Electronic Arts หรือ EA แถลงผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2020 เป็นไปในทิศทางเดียวกับบริษัทเกม-ไอทีรายอื่นๆ ที่รายได้พุ่งจากปัจจัยคนอยู่บ้านเพราะ COVID-19 สิ่งที่น่าสนใจคือ EA มีเกมวางขายในไตรมาส 2/2020 เพียงสองเกมคือเกมเก่าอย่าง Command & Conquer Remastered กับ Burnout Paradise Remastered เท่านั้น อีกทั้งในไตรมาส 1/2020 ไม่มีเกมใหม่เลยแม้แต่เกมเดียว ฐานเกมเดิมที่มีอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกมออนไลน์ที่ EA เรียกว่า Live Services และได้ปัจจัยบวกจากคนอยู่บ้าน ทำให้รายได้ก้อนนี้เติบโต 16% เป็น 1.1 พันล้านดอลลาร์ รายได้จากการขายเกมตัวเต็ม (full game) ได้ตัวช่วยจากนโยบายการขายเกมบน Steam เพิ่มเติมจาก Origin ช่วยให้รายได้ก้อนนี้เติบโตถึง 37% เป็น 359 ล้านดอลลาร์ บวกกันแล้ว รายได้รวมของ EA เพิ่มเป็น 1,459 ล้านดอลลาร์ เติบโตขึ้น 21% จากปีก่อน แถมยังถือเป็นรายได้ประจำไตรมาส 2 ของปีที่เยอะที่สุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัทด้วย (ปกติบริษัทเกมจะมีรายได้สูงที่สุดในไตรมาส 4 เพราะเป็นช่วงเทศกาลปลายปี) Andrew Wilson ซีอีโอของ EA ยอมรับว่าไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทมีผู้เล่นหน้าใหม่เพิ่มขึ้นหลายสิบล้านคน (tens of millions) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์พิเศษที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก และบริษัทจะพยายามรักษาผู้เล่นกลุ่มนี้เอาไว้แม้สถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายในอนาคต เกมเด่นของ EA ในไตรมาสที่ผ่านมาคือ Apex Legends Season 5 ที่ระบุว่ามีอัตรา engagement สูงที่สุดนับตั้งแต่ Season 1 FIFA มีผู้เล่นเพิ่มขึ้น 100% จากปีก่อน, Madden NFL มีผู้เล่นเพิ่มขึ้น 140% The Sims 4 มีผู้เล่นเพิ่มขึ้น 10 ล้านคน จนตัวเลขรวมคือ 30 ล้านคน เกมมือถือ Star Wars: Galaxy of Heroes ที่เปิดตัวมาแล้ว 5 ปี มีคนเล่นเยอะเป็นประวัติการณ์ สร้างรายได้รวมกันเกิน 1 พันล้านดอลลาร์แล้วตลอดอายุขัยของเกม ส่วนไตรมาส 3/2020 ถือเป็นไตรมาสสำคัญของปีเพราะ EA มีเกมกีฬาเปิดตัวหลายเกม ตั้งแต่ FIFA 21, Madden NFL 21, NHL 21, UFC 4 และ Star Wars: Squadrons ที่มา - EA, GamesIndustry.biz, VentureBeat Topics: EAFinancial ReportGames