"บาฟส์" ปรับเป้าปริมาณเติมน้ำมันเหลือติดลบ 0.2% จากเดิมคาดโต 0.7% พร้อมหั่นรายได้รวมปีนี้เหลือโต 1-2% นายประกอบเกียรติ นินนาท กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) กล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศ และจำนวนเที่ยวบินที่ลดลง ทำให้บริษัทปรับลดเป้าหมายปริมาณเติมน้ำมันในปีนี้ เป็นติดลบ 0.2% หรือ 4,950 ล้านลิตร จากที่เป้าหมายเดิมที่ประเมินปริมาณเติมน้ำมันในปีนี้จะเติบโต 0.7% และได้ปรับเป้าการเติบโตของรายได้ในปีนี้ เหลือ 1-2% จากเดิมที่คาดการณ์การเติบโต 4-5% เพราะจำนวนเที่ยวบินลดลงตามสถานการณ์การท่องเที่ยว "รายได้รวมปีนี้ ยังมีการเติบโตแม้ว่าปริมาณเติมน้ำมันลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็นผลจากการเปิดใช้บริการสนามบินดอนเมือง ทำให้มีสายการบินต้นทุนต่ำเพิ่มขึ้น บริษัทจึงได้อานิสงส์ไปด้วย เพราะมาร์จินการให้บริการเติมน้ำมันในสนามบินดอนเมือง ดีกว่าการให้บริการในสนามบินสุวรรณภูมิ"นายประกอบเกียรติ กล่าว นายประกอบเกียรติ กล่าวอีกว่า แนวโน้มปริมาณเติมน้ำมันในปี 2558 คาดว่า จะเติบโตจากปีนี้ประมาณ 6% หรือมีปริมาณเติมน้ำมัน 5,250 ล้านลิตร ส่วนรายได้รวมจะเติบโต 7% เพราะเชื่อว่าสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 4 ปีนี้ ต่อเนื่องถึงปีหน้า ทำให้จำนวนเที่ยวบินสูงขึ้น และปริมาณเติมน้ำมันก็จะเพิ่มขึ้นอย่างสอดคล้องกัน "การท่องเที่ยวเริ่มดีขึ้นแล้ว จากตัวเลขในเดือนส.ค.ที่ติดลบ 6-7% เริ่มดีขึ้นในเดือนพ.ย. ที่ติดลบเพียง 3% และเชื่อว่าเดือนธ.ค.การท่องเที่ยวจะมีตัวเลขเป็นบวก"นายประกอบเกียรติ กล่าว สำหรับการลงทุนในปี 2558 บริษัทและกลุ่มบริษัทจะมีการลงทุนรวมกันประมาณ 700 ล้านบาท สำหรับขยายถังเก็บน้ำมันและท่อส่งน้ำมันเป็นหลัก นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ (FPT) มูลค่า 7,000-7,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนที่ศึกษาโครงการไว้ก่อนหน้า ส่วนความคืบหน้าล่าสุดของโครงการขยายท่อส่งน้ำมัน (FPT’S MULTI-PRODUCT FUEL PIPELINE EXPANSION) ของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ (FPT) ระยะจากบางปะอิน-ลำพูน รวมระยะทางราว 550-600 กิโลเมตร มูลค่า 7,000-7,500 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของทางรัฐบาล คาดจะรู้ผลไตรมาส 1 ปี 2558 หากได้รับการอนุมัติให้ลงทุน จะใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 3 ปี ทั้งนี้ แหล่งเงินจากการลงทุนจะมาจากการกู้สถาบันการเงินและเงินทุนของบริษัทในสัดส่วน 1 ต่อ 1 "หากได้รับการอนุมัติให้ลงทุน บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จะใช้เงินทุน 1 ส่วน และกู้ 1 ส่วน เชื่อว่าฐานะการเงินของบริษัทลูกแข็งแกร่งเพียงพอ และยังมีศักยภาพในการกู้เพิ่มอีก ปัจจุบันมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน 0.6 เท่า"นายประกอบเกียรติ กล่าว นายประกอบเกียรติ กล่าวถึงความคืบหน้าในการเข้าเป็นผู้ให้บริการเชื้อเพลิงการบินให้กับสนามบินในประเทศพม่าว่า ล่าสุดบริษัทได้รับการคัดเลือกเข้าเป็น 1 ใน 4 บริษัทสุดท้าย ที่จะได้เป็นผู้ให้บริการเชื้อเพลิงการบินในสนามบินประเทศพม่า จะประกาศในปลายเดือนนี้ หรือต้นเดือนหน้า จากเดิมที่พม่าจะประกาศชื่อผู้ได้สิทธิเป็นผู้ให้บริการ ในสิ้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา แต่ติดเรื่องการประชุมอาเซียนทำให้ระยะเวลาประกาศชื่อต้องเลื่อนออกไป ด้านนายฉัตรฐาพงศ์ วังธนากร ผู้จัดการฝ่ายวางแผนธุรกิจบริษัท ไทยออยล์ (TOP) กล่าวว่า คาดหวังว่าผลการประชุมขององค์กรประเทศส่งออกปิโตรเลียม (โอเปค) ในวันที่ 27 พ.ย. นี้ จะมีมติให้ลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง เพราะมีความต้องการขายน้ำมันดิบส่วนเกินอยู่กว่า 1 ล้านบาร์เรล ทำให้ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวลดลงต่อเนื่องจนลงมาอยู่ที่ 74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากต้นเดือนก.ค. อยู่ที่ 106 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล "หากผลการประชุมของโอเปคสิ้นเดือนนี้ มีมติให้ลดกำลังการผลิตลง บริษัทคาดว่าจะช่วยผลักดันให้ราคาน้ำมันดิบดูไบกลับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 90-92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่หากผลการประชุมออกมาในทางตรงกันข้ามอาจทำให้ราคาน้ำมันดิบแกว่งตัวอยู่ในระดับ 75-80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลต่อไป แม้ไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มสูงขึ้น แต่ผู้บริโภคยังคงกังวลกับปริมาณความต้องการขายน้ำมันดิบส่วนเกินในตลาดอยู่" นายฉัตรฐาพงศ์ กล่าว ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 4 คาดว่า ยังมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันต่อเนื่อง เพราะราคาน้ำมันปรับตัวลงมากว่า 20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หากสิ้นปีราคาน้ำมันดิบยังอยู่ในระดับ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อาจจะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทพลิกเป็นขาดทุนได้ แม้งวด 9 เดือนที่ผ่านมาจะมีกำไรสุทธิอยู่ 2,453 ล้านบาท ส่วนปี 2558 บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ 319 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในโครงการต่างๆ ได้แก่ ก่อสร้างโรงไฟฟ้า 2 แห่ง กำลังการผลิตรวม 239 เมกะวัตต์ คาดแล้วเสร็จต้นปี 2559 และโครงการลาบิกซ์ สำหรับผลิตสารลิเนียร์ อัลคิล เบนซิน คาดแล้วเสร็จไตรมาส 4 ปีหน้า Tags : ประกอบเกียรติ นินนาท • BAFS • น้ำมัน