โบรกฯมั่นใจ'หุ้นไอพีโอ'ยังขลัง

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 16 พฤศจิกายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    โบรกฯมั่นใจ "หุ้นไอพีโอ" ยังขลัง ปี58 บริษัทจ่อคิวเข้าตลาดเพียบ

    นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงทิศทางของหุ้นไอพีโอ (Initial public offering ; ไอพีโอ หมายถึงหุ้นที่ถูกเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปในครั้งแรกก่อนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์) ว่า ตลาดไอพีโอปีนี้ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุน และมีบริษัทแสดงความจำนงที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นต่อเนื่อง

    ทั้งนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความมั่นใจในภาวะตลาดหุ้นและภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่น่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์การเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น

    "ถ้าเราดูสถิติหุ้นไอพีโอย้อนหลัง 3-5 ปี จะพบเลยว่าหุ้นไอพีโอได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทั้งสถาบันและรายย่อยต่อเนื่อง ดูได้จากยอดการจองหุ้นที่มากเกินจำนวนหุ้น และราคาเปิดที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง จนหุ้นบางตัวชนซิลลิ่ง (เพดาน) โดยหุ้นที่เข้าตลาด 9 ใน 10 ตัวประสบความสำเร็จทั้งหมด ซึ่งเรามองว่าวะตลาดแบบนี้น่าจะดีต่อเนื่องไปอีกหลายปี เพราะฐานตลาดหุ้นก็เริ่มขยายกว้างขึ้นด้วยเช่นกัน" นายสมภพ กล่าว

    ไม่หวั่นมาตรการคุมหุ้นร้อน

    กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวต่อว่า ล่าสุดคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ประกาศเกณฑ์คำนวณหลักทรัพย์ที่มีอัตราการซื้อขายหมุนเวียนสูง (Turnover List) เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการซื้อขายในปัจจุบัน โดยจะเริ่มใช้เกณฑ์ใหม่ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับประกาศเกณฑ์ใหม่ไม่น่ากังวลมากนัก และไม่น่ามีผลต่อการลงทุนของนักลงทุนปกติ

    ขณะที่มาตรการคุมหุ้นร้อนที่ตลาดหลักทรัพย์ และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ (สมาคม บล.) เตรียมจะประกาศในวันที่ 19 พ.ย.นั้น โดยส่วนตัวก็เชื่อว่าจะไม่กระทบกับการลงทุนของหุ้นไอพีโอ และนักลงทุนที่ลงทุนปกติ เนื่องจากเหตุผลหลักที่ตลาดหลักทรัพย์และสมาคม บล.จะออกมาตรการ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้นักลงทุนเข้าลงทุนในหุ้นที่มีการเก็งกำไรสูงและเคลื่อนไหวผิดปกติ แต่มาตรการจะได้ผลหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป

    "มาตรการดูแลตลาดหุ้นที่ผ่านมามีเยอะมาก แต่นักลงทุนที่ชอบหุ้นร้อนก็จะมีวิธีเข้าไปลงทุนที่ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อย่างมาตรการคุมหุ้นร้อนที่ตลาดหลักทรัพย์ฯเตรียมจะประกาศออกมา ก็เหมือนป้ายประกาศห้ามสูบบุหรี่ ยิ่งตรงไหนมีป้ายประกาศ คนก็อยากลองไปยืนสูบบุหรี่ตรงนั้น คนเรายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ นักลงทุนที่ลงทุนแบบปกติก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไร แต่ถ้าเป็นนักลงทุนแบบเก็งกำไรก็ต้องปรับตัว ทั้งนี้มาตรการทุกอย่างที่ตลาดหลักทรัพย์ประกาศออกมาก็เพื่อรักษาเสถียรภาพการลงทุนในตลาดหุ้นในเดินหน้าได้อย่างยั่งยืน"

    มั่นใจตลาดหุ้นปีหน้ายังแรง

    นายสมภพ กล่าวอีกว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นในปีหน้า เชื่อว่ายังเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นต่อเนื่องจากปีนี้ ตามภาวะเศรษฐกิจที่จะขยายตัว 4-5% ดีขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัวประมาณ 1.5% เท่านั้น โดยปัจจัยที่จะเป็นตัวส่งเสริมทำให้เศรษฐกิจปีหน้าดีขึ้นมา คือ การท่องเที่ยว การลงทุนของภาครัฐและเอกชน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายที่อยู่ระดับ 4-5 หมื่นล้านบาทในปัจจุบัน จะช่วยส่งเสริมให้การลงทุนในตลาดไอพีโอมีความน่าสนใจมากขึ้นด้วย

    "ฝ่ายวิเคราะห์ของบริษัทประเมินกลยุทธ์การลงทุน โดยแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นจังหวะอ่อนตัวในกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย อาทิ กลุ่มค้าปลีก กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยประเมินแนวรับ 1,565+/- จุด แนวต้าน 1,580-1,585 จุด" นายสมภพ กล่าว

    50บจ.ตบเท้าเข้าตลาด

    นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ และบริษัทจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ทั้งปีนี้จะมีหุ้นที่เข้าจดทะเบียนในตลาด (ไอพีโอ) มากกว่า 50 หลักทรัพย์ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกันมากกว่า 3 แสนล้านบาท โดยเป็นผลมาจากภาวะตลาดที่ดี และสถานการณ์การเมืองที่นิ่งขึ้น

    ปีนี้มีหุ้นเข้ามาระดมทุนแล้ว 36 บริษัท มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคป 2.7 แสนล้านบาท ปัจจุบันมีหุ้นที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาส 4 มีอยู่ในแผนแล้วกว่า 16 บริษัท ทั้ง SET และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ และคาดจะส่งผลดีไปจนถึงปีหน้า เนื่องจากขณะนี้มีบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งอยู่ระหว่างการรอการสรุปผลประกอบการยื่นขอจดทะเบียนหลักทรัพย์เพื่อขายหุ้นไอพีโอในปีหน้า

    "ผมไม่สามารถระบุได้ว่าปีหน้าจะมีบริษัทเข้าตลาดหุ้นจำนวนเท่าใด แต่เราพยายามที่จะดึงบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นให้มากที่สุด เพื่อขยายฐานตลาดหุ้นไทยให้โตมากขึ้น" นายชนิตร กล่าว

    ตั้งเป้าดึงบจ.ต่างชาติ

    รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ และบริษัทจดทะเบียน ตลท. กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯได้ปรับกฎเกณฑ์เพื่ออำนวยให้บริษัทต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯได้มากขึ้น และคาดว่าจะมีบริษัทต่างประเทศเข้ามาระดมทุนหลังจาก ก.ล.ต.ประกาศกฎเกณฑ์ทรัสต์เพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างประเทศ โดยเปิดโอกาสให้บริษัทต่างชาติสามารถนำสินทรัพย์เข้ามาขายในตลาดหุ้นไทยได้ ซึ่งเรื่องนี้ ก.ล.ต.ได้ผ่านการพิจารณากฎเกณฑ์ดังกล่าวแล้ว คาดว่าจะมีบริษัทที่ขายสินทรัพย์ผ่านกฎเกณฑ์ดังกล่าวในปีหน้า

    นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการปรับหลักเกณฑ์การให้บริษัทต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนได้โดยตรงให้มีความสะดวกมากขึ้น ซึ่งกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่มบริษัทจดทะเบียนไทยที่ไปตั้งบริษัทลูกร่วมกับบริษัทในต่างประเทศ ให้สามารถนำบริษัทลูกเข้ามาจดทะเบียนได้ และหากบริษัทใดที่ไม่มั่นใจในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยเพียงแห่งเดียว ก็สามารถเลือกขายหุ้นไอพีโอพร้อมกันใน 2 ประเทศได้ เพราะกฎเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนของกลุ่มในประเทศอาเซียนเป็นมาตรฐานเดียวกัน

    เบื้องต้นตลาดหลักทรัพย์จะเน้นบริษัทในกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง คือ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม เนื่องจากกลุ่มประเทศดังกล่าวมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงมาก และต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอีกจำนวนมาก อีกทั้งตลาดหุ้นเพื่อนบ้านยังมีการเติบโตไม่สูงนัก นักลงทุนต่างชาติกล้าที่จะเข้ามาลงทุนผ่านตลาดหุ้นไทย เพราะการระดมทุนในตลาดหุ้นไทยจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากกว่าตลาดอื่น

    เปิดสถิติไอพีโอปี57-58

    ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ความเคลื่อนไหวของบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ในปี 2557 พบว่า มีหุ้นไอพีโอเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นทั้งหมด 29 ตัว แบ่งเป็นหุ้นที่เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 12 ตัว และเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ 17 ตัว โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอทั้งสิ้น 172,609.23 ล้านบาท

    ทั้งนี้ มีหุ้นที่ราคาวันแรกปรับเพิ่มขึ้นเกินกว่า 100% ทั้งสิ้น 11 ตัว ได้แก่ เซปเป้ (SAPPE) ปรับเพิ่มขึ้น 105.56%, ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ (TAE) ปรับเพิ่มขึ้น 180%, ไอร่า แคปปิตอล (AIRA) ปรับเพิ่มขึ้น 150.67%, เอ็กโซติค ฟู้ด (XO) ปรับเพิ่มขึ้น 102.73%, แอลดีซี เด็นทัล (LDC) ปรับเพิ่มขึ้น 200%, ซีซีเอ็น-เทค (CCN) ปรับเพิ่มขึ้น 199.20%, ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ (RWI) ปรับเพิ่มขึ้น 200%, สมาร์ทคอนกรีต (SMART) ปรับเพิ่มขึ้น 168.42%, ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) ปรับเพิ่มขึ้น 104%, สยามเวลเนสกรุ๊ป (SPA)ปรับเพิ่มขึ้น 200%, และ เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ (NCL) ปรับเพิ่มขึ้น 200%

    มีหุ้นที่มีราคาต่ำกว่าจองเพียง 3 ตัว ได้แก่ การบินกรุงเทพ (BA) ต่ำจอง 12%, เอ ไอ เอนเนอร์จี (AIE) ต่ำจอง 25.47% และเกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น (KTIS) ต่ำจอง 3%

    สำหรับในช่วงที่เหลือของปีนี้ มีบริษัทที่เตรียมระดมทุนอีกประมาณ 7 บริษัท โดยจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 4 บริษัท ได้แก่ คาราบาวกรุ๊ป (CBG) เข้าซื้อขาย 21 พ.ย. เมืองไทย ลิสซิ่ง (MTLS) เข้าซื้อขาย 26 พ.ย. อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG) และวิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์ (VPO) คาดเข้าซื้อขายในไตรมาส 4 ปีนี้

    ส่วนบริษัทที่เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ ในปีนี้มี 3 บริษัท ได้แก่ เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ (JSP) เข้าซื้อขาย 19 พ.ย. เค.ซี.เมททอลชีท (KCM) และทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) คาดเข้าซื้อขายในไตรมาส 4 ปีนี้

    ขณะที่ปี 2556 มีบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ทั้งสิ้น 28 บริษัท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอทั้งสิ้น 193,967.93 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ 13 บริษัท มีมูลค่า 31,044.88 ล้านบาท และบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ 15 บริษัท มีมูลค่า 8,017.24 ล้านบาท

    ทั้งนี้ มีหุ้นที่ราคาปรับตัวลงต่ำกว่าราคาจอง 2 ตัว คือ คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น (CSS) และเพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น (PACE)

    Tags : สมภพ กีระสุนทรพงษ์ • บล.ฟินันเซีย ไซรัส • ไอพีโอ

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้