ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่ฝูงเครื่องบินกองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีการระงับใช้เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปแบบ 212 (เบลล์ 212) ภายหลังจากที่เกิดเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกที่ จ.พะเยา จนทำให้มีกำลังพลนายทหารเสียชีวิต 9 นาย ว่า ไม่ได้มีการสั่งการ เพราะว่ายังมีภารกิจต่างๆที่ต้องดำเนินการอีกมาก และยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ ทั้งนี้จะต้องดำเนินการสอบสวนกันต่อไป โดยตนได้สั่งการให้ผบ.ศูนย์การบินทหารบกพร้อมกับชุดตรวจสอบเดินทางลงพื้นที่แล้ว และกำลังรอฟังผลอยู่ เนื่องจากสภาพความเสียหายนั้นจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ตนยังจะไม่บอกความชัดเจนโดยที่ยังไม่มีข้อมูลจากคณะกรรมการตรวจสอบ เรื่องดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องพยายามหาสาเหตุให้ได้ สำหรับการดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตทางกองทัพจะดูแลอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีได้ทราบว่าผู้เสียชีวิตได้ปฏิบัติงานตามหน้าที่ที่อยู่ในหน้าที่ราชการ ซึ่งการดูแลจะมีกรอบการดูแลช่วยเหลือเพื่อให้สิทธิของกำลังพลและครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงิน รวมถึงเงินประกันต่างๆ และการปูนบำเหน็จชั้นยศ นอกจากนี้จะดูแลทายาทผู้เสียชีวิตด้วย โดยให้ทุนการศึกษาจนเรียนจบปริญญาตรี เมื่อถามว่ามีแผนที่จัดซื้ออากาศยานมาทดแทนอากาศยานที่ใช้งานมานานหลายปีหรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า กองทัพบกมีแผนพัฒนากองทัพประจำปีอยู่แล้วที่จะต้องดำเนินการจัดซื้อเครื่องที่มีความทันสมัย โดยขณะนี้ได้รับความกรุณาจากรัฐบาลได้อนุมัติจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์รุ่นใหม่ ที่จะต้องรออีกระยะหนึ่งเพื่อนำมาทดแทนในส่วนนี้ อีกส่วนหนึ่งได้ดำเนินการจัดซื้อแล้ว ซึ่งเป็นออกเป็นระยะ โดยแต่ละระยะจะดูแบบที่เหมาะสม สำหรับเฮลิคอปเตอร์แบบเบลล์ 212 สำหรับเครื่องที่มีปัญหาเรารับมาเมื่อปี พ.ศ.2538 อายุการใช้งาน 19 ปี ถือว่าไม่เก่า เพราะทั่วโลกก็ใช้แบบนี้อยู่ แม้แต่ประเทศที่มีความทันสมัย รวมถึงมีการปรนนิบัติบำรุงโดยช่างเครื่องที่ได้รับการอบรมและได้มาตรฐาน โดยมีการเปลี่ยนอะไหล่ของเครื่องยนต์หรือชิ้นส่วนต่างๆตามวงรอบ สำหรับเฮลิคอปเตอร์รุ่นที่เก่ากว่านี้ก็มี เราดูแลเช่นนี้เหมือนกัน ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เสียใจและต้องดูแลกันต่อไป อย่างไรก็ตามขอให้เพิ่มความระมัดระวัง