ตลาดรถยนต์ปีนี้ถดถอยอย่างรุนแรง ยอดสะสมเคยร่วงลงไปถึงระดับ 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว และแม้ว่ายอดสะสมช่วง 2 เดือนล่าสุด ปรับตัวดีขึ้น เหลือติดลบ 39% และ 38% ตามลำดับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสถานการณ์จะดีขึ้น เพียงแต่ช่วงปลายปี 2556 สถานการณ์ตลาดย่ำแย่เช่นกัน ทำให้ตัวเลขเปรียบเทียบไม่ต่างกันมาก ตลาดปกติ จึงไม่สามารถให้ความหวังกับผู้ผลิตได้มากนัก ซึ่งยอดขายล่าสุดเดือน ก.ย. ก็ยังอยู่ในระดับ 6 หมื่นคันเท่านั้น ดังนั้นสิ่งที่พอจะหวังได้บ้างก็คือ บรรยากาศการซื้อขายช่วงปลายปีในงานแสดงรถที่กำลังจะมาถึงช่วงปลายเดือนนี้ นั่นคือ "มหกรรมยานยนต์" อย่างไรก็ตามการคาดหวังคงไม่ได้อยู่ที่บรรยากาศอย่างเดียว แต่ยังมีแรงหนุนจากรถรุ่นใหม่ๆ ที่จะเข้ามากระตุ้นตลาดจำนวนมาก ซึ่งหลายๆรุ่นมีความน่าสนใจ และอยู่ในตลาดใหญ่ แต่ก็น่าเสียดายว่า มาสด้า 2 อีโค คาร์ เฟส 2 คันแรก ยังไม่เปิดตัวหรือเปิดจองอย่างเป็นทางการในงานนี้ แม้ในทางปฏิบัติ เชื่อว่าตัวแทนจำหน่ายคงจะเปิดรับจอง แต่ก็ไม่สามารถเอาตัวเลขเข้ามารวมเป็นยอดในปีนี้ได้ ในตลาดรถเล็ก มีผู้มาใหม่ก็คือ เอ็มจี ซึ่งในงานจะเปิดจำหน่ายรถเล็ก เอ็มจี 3 อย่างเป็นทางการ ซึ่งต้องตามดูว่าครั้งนี้เอ็มจีจะแก้ตัวสำเร็จหรือไม่หลังจากการเปิดตัว เอ็มจี 6 ก่อนหน้านี้ตลาดไม่เดินนัก อย่างไรก็ตามช่วงที่ผ่ามา เอ็มจี เดินหน้าวางเครือข่ายจัดจำหน่ายและศูนย์บริการหลายแห่ง ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้สามารถคุยกับลูกค้าได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูว่า เอ็มจี 3 ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการทำตลาดที่เอ็มจีพูดมาตั้งแต่ต้น จะทำราคาได้น่าสนใจมากน้อยแค่ไหน ฝั่งฮอนด้า ซึ่งเปิดตัวรถใหม่ เอชอาร์-วี อย่างเป็นทางการวันนี้ ก่อนจะส่งรถเข้าไปชิงยอดในงาน ก็น่าสนใจ เพราะตลาดครอสโอเวอร์เล็กก็ได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งจากการที่ผู้บริโภคเบื่อรถในรูปทรงเดิมๆ หรือว่าเหมาะสมกับสภาพดินฟ้าอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ที่ผ่านมามีผู้เล่นไม่มาก และเป็นค่ายกลางและเล็ก คือ นิสสัน จู๊ค และฟอร์ด เอคโค่ สปอร์ต การมาของเอชอาร์-วี ภายใต้การทำตลาดของค่ายใหญ่ จึงเป็นสิ่งที่น่าจับตาว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดได้มากน้อยเพียงใด ตลาดใหญ่อีกกลุ่มคือ รถปิกอัพ มิตซูบิชิ ก็จะเปิดตัวไทรทัน ใหม่ วันพรุ่งนี้ (18 พ.ย.) หลังจากที่ทำตลาดตัวเดิมมายาวนานหลายปี ซึ่งการมาครั้งนี้ของไทรทัน ก็เป็นไปตามทิศทางความนิยมของตลาด คือขนาดตัวถังที่ใหญ่โต และน่าจะส่งผลดีต่อตลาดรวม เพราะที่ผ่านมาผู้บริโภคที่จะซื้อรถปิกอัพในกลุ่มเดียวกัน อาจจะรอดูข้อมูลดูรถใหม่เพื่อเปรียบเทียบรายละเอียดกันก่อน และวันเดียวกันนี้ นิสสัน ก็จะฟื้นชีพเอ็กซ์เทรลอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้มันได้รับการปรับปรุงให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น ปราดเปรียวและหรูหรามากขึ้น ซึ่งคงจะทำให้ตลาดเอสยูวีที่ได้รับความนิยมมากขึ้น มีสีสันขึ้นไม่น้อย ทางด้านขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ บอกว่าขณะนี้งานพร้อม 100% แล้ว โดยมีค่ายรถเข้าร่วมงาน 40 ยี่ห้อจาก 13 ประเทศ และรถจักรยานยนต์อีก 11 ยี่ห้อ จาก 7 ประเทศ และยังค่อนข้างมั่นใจกับกำลังซื้อปลายปี ว่าจะทำให้ยอดจองในงานทำได้ 5 หมื่นคัน สูงกว่าปีที่แล้วที่ทำได้ 4.1 หมื่นคัน ผู้ชมงาน 1.5 ล้านคน มากกว่าปีที่แล้ว ซึ่งมีทั้งสิ้น 1.35 ล้านคน เม็ดเงินจะสะพัดในงาน 5.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งก็ถือว่าเป็นการตั้งเป้าที่ค่อนข้างท้าทายทีเดียว ขวัญชัยบอกว่าสำหรับกิจกรรมในงาน เพื่อดึงดูดผู้ชม ก็จะเข้มข้นไม่แพ้กัน เช่น การชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท ซึ่งรางวัลใหญ่คือ รถยนต์เอ็มจี 6 สำหรับผู้ที่ซื้อรถในงาน และฟอร์ด เอคโค สปอร์ต สำหรับผู้ซื้อบัตรเข้าชมงาน เป็นต้น บรรยากาศงานจะดีขึ้นจริงหรือไม่ รถใหม่จะกระตุ้นยอดได้แค่ไหน เมื่อผ่านวันรัฐธรรมนูญ 10 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของงาน คงได้รู้กัน Tags : ยานยนต์ • รถใหม่ • มอเตอร์โชว์ • ตลาดรถยนต์ • ขาย • ซื้อ • ถดถอย • โตโยต้า