จี้ธปท.ดูแล'ค่าบาท'หนุนส่งออก

สศช.คาดส่งออกจ่อ0% หั่นจีดีพีปีนี้เหลือ1% ธปท.เล็งหั่นจีดีพีปีนี้ลงต่ำ1.5% ขณะเอกชนคาดปีหน้าฟื้น โต4%

สศช.หั่นเป้าจีดีพีปีนี้เหลือ 1% หลัง 9 เดือนโตแค่ 0.2% ชี้มาจากภาคส่งออก คาดปีนี้โอกาสโตเป็น 0% จากตลาดโลกไม่ฟื้นตัว แนะใช้ค่าเงินหนุนส่งออก คาดปีหน้า จีดีพีขยายตัวได้ 3.5-4.5% ด้านธปท.เตรียมหั่นเป้าจีดีพีอีกรอบ คาดโตต่ำ 1.5% ขณะเอกชนมองปีหน้าสดใส คาดการค้า-ลงทุนขยายตัวรับเอเอซี

การสํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไทย(จีดีพี)ในไตรมาส 3 ขยายตัว 0.6% ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของหลายหน่วยงาน เนื่องจากส่งออกขยายตัวต่ำกว่าคาด จากเศรษฐกิจโลกไม่ฟื้นตัว

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสศช.กล่าวว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 3 ปี 2557 ขยายตัว 0.6% ขณะเฉลี่ย 9 เดือน ขยายตัว 0.2% โดยปี 2557 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 1.0% ซึ่งเป็นคาดการณ์ที่ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 1.5-2.0% ถือว่าต่ำสุดในรอบ 3 ปี

นายอาคม กล่าวว่าสาเหตุสำคัญมาจากการส่งออกที่ยังชะลอตัวต่อเนื่อง โดยคาดว่าทั้งปี 2557 การส่งออกจะไม่ขยายตัวหรือ 0% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและการส่งออกในตลาดสำคัญยังไม่ฟื้นตัว รวมถึงราคาสินค้าเกษตรยังทรงตัวต่ำ ทำให้การส่งออกไตรมาส 3 ขยายตัวลดลง 1.7%

“ตัวเลขจีดีพีส่วนใหญ่มาจากการส่งออกถึง 70% ซึ่งทิศทางการส่งออกยังไม่สดใสจากปัจจัยเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัว แม้จะมีการเร่งใช้จ่ายภาครัฐแต่ในทางปฏิบัติจะเห็นผลในปีหน้าและมีสัดส่วนต่อจีดีพีเพียง 20% เท่านั้น ทำให้จีดีพีปีนี้ต้องปรับลดประมาณการลงมาอยู่ที่ 1% โดยปัจจัยบวกที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจคือการใช้จ่ายประชาชน การลงทุนภาคเอกชน มาตรการเร่งใช้จ่ายเงินของรัฐ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการจ่ายเงินให้ชาวนาและชาวสวนยาง รวมถึงการก่อสร้างทางหลวงชนบท ซึ่งทั้งหมดนี้จะเห็นผลตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป และถ้าจะให้ทั้งปีโตได้ตามคาดการณ์ไตรมาส4 ต้องขยายตัวมากกว่า3%"

นายอาคม กล่าวอีกว่า ประเด็นการบริหารเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี 2557 และในปี 2558 ควรดำเนินนโยบายการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพเพราะภาคอุตสาหกรรมในประเทศใช้งานเพียง 60% ของศักยภาพที่มีอยู่ จึงควรเร่งเสริมการใช้ศักยภาพให้เต็มกำลัง

"ภาคการเงินสามารถเข้ามาดูแลเรื่องค่าเงินบาทเพื่อให้เป็นตัวช่วยการส่งออกสินค้าโดยเฉพาะสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะพิจารณา การประเมินเพียงอัตราเงินเฟ้ออย่างเดียวอาจไม่เพียงพอแต่ควรมองทิศทางระยะยาว ซึ่งปี 2558 อัตราเงินเฟ้อไม่น่าเป็นห่วงเนื่องจากทิศทางราคาน้ำมันไม่ได้สูงมาก"

นายอาคม กล่าวถึงเศรษฐกิจปี 2558 คาดว่าจะขยายตัว 3.5-4.5% จากปัจจัยการส่งออกที่คาดว่าจะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก โดยปีหน้าการส่งออกคาดจะขยายตัวที่ 4% การลงทุนภาคเอกชน คาดจะขยายตัว 4.8% เพราะความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและนักลงทุนตามทิศทางเศรษฐกิจและการเมืองภายใน ความชัดเจนโครงการภาครัฐ และผลจากการเร่งอนุมัติโครงการส่งเสริมการลงทุนในครึ่งหลังปี 2557

