แบงก์กรุงเทพตื่นรุกธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง รักษาฐานลูกค้าผู้ประกอบการ หลังปล่อยแบงก์อื่นแย่งตลาดมานาน นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ธนาคารอยู่ระหว่างศึกษาธุรกิจการบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เริ่มเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของธนาคาร รวมถึงลูกค้าต่างจังหวัดที่เริ่มมีความมั่งคั่งมากขึ้น จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ส่งผลให้ลูกค้ามีความต้องการทางการเงิน การลงทุนมากขึ้นจากเดิม ที่ให้ความสำคัญกับการฝากเงินเป็นหลัก อย่างไรก็ตามเขายอมรับว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การแข่งขันจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่งมีมากขึ้นจากหลายสถาบันการเงิน ทำให้ลูกค้าเริ่มตื่นตัวมากขึ้น ในส่วนของธนาคารที่ผ่านมาได้มีโครงการการเงินมั่นคงกับครอบครัวบัวหลวง เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าตระหนักถึงการออม และการวางแผนทางการเงินเพื่อรับวัยเกษียณ ด้วยผลิตภัณฑ์ของบริษัทลูกธนาคาร ทั้งธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุนและธุรกิจประกันภัยประกันชีวิต แต่หลังจากนี้ธนาคารจะหันมาให้ความสำคัญกับการบริหารความมั่งคั่งของลูกค้าระดับบนมากขึ้น “เรายอมรับว่าเข้ามาในธุรกิจนี้ทีหลัง จะต้องคิดหารูปแบบการให้บริการที่เหมาะสม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดรูปแบบการให้บริการรวมถึงนิยามของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม ว่าจะต้องมีสินทรัพย์เพื่อการลงทุนในระดับใด โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในปี 2558” ในส่วนของการแข่งขันระดมเงินฝาก นายทวีลาภกล่าวว่าในช่วงนี้เริ่มมีมากขึ้น ถือเป็นภาวะปกติที่ธนาคารแต่ละแห่งต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการขยายสินเชื่อในปีหน้า ทำให้แต่ละสถาบันการเงินต้องออกแคมเปญการตลาดมากขึ้นในขณะนี้ สำหรับการขยายสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารในช่วงที่ผ่านมายังขยายตัวได้ตามเป้าหมาย โดยเห็นการเติบโตในระดับ 6% ใกล้เคียงกับภาพรวมตลาด ทำให้พอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้นมาใกล้ระดับ 2 แสนล้านบาท ถือเป็นระดับที่น่าพอใจ เขากล่าวว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับกระบวนการขายให้รวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนากระบวนการอนุมัติสินเชื่อให้ได้ภายใน 1 วัน ซึ่งธนาคารได้ทดลองตลาดไปแล้วในงานมหกรรมการเงินในจังหวัดเชียงใหม่และอุดรธานี ที่ลูกค้าให้ความสนใจมากขึ้น โดยลูกค้าที่ยื่นเอกสารครบจะสามารถรู้ผลได้ทันที แต่ในขณะนี้การนำมาใช้ในสาขาของธนาคารยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตามในช่วงปลายปีนี้ จะเห็นความต้องการเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล แต่ยอมรับว่าในปีนี้ความต้องการยังฟื้นตัวช้ากว่าปีก่อน ๆ เล็กน้อย ขณะที่อุปทานในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังมีส่วนเกินอยู่ แม้ว่าจะปรับตัวจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งการชะลอตัวดังกล่าวส่งผลดีกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ร้อนแรงเกินไป ในส่วนของธนาคารยอมรับว่าภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการอนุมัติสินเชื่อของธนาคารพอควร ส่วนทิศทางในปี 2558 เชื่อว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมา ทำให้ภาพรวมตลาดสินเชื่อบ้านในปีหน้า จะฟื้นตัวดีขึ้นอีกครั้ง โดยในขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างวางแผนการขยายธุรกิจในปี 2558 Tags : ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ • ธนาคารกรุงเทพ • ธุรกิจเวลท์