หนุ่ม 'บอยAF3' ควง ผู้อำนวยการสร้างหนังเศียรสยอง แถลงปลด 'ภาม รังสี' ออกจากการเป็นผู้กำกับ หลังลวง นศ.สาว ทำอนาจาร บอกทำเสียชื่อ ลั่นค่ายไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ด้าน 'เอ วิทิต แลต' ออกมาปฏิเสธ ไม่ได้ทำอนาจาร แจง นศ.สาวยินยอมมาเองอ้างโดนจัดฉากขอโทษทำผิดหวัง หลังจากเมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัว ภาม รังสี ผู้กำกับภาพยนตร์ เศียรสยอง กับ เอ วิทิต แลต อดีตนักแสดงชื่อดัง ในข้อหาทำอนาจาร 5 น.ศ.สาว ม.ดัง ล่าสุด ที่ตึกแกรมมี่ ทางด้าน บอย สิทธิชัย หรือ บอย เอเอฟ 3 ผู้อำนวยการค่าย อนันตชัยฟิล์ม สร้างภาพยนตร์เรื่อง เศียรสยอง พร้อมกับผู้ร่วมทุน บริษัท ถุงเงิน ก็ออกมาตั้งโต๊ะแถลง ชี้แจงกับกรณีดังกล่าวว่า ไม่มีส่วนร่วมในการคัดเลือกนักแสดง และประกาศปลด ภาม รังสี ออกจากการเป็นผู้กำกับ นักแสดง และทุก ๆ ส่วน หลังมีข่าวฉาวลวงนักศึกษาร่วมเพศ เหตุที่ปลดเพราะได้รับผลกระทบจากกระแสข่าวในด้านลบ เผยที่ร่วมงานด้วยเพราะชอบไอเดียและแนวคิด ไม่รู้พฤติกรรมส่วนตัวของอีกฝ่าย รับหลังเกิดเรื่อง ภาม ได้เข้ามาคุยส่วนตัว แต่ไม่ได้เจาะลึกถึงข่าวที่เกิดขึ้น ยันบริษัทเป็นของตนคนเดียวไม่เกี่ยวกับ ภาม บอกเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่คาดฝัน ปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมาย ยันไม่ได้สร้างกระแส วอนเปิดใจและให้โอกาส บอยยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ส่วน เอ วิทิต ได้คุยกันบ้าง แต่อุบไม่พูดถึงเรื่องคดีความ แต่อาจลดบทบาทแต่ไม่ปลดออกจากภาพยนตร์ นอกจากนี้ ขนมจีน หนึ่งในนักแสดง ภายนตร์เรื่องดังกล่าว ถึงกับร้องไห้ บอกทำงานมาไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ไม่อึดอัดใจเลย วอนอย่าเอาเรื่องข่าวมาผูกโยงกับหนัง เพราะทุกคนตั้งใจทำงาน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริง การเลือกรับรักแสดงทุกอย่างมีระบบ ต่อมา เอ-วิทิต พร้อมทนาย ได้ออกมาแถลงข่าวว่า ตนขอปฏิเสธ ตนไม่ได้ล่อลวง น.ศ. ตามที่ถูกกล่าวหา เพราะตนคงไม่เอาหน้าที่การงานมาแลกกับเรื่องบ้า ๆ พวกนี้ ส่วนตัวมีครอบครัวอยู่แล้ว ตนไม่ได้เป็นคนนัดน้อง ๆ ไปที่ร้านอาหาร ทางคุณภามเป็นคนนัดไป เพื่อดูตัวสำหรับหนังเรื่องใหม่ เป็นแนวอีโรติก ซึ่งจะต้องมีฉากวาบหวิว ทางกลุ่มน้อง น.