ดับบลิวเอชเอทุ่ม2หมื่นล้าน ฮุบ'เหมราช'ถือหุ้นใหญ่50%

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 18 พฤศจิกายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    ดับบลิวเอชเอทุ่ม2.2หมื่นล้าน ฮุบกิจการ"เหมราช" หวังคุมการบริหารเบ็ดเสร็จ

    หลัง"สวัสดิ์ หอรุ่งเรือง-กองทุนนอก" ยอมขายหุ้น 22.53% ราคาหุ้นละ 4.50 บาท ตั้งโต๊ะซื้อหุ้นรายย่อยราคาเดียวกัน มั่นใจหนุนกำไรโต 2 เท่าตัว ดันมาร์เก็ตแคปรวม 8 หมื่นล้าน เล็งเพิ่มทุนขายหุ้นเดิม 8.8 พันล้าน และกู้แบงก์ไทยพาณิชย์อีก 1.4 หมื่นล้าน

    บริษัทดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทบริษัทเหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) ได้ทำข้อตกลงทำรายการผ่านกระบวนการทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดโดยสมัครใจ ภายใต้เงื่อนไขต้องได้มาซื้อหุ้นสามัญของเหมราช 50% โดยการลงนามสัญญาระหว่าง 2 บริษัทนี้ จะเกิดขึ้นภายในสิ้นเดือนธ.ค.นี้

    นายสมยศ อนันตประยูร ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ดำเนินธุรกิจพัฒนาและให้เช่าโครงการคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติหลักการเบื้องต้นเข้าซื้อกิจการของบริษัทเหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) HEMRAJ โดยเจรจาขอซื้อหุ้นจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทเหมราช คือนายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง และกองทุนต่างประเทศบางราย ในราคาหุ้นละ 4.50 บาท จำนวน 2.18 พันล้านหุ้น คิดเป็น 22.53%

    จากนั้นบริษัทดับบลิวเอชเอ จะเพิ่มทุนเสนอขายหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิม 8.8 พันล้านบาท และจะขอกู้จากธนาคารไทยพาณิชย์ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นบริษัทจะให้เงินในการซื้อบริษัทเหมราช 2.2 หมื่นล้านบาท ในสัดส่วนการถือครองหุ้นเกิน 50% หากมีผู้ถือหุ้นนำหุ้นเหมราชมาเสนอขายบริษัท ก็พร้อมรับซื้อทั้งหมด ส่วนผลกระทบจากการกู้เงินครั้ง จะทำให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุนเพิ่มขึ้น แต่เมื่อเพิ่มทุนสัดส่วนจะปรับลดลงมาอยู่ในระดับ 1.5-1.7 เท่า

    หวังคุมการบริหารงานเบ็ดเสร็จ

    "การที่ตั้งเป้าซื้อหุ้น 50% เพราะต้องการคุมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ ปัจจุบันได้เจรจาขอซื้อจากกลุ่มผู้ถือหุ้นบางราย และมีสัดส่วนหุ้นที่คาดว่าจะได้รับใกล้เคียง 40% ดังนั้นการถือครองหุ้น น่าจะได้ตามเป้าที่วางไว้ การเพิ่มทุนของบริษัทครั้งนี้ จะมีผลกระทบต่อราคาหุ้นไดลูชั่น 25% แต่ผลกระทบไม่แรง เพราะหลังจากซื้อบริษัทเหมราชเข้ามา บริษัทสามารถบันทึกกำไรในรูปเงินปันผลได้ทันที และส่งผลให้กำไรต่อหุ้นของบริษัทปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งถือว่าคุ้มค่า หากเทียบกับผลกระทบเพิ่มทุนรวมทั้งผู้ถือหุ้นอาจจะได้รับสิทธิ์พิเศษบางประการจากการเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อเป็นแรงจูงใจ"นายสมยศ กล่าว

