปเขาไปกันค่ะ" แล้วเรื่องทายาทล่ะ ได้แพลนไว้บ้างไหม ? "ไม่มีแพลนค่ะ คือตอนนี้ติดละครอยู่2เรื่องที่เพิ่งเปิดไป ค่อนข้างเครียดเรื่องการแสดงพอสมควร เลยขอพักไว้ก่อนดีกว่าค่ะ" ทางผู้ใหญ่มีถามๆบ้างหรือเปล่า ? "ยังค่ะ มีแต่เพื่อนๆที่มาแซวๆว่าเมื่อไหร่จะได้เล่นกับหลาน เอาเป็นว่าขอให้ละครจบก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกทีค่ะ" แบบนี้จะมีพักงานในวงการไหม ? "ไม่พักค่ะ ทำงานต่อไป ยังไม่พร้อมที่จะพักงานค่ะ เรายังมีความสุขที่จะทำงาน" เหมือนต่างคนก็ต่างงานเยอะ ? "แต่เราก็ยังมีเวลาให้กันพอสมควร ที่ค่อนข้างได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างแฮปปี้ ก็ขอทำงานไปด้วย มีครอบครัวไปด้วยดีกว่า" เราได้อยู่ด้วยกันตั้งแต่วันที่จดทะเบียนเลยใช่ไหม ? "อ๋อ ค่ะ จริงๆก็ซื้อบ้างอะไรไว้ก่อนหน้านั้นอยู่แล้วค่ะ พอหลังแต่งงานเราก็ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน" ได้เปลี่ยนนามสกุลหรือเปล่า ? "ไม่ได้เปลี่ยนค่ะ ใช้นางสกุลเดิม และยังใช้นางสาวเหมือนเดิมค่ะ เพราะเดี๋ยวจะมีปัญหาเรื่องเอกสารมันเยอะ ขี้เกียจไปนั่งทำ นั่งแก้ ไม่ใช่อะไรหรอก (หัวเราะ)" เราไม่เปลี่ยนแบบนี้ สามีมีปัญหาหรือเปล่า ? "ไม่มีค่ะ เพราะว่าด้วยความที่เรายังทำงานอยู่ และเอกสารหลายๆอย่างที่เราทำงานก็ยังเป็นชื่อเดิมอยู่ ถ้าเปลี่ยนก็ค่อนข้างยุ่ง เลยคิดไว้ว่ารอมีน้องจะเปลี่ยน เพราะช่วงเวลานั้นน่าจะเป็นช่วงเวลาที่เราได้พักผ่อนอยู่กับตัวเอง อีกอย่างสาเป็นลูกครึ่ง เอกสารก็เลยไม่ได้มีแค่เฉพาะที่ไทยอย่างเดียว มันมีที่ต่างประเทศด้วย เลยค่อนข้างยุ่งยากพอสมควรกับการทำเรื่องเอกสาร" ขอถามถึงเรื่องของสินสอดหน่อย ว่าฝ่ายชายให้อะไรบ้าง ? "ก็เรื่องสินสอดขอให้เป็นเรื่องภายในเนอะ อย่าไปมองเลยว่าคนเราแต่งงานจะได้เงินเท่าไหร่ ได้ข่าวว่าเดี๋ยวจะมีเก็บภาษีสินสอด (หัวเราะ) ก็ไม่บอกหรอกว่าได้เท่าไหร่" เตรียมตัวรับมือกับการเป็นแม่บ้านหรือยัง ? "ก็ถ้าใครฟอลโล่ไอจีอยู่ ก็จะเห็นรูปที่มีเยอะพอสมควร จริงๆเป็นที่ชอบทำกับข้าวตลอดยิ่งถ้าพี่เบิร์ทอยู่ เพราะว่าพี่เบิร์ทจะเป็นคนที่ไม่ทานอาหารจากไมโครเวฟ ไม่ทานอาหารที่แช่ตู้เย็น ไม่ทานอาหารที่ต้องค้างคืน จะต้องทานอาหารที่ร้อนๆใหม่ๆตอลด คือถ้าเรามีเวลาก็จะทำค่ะ" ชีวิตคู่เปลี่ยนไปเยอะหรือเปล่า ? "เหนื่อย (หัวเราะ) ที่เหนื่อยเพราะว่าต้องซักผ้า รีดผ้า ทำความสะอาด ทำกับข้าวด้วย คือเราไม่ได้อยู่คนเดียว เราเลยต้องทำหลายอย่าง ก็ค่อนข้างเหนื่อยพอสมควร แต่ก็สนุกค่ะ แม่ยังแซวเลยว่าอยู่บ้านไม่เห็นทำขนาดนี้เลย (หัวเราะ)"