มาสด้า2ดีเซล ช่วงล่างแน่น แรงเรียกได้

หัวข้อกระทู้ ใน 'ยานยนต์' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 17 พฤศจิกายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    เป็นที่ชัดเจนครับสำหรับมาสด้า2กับข้อสงสัยของหลายคนว่าจะขายเมื่อไร เครื่องยนต์อะไร เป็นรถกลุ่มไหน

    แต่ที่ยังไม่ชัดเห็นจะมีเรื่องเดียวคือ ราคาเท่าไร

    มาสด้า 2 เปิดสายการผลิตอย่างเป็นทางการที่โรงงาน ออโต้อัลลายแอนซ์ หรือ เอเอที เมื่อ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะนำรถไปแสดงต่อสาธารณชนในงานมหกรรมยานยนต์ปลายเดือนนี้ แต่เป็นแค่การเผยโฉมให้เห็นเท่านั้น การเปิดตัว การเปิดราคา จะมีขึ้นช่วงกลางเดือน ม.ค. ปีหน้านะครับ เพราะฉะนั้นปลายเดือนนี้ที่เมืองทอง ก็คือการไปดูตัวรถเท่านั้น

    ส่วนจะไปกระซิบกับพนักงานขาย เรื่องราคา เรื่องจอง ก็ลองดูครับ

    แต่ก่อนที่จะถึงช่วงเวลาเหล่านั้น สัปดาห์ที่ผ่านมา มาสด้าจัดกิจกรรมทดสอบนำร่องก่อน และมีวิศวกรที่เกี่ยวข้องมาให้รายละเอียดของตัวรถด้วย

    มิโนริ ทากาตะ ผู้จัดการโครงการ มาสด้า 2 ของมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ญี่ปุ่นบอกว่า มาสด้า 2 ใหม่จะมาเติมเต็มเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ และการออกแบบยุคใหม่ หรือ โคโดะ ดีไซน์ ต่อจากรุ่นอื่นๆ ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ทั้ง ซีเอ็กซ์ 5 มาสด้า 6 และมาสด้า 3

    และก็ยังเหมือนกับรุ่นพี่ ก็คือ การออกแบบนั้นมาจากท่วงท่าของเสือชีตาห์ แต่จะแตกต่างจากรุ่นพี่นั่นคือ มาสด้า 6 เปรียบเหมือนชีตาห์ที่วิ่งอยู่ตัวแล้ว มาสด้า 3 คือ ชีตาห์ที่กำลังเร่งความเร็ว และมาสด้า 2 คือ ชีตาห์ที่กำลังโจนทะยาน

    ก็ลองหลับตานึกภาพกันดูครับ

    ทากาตะบอกว่า มาสด้านั้นจับเอาจุดเด่นของรุ่นพี่มาใส่ในมาสด้า 2 เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการขับรถเล็กแต่มีคำถามติดมาด้วย นั่นคือ รถเล็กตอบสนองในเรื่องสมรรถนะได้หรือไม่ ตอบสนองเรื่องความสะดวกสบายได้หรือไม่ เป็นต้น

    เครื่องยนต์ที่จะเปิดตัวคือ ดีเซล 1.5 ลิตร เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ ซึ่งมาสด้าบอกว่าให้กำลังสูงสุด 77 กิโลวัตต์ แรงบิด 250 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด อัตราสิ้นเปลือง 26.4 กม./ลิตร

    ซึ่งสเปคเครื่องยนต์ก็น่าจะเหมือนกับที่เปิดตัวในญี่ปุ่นที่ระบุว่า กำลัง 105 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที

    เครื่องยนต์ตัวนี้กำลังอัด 14.8 : 1 ซึ่งสูงกว่าเครื่องตัว 2 ลิตรที่อยู่ใน ซีเอ็กซ์ 5 ที่มาสด้าสามารถลดกำลังอัดได้ต่ำสุดในโลกคือ 14:1 เนื่องจากมีขนาดเล็ก ทำให้มีข้อจำกัดบางอย่าง แต่ก็สูงขึ้นไม่มากนัก

    ช่วงล่างหน้า คอยล์สปริง ด้านหลังเป็นแข็ง แต่พิเศษที่ล้อไม่ติดอยู่ปลายคานโดยตรง แต่มีแขนยื่นมาด้านหลัง ช่วยให้สามารถให้ตัวได้ดีขึ้น และที่ช่วงล่างหลังยังมีตัวเซนเซอร์ คอยตรวจจับน้ำหนักที่กดลงมา เพื่อให้รถปรับน้ำหนักเบรกให้เหมาะสมอีกด้วย ซึ่งก็ถือว่าล้ำพอควร สำหรับรถในตลาดนี้