ศ. ก็โอเค ไม่ได้มีปัญหา หลังจากเสร็จจากร้านอาหารได้คุยกันว่าไปเที่ยวผับกันก่อน เพื่อทำความรู้จักกัน ส่วนเหตุการณ์ระหว่างการเดินทางเกิดอะไรขึ้นนั้น ขอเก็บไว้เป็นข้อมูลส่วนตัวก่อนเพื่อรักษารูปคดี นักแสดงหนุ่ม กล่าวต่อว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นไม่มีการบังคับขู่เข็ญแน่นอน ช่วงออกจากผับไปโรงแรมมีน้อง 2 คนไปด้วย นั่งคุยกันอยู่พักนึงถึงรายละเอียดหนัง ในห้องนั้นอยู่กัน 4 คน น้องก็แก้ผ้าทั้งหมดเพื่อลองเล่นตามบทที่ได้บอกไว้ ไม่ได้ลวนลาม แต่น้องจะลวนลามผมมากกว่า ไม่มีการเซ็กส์หมู่ แล้วไม่เห็นว่าน้องถือโทรศัพท์ส่งไลน์หาใครแต่อย่างใด อยู่ในห้องนั้นประมาณ 5 นาที สักพักมีคนมาเคาะประตูตอนนั้นใจไม่ดีแล้ว ส่วนที่รีบออกไปที่เกิดเหตุ เพราะไม่รู้ว่าทางคนที่มาเคาะมีอาวุธหรือเปล่า รปภ. โรงแรมบอกว่าให้ออกทางด้านหลัง ผมก็ขับรถออกมาเลย โดยแยกกับคุณภาม จากนั้นก็โทรคุยกัน" "ขับรถมาใกล้จะถึงชลบุรี ภาม โทรมาบอกว่าโดนขับรถไล่ล่า ผมให้ภามใจเย็นหา สน. ให้ได้ แต่ภามเลี้ยวผิดไปเข้าตลาดสด ทำให้ทางคนที่ไล่ล่าตามไปจนถึงตัว ผมเลยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าให้ตามไปที่ตลาดใหม่ เพราะคุณภามกำลังมีเรื่อง จากนั้นต้องไปลงบันทึกประจำวันสอบสวนที่ สน.แสนสุข ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ ทางฝั่ง น.ศ. ไปคุยกับทางตำรวจเหมือนให้ข้อมูล สุดท้ายตำรวจเดินมาหาผมแล้วยื่นกุญแจรถมาให้บอกว่าให้ผมกลับบ้าน เพราะยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาอะไร ดังนั้น ข่าวที่ออกมาบอกว่าโดนตำรวจรวบก็ไม่จริง ไม่ได้โดนรวบเลยครับ" นักแสดงหนุ่มเผยต่อว่า ในความคิดเห็นส่วนตัวเชื่อว่าถ้าแฟนเขาไม่มาเคาะประตู เรื่องจะเป็นอีกอย่างเลย แต่พอแฟนมาเคาะ เขาอาจจะต้องทำอะไรให้ดูเป็นการปกป้องตัวเองด้วยการโยนขี้มาว่าทางฝั่งตนลวนลาม อีกอย่างก็คิดว่าเป็นการจัดฉากหรือเปล่า แต่ทุกอย่างเหมือนถูกเขียนบทมาเลย ต่อข้อถามว่า กับข่าวที่เกิดขึ้นมีผลกระทบกับครอบครัวไหม เอ วิทิต กล่าวว่า เรื่องในครอบครัวตนเคลียร์ได้ โชคดีที่ได้กำลังใจจากภรรยาดีมาก อะไรที่เป็นความจริงให้พูดความจริง เพราะถ้าพูดอ้ำอึ้งจะไม่ชัดเจน ตนเป็นลูกผู้ชายพอ ถ้าทำอะไรผิดยินดีรับผิดชอบ สิ่งที่น้อง น.ศ. ออกมาพูดก็มีความจริงแต่พูดไม่หมด ตนจึงต้องมาเติมช่องว่างในส่วนที่น้องพูดไม่หมด เข้าใจได้หากสังคมจะมองตนไม่ดี แต่อยากให้เปิดใจฟังความจากฝั่งตนด้วย "ผมขอโทษแฟนละครที่รู้สึกไม่ดีที่ว่าผมมีครอบครัวแล้วยังมามีเรื่องแบบนี้ ที่สำคัญคือต้องขอโทษภรรยา ด้วยส่วนเรื่องโดนลดบทบาทในหนัง เศียรสยอง ก็ยินดีน้อมรับครับ"