"บ้านปู" เตรียมแผนลงทุน 5 ปีฉบับใหม่ หลังแผนเดิมจะครบกำหนดปีสุดท้ายในปี 2558 มุ่งเน้นธุรกิจไฟฟ้าเป็นหลัก นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด(มหาชน) (BANPU) เปิดเผยว่า แผนการลงทุน 5 ปี ของบริษัท จะครบกำหนดในปี 2558 แนวโน้มการใช้เงินลงทุนคงต่ำกว่าแผนที่วางไว้ สำหรับแผนงานใหม่ในช่วง 5 ปี ถัดไป เงินลงทุนอาจจะต่ำกว่าเดิม โดยจะคงเดินตามกรอบเดิม ลงทุนต่อเนื่องจากโครงการเดิม โดยมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจโรงไฟฟ้าในแถบอาเซียน และโรงไฟฟ้าในจีน ทั้งโครงการเดิมที่มีอยู่ และการมองหาโอกาสเพิ่มเติม สำหรับธุรกิจถ่านหิน ก็เน้นการบริหารสินทรัพย์ที่มีอยู่ แม้ราคาถ่านหินในตลาดโลกยังอ่อนตัว แต่แนวโน้มกิจการก็ยังดี โดยในออสเตรเลีย บริษัทลดต้นทุนการดำเนินกิจการได้ตามแผนที่วางไว้ ส่วนในอินโดนีเซีย ฐานการผลิตก็ยังแข็งแรง เช่นเดียวกับธุรกิจในจีน เขากล่าวต่อว่า ส่วนเรื่อง เงินลงทุน ไม่มีปัญหา แม้ว่ากำไรของบริษัทจะปรับลดลง ตามสถานการณ์ราคาถ่านหินในตลาดโลกที่อ่อนตัว แต่บริษัทก็ยังมีช่องในการจัดหาสภาพคล่อง เพราะในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีการบริหารจัดการทางด้านการเงินไม่ให้หนี้สินเพิ่มขึ้น ซึ่งก็ทำได้ดี เรื่องเงินลงทุนจึงไม่มีปัญหา เพราะเตรียมการไว้แล้ว นักวิเคราะห์จากบล.เคเคเทรด เปิดเผยว่า จากการประกาศการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าถ่านหินคุณภาพสูงในจีน (Shanxi Lu Guang) ของบ้านปู ขนาด 1,200 เมกะวัตต์ มูลค่า 735 ล้านเหรียญ โดยบ้านปู ถือหุ้น 30% ด้านโครงสร้างเงินลงทุนจะใช้เงินกู้ 70% คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าภายในปี 2560 นั้น ประเมินมูลค่าเหมาะสม 0.90 - 1.12 บาทต่อหุ้น และมีมุมมองเป็นบวกเนื่องจากกระแสเงินสดที่ได้จากธุรกิจไฟฟ้ามีความสม่ำเสมอกว่า เมื่อเทียบกับธุรกิจถ่านหินที่มีความผันผวนสูงอีกทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงในส่วนของรายละเอียดได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2557 ของบ้านปู ลง 26% จาก 4 พันล้านบาท เหลือ 3 พันล้านบาท เพื่อสะท้อนผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นในงวด 9 เดือนกว่า 295 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกิดจากการกลับรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับภาษีถ่านหินและเหมืองแร่ในออสเตรเลีย 778 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมปี 2557 การดำเนินงานยังคงได้รับผลกระทบจากราคาถ่านหินในตลาดโลกที่ปรับลดลง โดยเฉพาะเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียที่เราคาดว่าราคาขายเฉลี่ยถ่านหินจะลดลง 68 ดอลลาร์ต่อตัน ลดลง 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับแนวโน้มกำไรปี 2558 คงประมาณการไว้ที่ 3.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อน จากการฟื้นตัวที่ชัดเจนจะอยู่ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยปัจจัยหนุนการพลิกฟื้นของผลประกอบการมาจากการเริ่มผลิตไฟฟ้าในโครงการหงสา 2 หน่วย จากทั้งหมดมี 3 หน่วยผลิต) ในช่วงเดือน ก.ค. และ พ.ย.2558 ปัจจุบันการก่อสร้างโครงการดังกล่าวคืบหน้าไปกว่า 91% รวมทั้งไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษมากเหมือนปี 2557 ขณะที่ธุรกิจถ่านหินคาดว่าจะทรงตัว โดยยอดขายถ่านหินรวมจะทรงตัว ขณะที่ราคาถ่านหินจากอินโดนีเซียยังมีโอกาสปรับลด 5% เหลือ 65 ดอลลาร์ต่อตัน แต่จะถูกชดเชยด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับเพิ่มจากการลดต้นทุนผลิตตามแผนของบริษัทที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง Tags : ชนินท์ ว่องกุศลกิจ • บ้านปู • งบลงทุน • โรงไฟฟ้า