ทียูเอฟหวังมาร์จินปีหน้า17%

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 18 พฤศจิกายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    "ทียูเอฟ" วางเป้าอัตรากำไรขั้นต้นปีหน้า 16-17% หลังบริษัทย่อยสร้างกำไร-รับรู้รายได้จากแบรนด์เพิ่ม

    นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการและกรรมการ บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF) กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายรักษาอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในช่วง 16-17% ในทุกๆ ปี และเชื่อว่าปี 2558 จะมีอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 17% ได้ หลังจากที่บริษัทย่อยส่วนมากมีผลประกอบการเป็นกำไร ขณะเดียวกันก็มีสัดส่วนรายได้จากสินค้าที่เป็นแบรนด์เพิ่มขึ้นหลังจากการเข้าซื้อกิจการต่างๆ ซึ่งสินค้าแบรนด์เป็นสินค้าที่ให้มาร์จินสูง

    ตั้งแต่เดือนพ.ย.2557 บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากสินค้าแบรนด์เพิ่มอีก 1 แบรนด์ หลังจากซื้อกิจการบริษัท คิง ออสกการ์ซึ่งเป็นสินค้ามีแบรนด์ มาในช่วงปี 2557 ที่ผ่านมา โดย ณ งวด 9 เดือนแรกปีนี้ บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากสินค้าแบรนด์ 41% คาดว่าในปี 2558 จะเพิ่มเป็น 43%

    ส่วนรายได้รวมในปี 2558 จะอยู่ที่ 5,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่มีรายได้ 4,000 ล้านดอลลาร์ และภายในปี 2563 บริษัทจะมีรายได้รวม 8,000 ล้านดอลลาร์ โดยการเติบโตมาจากทั้ง 6 ธุรกิจ ประกอบด้วยทูน่า กุ้งแช่แข็ง อาหารสัตว์ ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน และอาหารสำเร็จรูปธุรกิจที่มีการเติบโตต่อเนื่อง

    "เชื่อว่าธุรกิจกุ้งแช่แข็งจะเริ่มฟื้นตัวกลับมาดี หลังจากที่ภาคการผลิตประสบปัญหาโรค EMS ช่วงก่อนหน้านี้ ปีนี้น่าจะขายกุ้งอยู่ที่ 2 แสนตัน แต่ปีหน้าน่าจะฟื้นตัวขึ้นมาเป็น 2.5 แสนตันได้" นายธีรพงศ์ กล่าว

    ในปี 2558 บริษัทจัดสรรงบลงทุน 3.5 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับปีนี้ ยอมรับว่าอาจจะใช้งบลงทุนต่ำกว่าที่จัดสรรไว้ เนื่องจากไม่มีการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตครั้งใหญ่เพราะยังมีกำลังการผลิตเหลือเพียงพอ ปัจจุบันมีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ 80% ทั้งนี้ ปี 2557 บริษัทจัดสรรงบลงทุนไว้ 3.5 พันล้านบาท ณ 9 เดือนแรก ใช้ไปแล้ว 2.9 พันล้าน

    นายธีรพงศ์ กล่าวว่า บริษัทยังมีแผนซื้อกิจการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักทั้ง 6 และยังไม่สามารถประเมินได้ว่า จะได้ข้อสรุปเรื่องซื้อกิจการเมื่อใด ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสทางธุรกิจนั้นๆ ว่าน่าสนใจหรือไม่ ทั้งนี้ ยืนยันว่าฐานะการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่ง ปัจจุบันมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน 0.8 เท่า และสิ้นปีนี้จะลดลงเป็น 0.71 เท่า

    สำหรับภาพรวมการส่งออกของไทยปี 2558 คาดว่า จะฟื้นตัวไม่มากนัก เพราะราคาสินค้าเกษตรยังอยู่ในระดับที่ต่ำ และปริมาณการผลิตกุ้งก็คาดจะมีการฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยบริษัทยังสามารถเติบโตได้ดี เพราะมีกระจายสินค้าหลากหลายกลุ่ม ไปหลายตลาด ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็ง

    แนวโน้มรายได้ไตรมาส 4 ปีนี้ คาดว่าจะดีกว่าไตรมาสเดียวกันปีก่อน เพราะปัญหาเรื่องกุ้งเริ่มคลายตัว และเริ่มรับรู้รายได้จาก 2 บริษัทที่เข้าซื้อกิจการไปเมื่อช่วงต้นปี 2557 ที่ผ่านมา

    ทั้งนี้ผลประกอบการงวดไตรมาส 3 ปีนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิ 1.9 พันล้านบาท เป็นการทำสถิติรายไตรมาส เพิ่มขึ้นถึง 26.3% จากไตรมาสที่แล้ว และ 91.4% จากงวดเดียวกันปีก่อน ปัจจัยขับเคลื่อนหลักจาก อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 3 ปีนี้เพิ่มขึ้นสู่ 17.2% จาก 16.1% ในงวดก่อนหน้า จากธุรกิจทูน่าที่มีสัดส่วนรายได้จากสินค้าที่เป็นแบรนด์ของบริษัทเพิ่มขึ้น และปัจจัยบวกจากราคาวัตถุดิบทูน่าลดลง อีกทั้งธุรกิจกุ้งยังฟื้นตัวต่อเนื่อง จากการควบคุมโรคตายด่วนได้ดีขึ้น

    นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายทางการเงิน ลดลง 73.6% จากไตรมาสที่แล้ว และ 62.6% จากงวดเดียวกันปีก่อน เป็น 119 ล้านบาท เพราะมีการกลับรายการดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจากหุ้นกู้แปลงสภาพ

    ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติ อนุมัติแบ่งแยกมูลค่าที่ตราไว้ (SPLIT PAR)จากเดิม 1บาท เป็น 0.25 บาท กำหนดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น 24 ธ.ค.2557 เพื่อขออนุมัติ และคาดว่าตลาดหลักทรัพย์น่าจะอนุมัติให้หลักทรัพย์บริษัทซื้อขายในพาร์ใหม่ วันที่ 30 ธ.ค.2557

    "สาเหตุที่มีการแตกพาร์ เพราะต้องการให้รายย่อยเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทมากขึ้น จากปัจจุบันมีนักลงทุนรายย่อยถือหุ้นเพียง 5% ขณะที่สถาบันทั้งในและต่างประเทศถือหุ้นสัดส่วน 40% เมื่อเข้าซื้อขายด้วยพาร์ใหม่ คาดว่าราคาหุ้นจะปรับลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 20 บาท จากปัจจุบันที่ประมาณ 83.50 บาท"

    Tags : ธีรพงศ์ จันศิริ • ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น • ทียูเอฟ • TUF

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้