    ทางด้านออพชั่นหลักที่ให้มาในด้านความปลอดภัย ก็เช่นระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว หรือ DSC และเอบีเอส เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่น ถุงลมคู่หน้า ระบบเฮดอัพที่ให้ข้อมูลการขับขี่ โดยผู้ขับไม่เสียสมาธิในการมองเส้นทาง เป็นต้น

    ด้านความสะดวกสบาย และความบันเทิงก็เช่น มอนิเตอร์ขนาด 7 นิ้ว ติดตั้งแบบลอยตัวบริเวณกลางคอนโซล ปุ่มควบคุมแบบศูนย์กลาง ระบบเอ็มแซดดี คอนเนคท์ ทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟน ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ การรับข้อความสั้น เป็นต้น

    มาว่ากันที่การขับขี่กันครับ การทดสอบครั้งนี้จัดที่สนามแข่ง โบนันซ่า เขาใหญ่ ซึ่งเป็นสนามที่มีความน่าตื่นเต้นไม่น้อย เนื่องจากหลายๆโค้งพลาดไม่ได้

    ทางผู้จัดมีกำหนดจุดหยุดรถ 1 จุด คือ โค้งขึ้นเนิน โดยบอกว่าเพื่อเป็นการลองดูการทำงานของเครื่องยนต์กับidle stop ก็คือจอดรถให้นิ่ง จนเครื่องยนต์ดับ จากนั้นก็เหยียบคันเร่ง เพื่อดูว่าพอเครื่องทำงาน จะมาพร้อมกับแรงบิดไต่ขึ้นเนินได้เลยหรือไม่ ซึ่งก็ต้องยอมรับครับว่า มาเร็วจริง เพราะไม่กี่สิบเมตรก่อนเข้าโค้งแบบยูเทิร์น ล้อก็ทะเลาะกับแทร็คเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดได้แล้ว

    ช่วงทางตรงของสนาม มีกรวยมาตั้งให้ขับแบบสลาลอม ก่อนเข้าสู่เลนเชนจ์ หรือการเปลี่ยนเลนแบบกะทันหันด้วยความเร็ว

    ทั้ง 2 ส่วนนี้ทำได้ดีครับ วงเลี้ยวที่แคบ และการเกาะถนนที่ดี ทำให้เลื้อยผ่านช่วงสลาลอมได้สบายๆ ขณะที่เลนเชนจ์ก็ผ่านได้ไม่ยาก ขณะที่บางช่วงของสนามซึ่งไม่ใช่ทางตรงหลักที่พอจะกดคันเร่งได้ ผมเหลือตามองหน้าปัด มันขึ้นไปถึง 120 ซึ่งถือว่าทำได้เร็วเกินคาดครับ

    กับช่วงโค้งอื่นๆของสนาม มาสด้า 2 ผ่านไปได้อย่างสนุกครับ ช่วงล่างจัดการได้อยู่หมัด และบางช่วงรับรู้ได้ว่าสามารถเติมความเร็วเข้าไปได้อีก

    ขณะที่บางช่วงที่โค้งแคบมากๆ การเติมคันเร่งจนรถเหมือนจะมีอาการอันเดอร์เสตียร์ มันก็บอกให้เรารู้ชัดเจน ก็แค่จัดการกับพวงมาลัยแค่เล็กน้อย ก็กลับมาอยู่ในเส้นทาง

    ช่วงล่างดีกว่ารุ่นเดิมอย่างเห็นได้ชัด ตัวเดิมหากอัดเข้าโค้งแรงๆ มีอาการสะบัดให้รู้สึกได้ แต่ตัวนี้ไม่มี

    พวงมาลัยเหมือนจะเบาไปสักนิด แต่ก็ต้องรอดูอีกครั้งกับการขับในชีวิตประจำวัน หรือบนถนนหลวงว่าเป็นอย่างไร

    เสียดายว่าเวลาขับไม่มากนัก เขากำหนดให้คนละ 3 รอบ และหลังจากครบทุกคนแล้ว ผมจะไปขอเพิ่มอีก 3 รอบก็ตาม

    ถ้าให้ขับแบบยาวๆ และนานกว่านี้ ผมเชื่อว่าสนุกกว่านี้แน่นอนครับ


    Tags : ยานยนต์ • ดีเซล • มาสด้า • ทดสอบ • ช่วงล่าง • ตลาดรถยนต์

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้