หุ้นใหญ่กำไร9เดือนอืด

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 14 พฤศจิกายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    บจ.ใหญ่กลุ่มปตท.-อินทัช โชว์กำไรงวด 9 เดือนโตไม่ถึง 10% "อินทัช" เตรียมโรดโชว์ต่างประเทศ หวังดึงสถาบันนอกเพิ่ม

    บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2557 กำไรเพิ่มอยู่ที่ 3.78 พันล้าน จากช่วงเดียวกันปีก่อนกำไรอยู่ที่ 3.38 พันล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนกำไรเพิ่มอยู่ที่ 1.11 หมื่นล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนกำไรอยู่ที่ 1.10 หมื่นล้านบาท รายได้รวมของกลุ่มอินทัชในไตรมาส 3/2557 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2557 และไตรมาส 3/2556 ในอัตรา 7% และ 6% ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายและการให้บริการ และส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย และงวด 9 เดือนของปี 2557 เพิ่มขึ้น 4% จากงวดปีก่อนเนื่องจากรายได้จากการขายและการให้บริการของธุรกิจดาวเทียมและธุรกิจในต่างประเทศเพิ่มขึ้นสุทธิกับ การลดลงของส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย และรายได้จากการขายและการให้บริการของธุรกิจสื่อและโฆษณา

    ด้านบริษัท ปตท. (PTT) รายงานว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/2557 กำไรลดลงอยู่ที่ 2.45 หมื่นลบ. จากช่วงเดียวกันปีก่อนกำไรอยู่ที่ 3.08 หมื่นล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือน กำไรเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 8.24 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.3% จาก 7.82 หมื่นล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยหลักมาจากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นของบริษัท ปตท. โดยเฉพาะจากหน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์โรงแยกก๊าซฯ เพิ่มสูงขึ้นตามราคาปิโตรเคมีอ้างอิง และเงินบาทที่อ่อนค่าลง ในขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทในเครือโดยส่วนใหญ่ปรับลดลง โดยเฉพาะบริษัทปตท.สผ. และบริษัทในกลุ่มปิโตรเคมีสายอะโรเมติกส์และกลุ่มธุรกิจการกลั่นจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้น และสเปรด มาร์จิน ของผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงตามสภาพตลาด

    นางสาวทมยันตี คงพูลศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักการลงทุนสัมพันธ์ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า บริษัทคาดรายได้ของบริษัทปีนี้จะเติบโตเกินเป้าที่ตั้งไว้ที่ 5-7% เมื่อต้นปีที่ผ่านมา หลังผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2557 รายได้เติบโต 15% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ด้านกำไรคาดว่าจะทำได้มากกว่าปีก่อนเช่นกัน หลังงวด 9 เดือนที่ผ่านมากำไรเติบโต 12% จากปีก่อน

    “ส่วนสำคัญที่ทำให้รายได้และกำไรของบริษัทในปีนี้เติบโตเกินเป้าที่คาดไว้ เป็นเพราะการเติบโตของบริษัท ไทยคม ซึ่งกำไรสุทธิงวด 9 เดือนที่ผ่านมา เติบโต 67% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หลังมีการปล่อยดาวเทียมไทยคม 6 และ 7 ขึ้นสู่วงโคจร เมื่อต้นปีและไตรมาส 3 ที่ผ่านมาตามลำดับ แต่ทั้งนี้กำไรกว่า 90% ของบริษัทยังคงมาจากบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส เป็นหลัก ส่วนไทยคมคิดเป็นสัดส่วนกำไรประมาณ 4% กว่า”

    สำหรับดาวเทียมไทยคม 7 นั้นจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้ แต่ยังไม่มีนัยสำคัญมากนัก ส่วนปีหน้าจะเริ่มรับรู้รายได้แบบเต็มปี ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานในปีหน้ายังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ เนื่องจากบริษัทต้องรอความชัดเจนของไตรมาสสุดท้ายของปี และคาดว่าจะสามารถเปิดเผยแผนธุรกิจอย่างเป็นทางการได้ในช่วงเดือน ก.พ. ปีหน้า

    นางสาวทมยันตี กล่าวต่อว่าปีหน้าบริษัทเตรียมเดินสายให้ข้อมูล (โรดโชว์) แก่นักลงทุนสถาบันในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง หลังปีนี้บริษัทเริ่มโรดโชว์ให้กับนักลงทุนหน้าใหม่ในประเทศญี่ปุ่นและมาเลเซีย

    ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทจัดการกองทุนรวม ที่มีความสนใจในบริษัทมากพอสมควร เพราะเป็นการลงทุนที่ตรงกับความต้องการ คือ ลงทุนระยะยาวและมีเงินปันผลที่น่าสนใจ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีอัตราเงินปันผลที่กว่า 5% ต่อปี แต่เบื้องต้นนักลงทุนที่ถือหุ้นของบริษัทส่วนใหญ่ยังคงเป็นสิงคโปร์และฮ่องกง

    ทั้งนี้ บริษัทคาดหวังว่าจะมีนักลงทุนสถาบันหน้าใหม่เข้ามาถือหุ้นเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีเม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้นจากการประกาศใช้มาตรการอัดฉีดเงินเข้าระบบ ซึ่งก่อนหน้านี้สัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศผ่านบริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ลดลงจาก 22.93% จากวันปิดสมุดทะเบียน 27 ส.ค. ปีก่อน เป็น 14.86% ณ วันปิดสมุดทะเบียน 27 ส.ค. ที่ผ่านมา

    “ปัจจุบันสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติลดลงไปมาก หลังเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ประกอบกับปัญหาทางการเมือง แต่เบื้องต้นคาดว่านักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาสนใจมากขึ้นหลังปัญหาคลี่คลายไป ซึ่งในอนาคตบริษัทจะเดินสายโรดโชว์ให้กับประเทศเหล่านี้ทุกปี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุน” นางสาวทมยันตี กล่าว

    ขณะที่ธุรกิจเงินร่วมลงทุน (เวนเจอร์ แคปปิตอล) คาดว่าสิ้นปีนี้จะได้ข้อสรุปเพิ่มอีก 1 ราย ซึ่งจะใช้งบลงทุนในส่วนที่ตั้งไว้ 200 ล้านบาทต่อปี

    จากปัจจุบันมีบริษัทที่ร่วมลงทุนแล้ว 3 ราย คือ บริษัท เมดิเทค โซลูชั่น จํากัด ถือหุ้น 30% บริษัท คอมพิวเตอร์โลจี จำกัด ถือหุ้น 25.01% และบริษัท อุ๊คบี จำกัด ถือหุ้น 22.26% ซึ่งบริษัทคาดหวังว่าในอนาคตบริษัทเหล่านี้จะมีมูลค่าเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากตัวอย่างของอุ๊คบี ซึ่งมีมูลค่าเติบโตขึ้น 6 เท่า หลังจากที่บริษัทเข้าไปลงทุน

    ด้านนายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. กล่าวว่าบริษัทเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่10,000 ล้านบาท และมีหุ้นกู้ที่สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติมไม่เกิน 2,000 ล้านบาท อายุ 6 ปี 11 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอน 15 พ.ย.2564 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00% ต่อปี เปิดเสนอขาย 2 ช่วง โดยช่วงที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 - 3 ธ.ค.2557 ให้สิทธิสำหรับผู้ถือหุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 14 ธ.ค. และช่วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 9, 11-12 ธ.ค.2557

    Tags : กำไร • บจ. • อินทัช • ปตท.

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้