สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออกแถลงการณ์ กรณีมีบุคคลอ้างเป็นนายทหารกลุ่มหนึ่งแทรกแซง ข่มขู่คุกคามสื่อมวลชน ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ที่มีนายทหารกลุ่มหนึ่งเข้าไปขอตรวจสอบเนื้อหารายการ ”เสียงประชาชน ต้องฟังก่อนปฏิรูป” ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และกดดันให้ผู้บริหารของสถานีเปลี่ยนตัวผู้ดำเนินรายการดังกล่าวนั้น สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ถือว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายแทรกแซงเสรีภาพในการนำเสนอข่าว และเป็นการข่มขู่ คุกคามสื่อมวลชนโดยตรง สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ขอยืนยันในหลักการ การใช้เสรีภาพของสื่อมวลชนในการรายงานข่าว การแสดงความเห็นอย่างเป็นธรรมด้วยความรับผิดชอบและเป็นโอกาสในการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อการแสดงความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ซึ่งสอดคล้องกับสภาพการณ์ของประเทศไทยในปัจจุบันซึ่งกำลังอยู่ในกระบวนการของการปฏิรูป ซึ่งรวมถึงการปฏิรูปด้านสื่อมวลชนด้วย เพราะฉะนั้น การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ ของสังคมในการแสดงความเห็นที่หลากหลายและรอบด้านย่อมมีความสำคัญมากเป็นพิเศษ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสในฐานะเป็นสื่อสาธารณะ จึงควรมีอิสระในการรายงานข่าวสารและเป็นเวทีแสดงความคิดเห็นโดยปราศจากการแทรกแซงใดๆ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย จึงขอเรียกร้องต่อผู้เกี่ยวข้องในการกระทำการดังกล่าว ดังนี้ 1.ขอคัดค้านการใช้ท่าทีที่เข้าข่ายเป็นการข่มขู่และคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนและบุคลากรของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสและเรียกร้องให้หยุดการแอบอ้างคำสั่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ที่มาที่ไปได้เพื่อปิดกั้นเสรีภาพในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน 2.ขอเรียกร้อง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งการให้มีการตรวจสอบว่ากลุ่มทหารที่เข้าไปกระทำการคุกคามนั้นเป็นนายทหารท่านใดสังกัดหน่วยงานไหนของกองทัพ เพื่อเป็นการป้องกันการแอบอ้างที่จะนำสู่ความเสียหายแก่กองทัพ และ คสช.ขณะเดียวกันขอให้แสดงท่าทีและจุดยืนที่ชัดเจนต่อบทบาทของสื่อมวลชน เพื่อไม่ให้มีการแอบอ้างโดยกลุ่มคนใดๆ ที่จะกระทำการปิดกั้นและคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน 3.ขอเรียกร้องให้กรรมการนโยบายและฝ่ายบริหารของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ปกป้องและคุ้มครองเสรีภาพของบุคลกรในการทำหน้าที่ที่สอดคล้องกับจรรยาบรรณวิชาชีพของสื่อมวลชนด้วย