    นายสมยศ กล่าวว่า การเพิ่มทุนครั้งนี้ถือว่า เป็นการปรับฐานทุนหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มาประมาณ 3 ปี ซึ่งถือเป็นการรองรับการเติบโตในอนาคต บริษัทยังไม่มีแผนนำหุ้นเหมราช ออกจากตลาดหลักทรัพย์ โดยขอรอดูผลการเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ให้แล้วเสร็จก่อน

    การเจรจาซื้อขายหุ้นบริษัทเหมราชเกิดขึ้นมาระยะหนึ่ง โดยเป็นการเจรจากับกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยเฉพาะนายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งการยอมขายหุ้นให้ในครั้งนี้เพราะเห็นว่าบริษัทดับบลิวเอชเอ และบริษัทเหมราชมีวัฒนธรรมองค์กรที่คล้ายคลึงกัน และโดยส่วนตัวนายสวัสดิ์แจ้งว่าต้องการวางมือจากการบริหารบริษัทดังกล่าวเนื่องจากอายุมาก จึงอยากส่งต่อให้บริษัทดับบลิวเอชเอ เพราะมองว่าสามารถผลักดันให้บริษัทเติบโตต่อไปได้

    หนุนรายได้เติบโตเพิ่มขึ้น2เท่า

    นอกจากนี้บริษัทดับบลิวเอชเอ ได้เข้าไปเจรจากับกลุ่มผู้บริหารของบริษัทเหมราชอย่างจริงจังแล้ว และทุกคนพร้อมที่ทำงานกับบริษัทต่อไป แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งในส่วนของบริษัทดับบลิวเอชเอ จะมีการส่งทีมงานเข้าไปร่วมบริหารตามสัดส่วนที่ถือครองหุ้น

    สำหรับราคาที่ตกลงซื้อ 4.50 บาทต่อหุ้น ถือเป็นราคาที่เหมาะสม เพราะพีอีเรโชต่ำ 10 เท่า หากเทียบกับพีอีบริษัทในกลุ่มเดียวกัน 20-15 เท่า ดังนั้น หากพีอีเรโชหุ้นเหมราช 15 เท่าราคาหุ้น ย่อมสูงกว่าราคาที่ตกลงซื้อขายกันอยู่แล้ว ตั้งเป้ารายได้-กำไรโต 2 เท่าตัว

    ภายหลังจากการเข้าซื้อกิจการของบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จะทำให้รายได้และกำไรของบริษัทปีหน้าเติบโตได้ถึง 2 เท่าตัว เพราะรวมงบของบริษัทเหมราช เข้ามาในงบรวมของบริษัท จากปกติบริษัทดับบลิวเอชเอจะมีรายได้ 7,000 ล้านบาท กำไร 1,400- 1,500 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการบริษัทเหมราช มีรายได้เฉลี่ยมากกว่า 8,000 ล้านบาท กำไรกว่า 3,000 ล้านบาท

    มาร์เก็ตแคปแตะ1แสนล้าน

    การซื้อกิจการดังกล่าว จะทำให้มูลค่าของบริษัทตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) รวมสองบริษัท 8 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันดับบลิวเอช มีมาร์เก็ตแคป 3.7 หมื่นล้านบาท ขณะที่บริษัทเหมราชมีมาร์เก็ตแคปกว่า 4.3 หมื่นล้านบาท

    "ผมมองว่า การซื้อกิจการครั้งนี้ ถือเป็นดีลแห่งปี เพราะทั้ง 2 บริษัทถือเป็นอันดับหนึ่งในแต่ละธุรกิจ ซึ่งการรวมกันครั้งนี้จะทำให้ฐานใหญ่ขึ้นกว่าเดิม มีการกระจายธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น เพราะบริษัทเหมราช มีทั้งนิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภค พลังงาน และอสังหาริมทรัพย์ และการซื้อกิจการครั้งนี้ จะทำให้ในมีสัดส่วนรายได้คงที่เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ราว 20% และหวังเป็นนิคมครบวงจร"นายสมยศ กล่าว

