'โคทม' คาดต้องใช้เวลา 2 ปี ก้าวข้ามความขัดแย้งได้ ขอทุกฝ่ายยอมรับความผิดพลาดในอดีตจึงจะได้รับการอภัย ชี้ปฏิรูปถือเป็นการแก้ขัดแย้งระยะกลาง ขณะที่ กปปส. นัดถกสรุปปม รธน. สัปดาห์หน้า ปัด ขอ คสช. -ได้ 5 คน คุยกมธ.ยกร่างแล้ว นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวระหว่างร่วมเวทีถกแถลงว่า กระบวนการปรองดองในระยะแรกต้องนำคู่ขัดแย้งมาพูดคุยกันเยียวยาอดีตโดยไม่เพิ่มปัญหาในปัจจุบันรวมถึงต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลา 2 ปี จะสามารถก้าวผ่านความขัดแย้งได้ ทั้งนี้ ทุกฝ่ายต้องยอมรับความผิดพลาดในอดีตจึงจะได้รับการให้อภัย ขณะเดียวกันมองว่าขณะนี้ความขัดแย้งยังคงแฝงอยู่และหากแก้ไขไม่ตรงจุด ก็จะทำให้ความขัดแย้งกลับมา ดังนั้น เห็นว่าควรมีการเปิดเวทีให้พูดคุยแสดงความเห็นในข้อเท็จจริง นายโคทม ยังกล่าวว่า สำหรับการปฏิรูปประเทศถือเป็นการแก้ไขปัญหาระยะกลาง หากการปฏิรูปตอบโจทย์ประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ ซึ่งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ มีแนวคิดว่าจะมีบทบัญญัติเฉพาะกาล ที่จะพูดถึงแนวทางการปฏิรูปและแนวทางปรองดองในระยะเวลา 4 ปี ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี และต้องดูว่าจะมีรูปแบบและแนวทางต่อไปอย่างไร ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว ต้องสร้างวิสัยทัศน์และคุณค่าร่วม และก้าวพ้นความสุดโต่งที่เป็นสาเหตุหลักของความขัดแย้ง ลดวาทะกรรมเชือดเฉือนต่อกัน แล้วสร้างวาทะกรรมไปในทางเดียวกัน กปปส. เปิดชื่อ 5 คนคุย กมธ.ยกร่าง รธน. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตโฆษกคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือ กปปส. เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ทาง กปปส. ได้มีการสรุปรายชื่อบุคคล ที่จะเข้าเสนอความเห็นตามคำเชิญของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย, นายถาวร เสนเนียม, นายสุริยะใส กตะศิลา, ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ และตนเอง ส่วนเรื่องเนื้อหาที่จะนำเสนอนั้นก็เป็นแนวทางที่ได้รวบรวมเป็นความเห็นไว้ตั้งแต่เมื่อครั้งมีการชุมนุม ทั้งนี้ ก่อนเดินทางเข้าให้ข้อมูลกับ กมธ.ยกร่าง รธน. ทั้ง 5 คน จะมีการนัดหมายเพื่อสรุปสาระด้านเนื้อหาอีกครั้ง และคิดว่าการนัดคุยกันครั้งนี้ ก็ไม่ต้องขออนุญาตคณะรักษาความสงบแห่งชาติแต่อย่างใด เพราะเป็นการนัดพบพูดคุยกันตามปกติเท่านั้น