ปตท.เผยมี 4 กลุ่มสนใจซื้อหุ้นบางจากที่ถือครอง 27.22% กลุ่มมหากิจศิริ-ซัสโก้-พีทีจี-กลุ่มพนักงานบางจาก นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) PTT เปิดเผยว่า ตอนนี้มีผู้สนใจ 3-4 รายจะซื้อหุ้นของบริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) BCP ซึ่งเป็นหุ้นในส่วนที่ปตท.ถือครองอยู่ 27.22% โดยผู้ที่สนใจประกอบด้วยนายประยุทธ์ มหากิจศิริ ประธานกรรมการกลุ่มพีเอ็มกรุ๊ป, บริษัทซัสโก้ จำกัด (มหาชน) SUSCO, บริษัทพีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) PTG และกลุ่มผู้บริหาร-พนักงานของบริษัทบางจาก "การจำหน่ายหุ้นในบางจาก ในส่วนที่บริษัทปตท.ถือไว้ประมาณ 27% จะเร่งดำเนินการ ให้เร็วที่สุด เบื้องต้นทราบว่า มีทั้งกลุ่มนายประยุทธ์ มหากิจศิริ, ซัสโก้, พีที และ บางจากฯ สนใจจะซื้อหุ้น" นายปิยสวัสดิ์กล่าว ทั้งนี้ ปตท.จะพิจารณาจากราคาตลาด และผลตอบแทนที่ดีที่สุด แหล่งข่าวบริษัทบางจาก กล่าวว่า นายพิชัย ชุณหวชิร ประธานกรรมการ บริษัทบางจาก ได้พบพนักงานและเชิญชวนให้ร่วมซื้อหุ้นจากบริษัทปตท.ในสัดส่วน 3% ขณะที่ ส่วนหุ้นเหลืออีกราว 24% นั้น บริษัทบางจาก อาจตั้งบริษัทใหม่ และเชิญชวนพันธมิตร เช่น กลุ่มสหกรณ์ชุมชนต่างๆ ที่เคยเข้าร่วมซื้อหุ้น ในอดีต มาร่วมซื้อหุ้นในครั้งนี้ด้วย โดยคาดว่าอาจต้องใช้เงินซื้อหุ้นในราคาตลาดหรือสูงกว่า ซึ่งบริษัทบางจากฯ อาจต้องจัดหาเงินกู้ในการซื้อหุ้นไม่ต่ำกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทมีความสนใจที่จะเข้าไปซื้อหุ้นในส่วนดังกล่าว จากบริษัทปตท.แต่อยู่ระหว่างการเจรจาและเตรียมข้อมูล ซึ่งต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตามคาดว่าจะสามารถปิดการเจรจาว่าจะซื้อหรือไม่ภายในสิ้นปีนี้ นายฉลอง ติรไตรภูษิต ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทั่วไป บริษัทพีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) PTGเปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับข้อมูลเรื่องดังกล่าว ซึ่งเป็นของหน้าของฝ่ายบริหารระดับสูงเป็นผู้ตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม หากมีความคืบหน้าจะแจ้งไปยังตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัทบางจาก เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2557 ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยปรับขึ้นไปที่ระดับ 36.75 บาท รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ระบุว่า โครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทบางจาก ล่าสุด บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 27.22% กระทรวงการคลัง 9.98% บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 4.71% สเตรท สตรีท แบงก์ ยุโรป ลิมิเต็ด 3.16% เอไอเอ คอมพานี 2.63% กองทุนเปิด กรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล 2.61% สำนักงานประกันสังคม (2 กรณี) 1.93% ดอยช์ แบงก์เอจี สิงคโปร์ 1.82% เอชเอสบีซี (สิงคโปร์) นอมินี 1.50% และบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) 1.47% บล.บัวหลวง ระบุว่าแนวโน้มจากการที่บริษัทบางจากยังคงประมาณการปริมาณน้ำมันดิบเข้ากลั่นในปี 2557 ไว้ที่ 90-94 KBD คาดว่าปริมาณน้ำมันดิบเข้ากลั่นในไตรมาส 4/57 จะเพิ่มขึ้น 9%จากปีก่อนและ 13% ไตรมาส 2/57เป็น 110 KBD ส่งผลให้ปริมาณขายผ่านช่องทางการตลาดปรับตัวขึ้นเช่นกัน พร้อมกันนี้ ค่าการกลั่นตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหนุนจากช่วงไฮซีซันของอุปสงค์ในฤดูหนาว นอกจากนี้ยังมองว่าค่าการตลาดค้าปลีกก็จะปรับตัวขึ้นจากปีก่อน หนุนจากค่าการตลาดของลูกค้าอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้น ถึงแม้คาดว่ากำไรหลักน่าจะแข็งแกร่งในไตรมาส 4/57 แต่กำไรสุทธิกลับมีความเสี่ยงขาลงอย่างมีนัยสำคัญจากขาดทุนสต็อกน้ำมัน หากราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยอยู่ที่ 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล คาดการณ์เบื้องต้นว่าขาดทุนสต๊อกน้ำมันของบริษัทจะอยู่ที่ราวๆ 5 พันล้านบาท จึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2557 ลง 10% เป็น 4,653 ล้านบาทเพื่อสะท้อนกำไรพิเศษและขาดทุนสต๊อกน้ำมันที่บันทึกในไตรมาส 3/57 รวมถึงยังคงมีความกังวลต่อประเด็นแนวโน้มการขายหุ้นบางจาก โดยบริษัทปตท. และแผนการของบริษัทที่จะขยายไปยังธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมมากขึ้น รวมถึงความเสี่ยงต่อกำไรในปีนี้จากราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง ในขณะที่ค่าการกลั่นซึ่งมีแนวโน้มเป็นขาลงในปีหน้าก็จะเป็นปัจจัยจำกัด Tags : ปตท. • บางจาก • มหากิจศิริ • ซัสโก้ • ขายหุ้น • ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์