บริษัทตลาดเอ็ม เอ ไอ ติด 3 อันดับแรก กำไร 9 เดือน โตมากสุดในกลุ่มหุ้นใหม่ ไทย โซล่าร์ ครองแชมป์โตกว่า 558% บริษัทตลาดเอ็ม เอ ไอ ติด 3 อันดับแรก กำไร 9 เดือน โตมากสุดในกลุ่มหุ้นใหม่ ‘ไทย โซล่าร์’ ครองแชมป์โตกว่า 558% จากปีก่อน พบกว่าครึ่งไอพีโอกำไรลดจากปีก่อน ด้าน ‘บางกอกแอร์เวย์ส’ กำไรวูบมากสุด ด้าน ‘ริชี่ เพลส’ คาดไตรมาส 4 เติบโตก้าวกระโดด หลังงวด 9 เดือนทรุด 71% เหตุรายได้ส่วนใหญ่ทยอยรับรู้สิ้นปี จากการสำรวจข้อมูลบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ (IPO) ทั้งในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ทั้งสิ้น 28 ราย จากทั้งหมด 29 ราย ที่ประกาศผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน 2557 ทั้งนี้ บริษัทที่มีกำไรสุทธิ งวด 9 เดือน ปี 2557 เทียบกับงวด 9 เดือน ปี 2556 เติบโตมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ (TSE) เติบโต 558.97% บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ SMART เติบโต 315.36% และ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO เติบโต 307.87% ขณะที่บริษัทที่มีอัตราการลดลงของกำไรสุทธิมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ (BA) ลดลง 88.86% บริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) หรือ AIE ลดลง 80.45% และ บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ RICHY ลดลง 71.35% ทั้งนี้ บริษัทที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิงวด 9 เดือน มากที่สุด 3 อันดับแรก เป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามมีบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ในตลาด เอ็ม เอ ไอ 8 บริษัท จากทั้งหมด 17 บริษัทที่มีอัตรากำไรสุทธิลดลง ซึ่งบริษัทที่มีอัตรากำไรสุทธิลดลงมากที่สุดคือ เอ ไอ เอนเนอร์จี บริษัทเข้าใหม่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มี 4 บริษัท ที่อัตรากำไรสุทธิลดลง ส่วนบริษัทที่มีอัตรากำไรสุทธิเติบโตมากที่สุด คือ บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เติบโต 167.49% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ทั้งนี้ยังมีบริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ AJD ที่ยังไม่ได้ประกาศผลการดำเนินงาน นางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทในงวด 9 เดือนที่ผ่านมาลดลงจากปีก่อน เป็นเพราะโครงการของบริษัทในปีนี้จะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 เกือบทั้งหมด โดยเริ่มทยอยรับรู้ในไตรมาส 3 เพียง 2 วัน คือ 29-30 ก.ย. ที่ผ่านมา ส่วนปีก่อนโครงการของบริษัทส่วนใหญ่จะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ต้นปี “บริษัทยังมั่นใจว่าปีนี้จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้ 10-20% จากปีก่อน เพราะรายได้จากโครงการเตาปูน ซึ่งเป็นโครงการหลักของบริษัทในปีนี้ จะทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 เกือบทั้งหมด และมั่นใจว่าผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 4 เมื่อเทียบกับปีก่อนจะเติบโตมากกว่ามาก เพราะไตรมาส 4 ปีที่แล้วเป็นช่วงที่รายได้ของบริษัทลดลง หลังจากทยอยรับรู้รายได้ส่วนใหญ่ไปตั้งแต่ต้นปี” นางอาภา กล่าว ด้านนางสาวแคทลีน มาลีนนท์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจของบริษัทในไตรมาส 4 นั้นมั่นใจว่า ผลประกอบการจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยจะเริ่มทยอยจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์จากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาอาคารพาณิชย์ (Commercial Rooftop) ที่บริษัท ได้ร่วมลงทุนกับบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO และบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด จำนวน 14 โครงการ โครงการละ 1 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นเดือน พ.ย. นี้ จะจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ 5 โครงการ ได้แก่ เขาใหญ่ ราชพฤกษ์ สุราษฎร์ธานี ลพบุรีและชุมพร ซึ่งจะสามารถบันทึกเป็นรายได้เพื่อสร้างอัตราการเติบโตให้กับผลการดำเนินงานของบริษัทได้ “ในไตรมาส 4 ปีนี้ บริษัทเชื่อว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตได้ดีต่อเนื่อง เพราะจะสามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปิดรับแสงแดดได้ดี ทำให้ความสามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย รวมถึงการทยอยจำหน่ายไฟฟ้าเข้าเชิงพาณิชย์จากโครงการ Commercial Rooftop เป็นปัจจัยสำคัญต่อผลประกอบการที่จะเติบโตขึ้น” นางสาวแคทลีน กล่าว Tags : ตลาดหุ้น • เอ็มเอไอ • หุ้นใหม่ • แคทลีน มาลีนนท์