โดยคาดว่าการลงทุนภาครัฐจะขยายตัว 9.8% การบริโภคภาคเอกชน คาดจะขยายตัว 2.6%

ธปท.จ่อหั่นเป้าตามสภาพัฒน์

นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ที่ สศช. ประกาศออกมา ถือว่ามีการฟื้นตัวใกล้เคียงกับที่ ธปท. ได้ประเมินไว้ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ครั้งล่าสุด (5 พ.ย.) โดยการบริโภคในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง การลงทุนภาคเอกชนออกมาดีกว่าที่ ธปท. ประเมินไว้ โดยกลับมาขยายตัวหลังจากหดตัวต่อเนื่องมา 4 ไตรมาส เพียงแต่การส่งออกยังหดตัวและรายจ่ายลงทุนภาครัฐยังมีข้อจำกัด

อย่างไรก็ตามตัวเลขจีดีพีไตรมาสดังกล่าว นับว่าขยายตัวได้ต่ำกว่าที่ธปท.ได้ประเมินไว้เมื่อเดือนก.ย. ซึ่งขณะนั้น ธปท. มองว่าการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตได้ 1.5% ดังนั้นการประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจครั้งใหม่ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในวันที่ 17 ธ.ค.นี้คงจะมีการปรับลดคาดการณ์การเติบโตลง

ส่วนจะเป็นเท่าไรยังต้องรอดูข้อมูลสภาวะเศรษฐกิจเดือนต.ค. รวมทั้งติดตามผลของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐในช่วงปลายปีนี้ก่อน

พาณิชย์คาดส่งออกปีหน้าโต4%

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกนั้น ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น และจะดีต่อเนื่องไปถึงปี 2558 ที่คาดว่ายอดการส่งออกจะเติบโตในระดับ 4% ขณะที่จีดีพีคาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 4-5 เนื่องจากในช่วง1-2เดือนที่ผ่านมามีตัวเลขการส่งออก ดัชนีผู้บริโภคและสินค้าการนำเข้าเริ่มปรับตัวดีขึ้น ส่วนการดูแลราคาสินค้าขณะนี้รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์จับตาอย่างใกล้ชิด ซึ่งการสำรวจของกรมการค้าภายในล่าสุดยังไม่มีการปรับตัวของราคาสินค้า ซึ่งการจะขึ้นราคานั้นจะต้องมีเหตุผลที่ชัดเจนทั้งจากเงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน” พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว

ส.อ.ท.คาดปีหน้าโตระดับ4%

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ในปี 2558 การลงทุนจากภาครัฐ และเอกชนที่ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจาก บีโอไอ รวมทั้งโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน และการท่องเที่ยวจะเติบโตสูงขึ้นกว่าปีนี้ จะเป็นตัวขัดเคลื่อนเศรษฐกิจขยายตัวในระดับ 4%

“การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาในไทยมากขึ้น เพื่อผลิตสินค้ารองรับตลาดอาเซียนที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะตลาดในอินโดจีน ได้แก่ พม่า, สปป.ลาว, กัมพูชา และเวียดนาม จะขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งอุตสาหกรรมที่จะเติบโตสูงสุดก็คืออุตสาหกรรมก่อสร้าง และการส่งออกวัสดุก่อสร้าง ที่ไทยจะเป็นศูนย์กลางในการส่งสินค้ากลุ่มนี้ให้กับประเทศเพื่อนบ้าน” นายสุพันธุ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม จากการเติบโตของธุรกิจก่อสร้างทั้งในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน ก็จะส่งผลกระทบทำให้แรงงานในไทยขาดแคลนมากยิ่งขึ้น ดังนั้นภาครัฐควรจะปรับปรุงกระบวนการต่างๆ ให้สามารถนำเข้าแรงงานต่างด้าวได้ง่ายขึ้น มีโควตาในแต่ละอุตสาหกรรมที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้กระทบต่อความมั่นคงของไทย ซึ่งนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเรื่องแรงงานได้มาก รวมทั้งยังช่วยในเรื่องของการส่งออกข้ามแดนมีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น และมีต้นทุนโลจิสติกส์ที่ลดลง ดังนั้นผู้ประกอบการจึงจับตานโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษอย่างใกล้ชิด และพร้อมเข้าไปลงทุน หากรัฐมีความชัดเจนในเรื่องของสิทธิประโยชน์ต่างๆ และมีโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอ

โดยการปฏิรูปเศรษฐกิจของรัฐบาลจะต้องเน้นใน 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1.การหาตลาดรองรับสินค้าไทย ซึ่งภาครัฐควรจะเจาะจงประเทศจีน และอาเซียนเป็นเป้าหมายหลัก เพราะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจ 6-7% โดยการสร้างระบบสาธารณูปโภครองรับ การเชื่อมเส้นทางคมนาคม เพื่อขยายยอดส่งออกให้มากขึ้น 2. การลดต้นทุน โดยการปรับปรุงระบบโลจิสติกส์ด้านต่างๆ และเสริมสร้างนวัตกรรม เพื่อลดต้นทุนสินค้าไทย และ3.เงินทุน โดยการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุน

หอการค้าคาดขยายตัวส่งออกแทบไม่ขยับ

ด้าน นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า จากการประเมินล่าสุดคาดว่าปี 2557 การส่งออกจะขยายตัวเพียง 0-0.5% โดยในปีหน้าเศรษฐกิจโลกยังคงอ่อนแอและยังมีปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลางเข้ามากดดันเศรษฐกิจโลก มีเพียงตลาดอาเซียน และการค้าชายแดนที่ยังเติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นแรงบวกการส่งออกไทยให้เติบโตไปได้ โดยคาดว่ายอดส่งออกจะขยายตัวในระดับ 4%

"มั่นใจว่า เศรษฐกิจในปีหน้าจะดีกว่าปีนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากการเมืองมีเสถียรภาพ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐผ่านการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ รวมทั้งราคาพืชผลการเกษตรน่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปีนี้ การท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก และมาตรการบีโอไอใหม่จะทำให้มียอดการลงทุนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มียอดจ้างงานสูงขึ้น"

นายสนั่น กล่าวว่าหอการค้าไทยจะให้ความสำคัญในการนำเอสเอ็มอีไทยออกไปเปิดตลาดใหม่ และเข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะนำบริษัทขนาดใหญ่ และบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนในอาเซียนเข้ามาเป็นพี่เลี้ยงให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั้งในเรื่องการแสวงหาผู้ซื้อ การประสานงานกับหน่วยราชการต่างๆ การจัดคู่ธุรกิจ เป็นต้น เพื่อให้เอสเอ็มอีสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง โดยความช่วยเหลือนี้จะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น 2 ปี ซึ่งอุตสาหกรรมที่ควรออกไปตั้งฐานการลงทุนจะเป็น อุตสาหกรรมสิ่งทอ และเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น

คาดท่องเที่ยวปีหน้าโต5%

ด้าน นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า ในปี 2558 คาดว่าการท่องเที่ยวจะขยายตัวดีกว่าในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวรวมทั้งหมด 30 ล้านคน ขยายตัว 5% เมื่อเทียบกับปีนี้ มีเม็ดเงินเข้าประเทศประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งหากรวมกับยอดการท่องเที่ยวภายในประเทศจะมีมูลค่ารวมถึง 2 ล้านล้านบาท

ส่วนในปี 2557 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 25.5 ล้านคน ลดลง 3.9% เมื่อเทียบกับปี 2556 มีเม็ดเงินเข้าประเทศ 1.14 ล้านล้านบาท ลดลง 4.9%

นายอิทธิฤทธิ์ กล่าวว่าการท่องเที่ยวกลับมาขยายตัว มาจากภาวะทางการเมืองที่นิ่ง แต่ภาครัฐควรจะอำนวยความสะดวกให้กับการท่องเที่ยวโดยการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสนามบินในภูมิภาคหัวเมืองใหญ่ รวมทั้งการเชื่อมโยงสนามบินในภูมิภาคต่างๆกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งเพิ่มบุคลากร และแก้ไขกฎระเบียบการเข้าออกประเทศให้สะดวกรวดเร็ว

Tags : สศช. • จีดีพี • ส่งออก • ค่าเงิน • อาคม เติมพิทยาไพสิฐ • ธปท. • สภาพัฒน์ • จิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา • พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ • ส.อ.ท. • สุพันธุ์ มงคลสุธี • สนั่น อังอุบลกุล • อิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก