สวนดุสิตโพล ปชช. สบายใจ คสช. ทำประเทศสงบ กังวลแก้การเมือง สนใจข่าวการปฏิรูปและร่าง รธน. มากที่สุด ขณะที่ นิด้าโพล ปชช. ระบุ เก็บภาษีมรดก 10% เหมาะสม มอง ช่วยลดเหลื่อมล้ำ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สํารวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ 1,542 คน ระหว่างวันที่ 10-15 พ.ย. 2557 ภายหลังจากที่ คสช. เข้าควบคุมบริหารประเทศ ซึ่งสิ่งที่ประชาชนสบายใจหรือคลายความกังวลมากที่สุด หรือ ร้อยละ 82.36 บ้านเมืองสงบสุข เป็นระเบียบเรียบร้อย บรรยากาศในประเทศดีขึ้น โดยสิ่งที่หนักใจ/วิตกกังวล ร้อยละ 68.35 ระบุว่า เป็นเรื่องการแก้ปัญหาต่างๆ เช่น การเมือง เศรษฐกิจ ของแพง ไฟใต้ ฯลฯ ขณะที่แนวทางการปฏิรูปประเทศและการร่างรัฐธรรมนูญ เป็นข่าวการเมืองที่ประชาชน ร้อยละ 79.12 สนใจที่สุด ด้านข่าวเศรษฐกิจ ร้อยละ 72.70 ลงความเห็นว่าคือเรื่อง ของแพง ค่าครองชีพสูง ภาวะหนี้สินของคนไทย ส่วรด้านสังคม ร้อยละ 73.87 มองว่า เป็นเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ทั้งนี้ เรื่องที่ประชาชนส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ 72.37 คิดว่าจะดีขึ้น คือ สถานการณ์บ้านเมืองและความเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนสิ่งที่แย่ละ ร้อยละ 74.84 ระบุว่า คุณธรรมจริยธรรมของคนในสังคมเสื่อมถอย นอกจากนี้ เรื่องที่คิดว่าเหมือนเดิม ร้อยละ 69.13 เห็นว่าคือ การก่อคดีต่างๆ อาชญากรรม ภัยสังคม นิด้าโพลคนหนุนเก็บภาษีมรดก10% ศูนย์สํารวจความคิดเห็น นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสํารวจประชาชน 1,249 คน ระหว่างวันที่ 12 - 13 พ.ย. 57 เรื่อง "ร่างกฎหมายภาษีมรดก" โดยประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 69.58 ระบุว่า ข้อเสนอภาษีมรดกที่จะมีการเก็บภาษีในอัตรา 10% เป็นอัตราภาษีที่เหมาะสม ด้านการยกเว้นภาษีมรดกคู่สมรส ร้อยละ 54.04 เห็นด้วย เพราะเป็นทรัพย์สินที่อยู่ในครอบครัวเดียวกัน สามี ภรรยาถือเป็นคนๆ เดียวกัน ขณะที่ การแก้กฎหมายประมวลรัษฎากรการให้ทรัพย์สินแก่บุตรหลาน (กรณียังมีชีวิตอยู่) จากเดิมไม่กําหนดให้มีการเสียภาษี เป็นการเก็บภาษีในอัตรา 5 % จากทรัพย์สินส่วนที่เกินกว่า 10 ล้านบาทต่อปีนั้น ร้อยละ 54.84 เผยว่า เป็นอัตราภาษีที่เหมาะสม ทั้งนี้ เมื่อถามว่า การเก็บภาษีมรดกจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำหรือไม่ ประชาชน ร้อยละ 55.09 ระบุว่า จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำได้ เพราะเป็นการลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน ทําให้เกิดการเอาเปรียบกันในสังคมลดลง นําเงินที่ได้จากการเก็บภาษีนั้นมาพัฒนาประเทศ เพิ่มสวัสดิการต่างๆ เกิดความเท่าเทียมกัน แกนนำชุมชนมั่นใจรบ.แก้โกงจำนำข้าว ชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน เปิดเผยผลวิจัยเชิงสํารวจมาสเตอร์โพลล์ จากแกนนําชุมชน 605 ชุมชน ระหว่างวันที่ 12-15 พ.ย. 2557 เรื่องความคืบหน้าในการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น โครงการรับจํานําข้าว โดยร้อยละ 31.1 ระบุว่า ติดตามข้อมูลสารอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ร้อยละ 76.8 เผยว่า การออกพันธบัตรรัฐบาลจะช่วยชดเชยปัญหาการขาดทุนได้ แต่ทั้งนี้ ร้อยละ 43.3 ยังวิตกกังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนด้านอื่นๆ ของประเทศ ขณะที่ผลงานในการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นในโครงการรับจํานําข้าว พบว่า แกนนําชุมชน ร้อยละ 84.8 ยอมรับในผลงาน เพราะมีความมั่นใจในรัฐบาล นโยบาย การทํางาน เห็นว่าทําเพื่อประชาชน ทําตามสัญญา และสามารถยุติความขัดแย้งได้ นอกจากนี้ สิ่งที่อยากฝากถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นโครงการรับจํานําข้าวนั้น ร้อยละ 81.7 ขอให้มีความเป็นกลางอย่างแท้จริง รองลงมาคือ ร้อยละ 76.2 ขอให้กระบวนการยุติธรรมเป็นไปอย่างเคร่งครัด และ ร้อยละ 71.6 ระบุอย่าให้มีอํานาจใดมาอยู่เหนือความถูกต้อง