    ฐานลูกค้าขยายตัวมากขึ้น-ลดต้นทุน

    ด้านนางจรีพร อนันตประยูร กรรมการผู้จัดการ บริษัทดับบลิวเอชเอ กล่าวว่า การซื้อหุ้นเหมราชครั้งนี้จะทำให้บริษัทมีฐานลูกค้าที่มากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม นอกเหนือจากการที่ทำให้บริษัทสามารถเติบโตรวดเร็ว และมีแหล่งรายได้แน่นอนเข้ามา ปัจจุบันบริษัทเหมราช มีสัดส่วนรายได้จากการขายที่ดิน 50% และรายได้อื่นๆ 50%

    รวมทั้งยังมีธุรกิจใหม่ที่จะเกิดจากการผสมผสาน ระหว่างเทคโนโลยีของบริษัท กับธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร นอกจากนี้ประโยชน์ที่จะได้รับเพิ่มเติมจากการลงทุน คือ การใช้ฐานลูกค้าใหญ่ขึ้น การลดต้นทุนการก่อสร้าง และมีโอกาสทางการเงินมากขึ้นด้วย

    บริษัทเหมราชพัฒนาที่ดิน ดำเนินธุรกิจ 4 ประเภทคือ นิคมอุตสาหกรรม 6 แห่ง และเขตประกอบอุตสาหกรรม 2 แห่งมีพื้นที่รวม 4.19 หมื่นไร่ ในเขตจังหวัดสระบุรี ชลบุรี ระยอง ธุรกิจสาธารณูปโภค บริการจัดหาน้ำดิบ น้ำประปา และบำบัดน้ำเสีย ธุรกิจพลังงาน ปัจจุบันร่วมลงทุนธุรกิจผลิตไฟฟ้า กับกลุ่มบริษัทโกลว์ พลังงานและ บริษัทกัลฟ์ เจพี มีกำลังการผลิตรวม 317 เมกะวัตต์ และมีแผนลงทุนโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก(SPP) 254 เมกกะวัตต์

    ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยมีพัฒนาโรงงานสำเร็จรูปให้เช่า ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมทั่วไปและเขตปลอดภาษีในหลายนิคมมีพื้นที่ 6.5 แสนตารางเมตรและคลังสินค้าให้เช่าในโครงการเหมราชโลจิสติกส์ พาร์ค 4 แห่ง พื้นที่รวม 1.8 แสนตารางเมตร

    สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนของบริษัทดับบลิวเอชเอ มีรายได้ 2.44 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 17.6% และมีกำไรสุทธิ173.95 ล้านบาท ลดลง 7.79% ส่วนบริษัทเหมราช มีรายได้รวม 6.7 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 31.50%กำไรสุทธิ 2.26 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.39%

    ตลาดสั่งหยุดพักซื้อขายทั้ง2หุ้น

    ตลาดสั่งหยุดเทรดข้อมูลไม่ชัด ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ได้ขึ้นเครื่องหมาย H หลักทรัพย์ของ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอปอร์เรชั่น และบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน และใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) ที่มีดับบลิวเอชเอ และเหมราช เป็นหลักทรัพย์อ้างอิงเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่การซื้อขายรอบเช้าวานนี้ (17 พ.ย.) เพราะดับบลิวเอชเอ ได้เปิดเผยสารสนเทศฯประกาศเจตนาจะเข้าถือหุ้นเหมราช เพื่อครอบงำกิจการ ซึ่งประเด็นนี้เป็นข้อมูลสำคัญและส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนในหุ้นทั้งสองบริษัท และตลาดหลักทรัพย์ได้ติดต่อประสานงานไปทั้ง 2 บริษัท แต่ยังไม่ได้รับคำชี้แจงจากทั้ง 2 บริษัท หลังจากนั้นได้ขึ้นเอสพี เพราะทั้งสองบริษัท ไม่สามารถชี้แจงข้อมูลได้ครบถ้วนและชัดเจน

    Tags : ดับบลิวเอชเอ • เหมราช • สมยศ อนันตประยูร • ที่ดิน • มาร์เก็ตแคป • สวัสดิ์ หอรุ่งเรือง

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้