หุ้นเอสวีไอร่วงรับข่าวไฟไหม้

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 13 พฤศจิกายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    หุ้นเอสวีไอร่วง 29.92% รับข่าวเกิดเหตุเพลิงไหม้ ยันคุมสถานการณ์ได้ แต่ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

    วานนี้ (12 พ.ย.) ตลาดหลักทรัพย์ได้ขึ้นเครื่องหมายหยุดพักการซื้อขายชั่วคราว (Halt) บริษัท เอสวีไอ (SVI) จากเหตุเพลิงไหม้โรงงานของบริษัทที่นิคมอุตสาหกรรมบางกระดี่ เช้าวันที่ 12 พ.ย.2557 แต่ทันทีที่ ตลาดหลักทรัพย์ได้ปลดเครื่องหมายหยุดพักการซื้อขายชั่วคราวในตอนบ่ายหลังจากที่บริษัทชี้แจงข้อเท็จจริง ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวลดลง โดยปิดการซื้อขายที่ 4.24 บาท ลดลง 1.81 บาท หรือ 29.92% มูลค่าการซื้อขาย 3,206 ล้านบาท

    นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการ บริษัท เอสวีไอ (SVI) กล่าวว่า เพลิงไหม้ดังกล่าวจากการเกิดปัญหาอัคคีภัยในสำนักงานใหญ่ ขณะนี้ บริษัทสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ และต้องใช้ระยะเวลาอีกระยะ

    นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า จากเหตุไฟไหม้โรงงานในนิคมฯบางกระดี่ ซึ่งเคยถูกน้ำท่วม ล่าสุดแม้จะควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่ยังต้องคอยฉีดน้ำเลี้ยงอยู่ ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ เพราะภายในโรงงานมีชิ้นส่วนที่เป็นเชื้อเพลิงค่อนข้างมาก และคาดว่าจะเสียหายค่อนข้างมาก เพราะมีหลังคาโรงงานได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ และพังถล่มลงมา ซึ่งโรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานหลักที่ใช้ในการผลิต และเป็นสำนักงานใหญ่ แต่มีประกันอัคคีภัยและประกันภัยกรณีธุรกิจหยุดชะงัก (Business Interruption Insurance-BI) ครอบคลุมอยู่ทั้งหมด

    นักวิเคราะห์กล่าวว่า ข่าวดังกล่าวเป็นลบต่อราคาหุ้นเอสวีไอ แม้บริษัทจะมีการทำประกันภัยครอบคลุม แต่ระยะสั้นจะกระทบต่อผลการดำเนินงานไปอย่างน้อย 2-3 ไตรมาส เพราะเป็นโรงงานหลักที่ใช้ในการผลิต แม้จะมีโรงงานสำรองที่แจ้งวัฒนะ แต่เครื่องจักรที่บางกะดีได้รับความเสียหาย ไม่สามารถย้ายมาผลิตที่แจ้งวัฒนะได้เหมือนตอนน้ำท่วม ในขณะที่การสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน

    ด้านนักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า เหตุเพลิงไหม้เกิดที่โรงงานเอสวีไอ ที่สวนอุตสาหกรรมบางกะดี ซึ่งเป็นโรงงานหลักโรงใหญ่ที่สุด กำลังการผลิต 300 ล้านดอลลาร์/ปี อย่างไรก็ตาม บริษัทมีโรงงานเอสวีไอ 2 ที่เพิ่งปรับปรุงเสร็จสามารถรับรองการผลิตได้ราว 200 ล้านดอลลาร์ต่อปี ช่วยลดผลกระทบให้ไม่รุนแรงเท่ากับปี 2554-2556 ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติน้ำท่วม แต่จะกระทบความเชื่อมั่นลูกค้า และมีความเสี่ยงสูญเสียลูกค้าได้

    ทั้งนี้ แนวโน้มไตรมาส 4/2557 และปี 2558 อาจไม่สดใส และดีลควบรวมกิจการอาจต้องชะงักจากเหตุสุดวิสัย เนื่องจากเหตุเพลิงไหม้เป็นสิ่งที่บริษัทไม่สามารถคาดการณ์ได้ แม้จะเชื่อว่าความเสียหายดังกล่าวจะทำให้บริษัทได้รับเงินชดเชยจากประกันทั้งสินทรัพย์ และการหยุดชะงักทางธุรกิจ แต่ต้องใช้เวลาในการเรียกร้อง เบื้องต้นต้องมีการจ่ายค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษในไตรมาส4/2557 และอาจต่อเนื่องถึงไตรมาส 1/2558 และรายได้จะหดตัวอย่างมีนัยสำคัญจนกว่าโรงงานจะปรับปรุงแล้วเสร็จ ทำให้ไตรมาส 4/2557 อาจขาดทุนหรือกำไรเพียงเล็กน้อยได้ และรายได้น่าจะกลับมาฟื้นตัวชัดเจนสู่ระดับปกติได้อีกครั้งในไตรมาส 3/2558 เป็นอย่างเร็ว

    "อาจกระทบการทำ M&A ให้ล่าช้าออกไปเนื่องจากต้องเตรียมเงินเพื่อสั่งซื้อเครื่องจักร และซ่อมแซมอุปกรณ์ที่ถูกเพลิงไหม้ในช่วงที่รอเงินประกัน"

    ฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการลง แนะนำขายทำกำไร และเปลี่ยนไปลงทุนในเคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) โดยปรับประมาณการรายได้ในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ ปี 2557 - 2558 ลง 10% และ 25% ตามลำดับ และปรับลดประมาณการอัตรากำไรขั้นเหลือ 10.9% และ 11.9% จาก 11.5% และ 12% และกระทบกำไร ทำให้ลดลง 18% และ 64% เป็น 696 ล้านบาท และ 686 ล้านบาทในปี 2557 - 2558 ตามลำดับ

    ทางด้านนางสุจินต์ วาสสนิท ผู้จัดการอาวุโส บริษัทสวนอุตสาหกรรมบางกะดี จำกัด กล่าวว่า เหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 29 ปี โดยระบบการป้องกันความปลอดภัยจากไฟไหม้นั้น สวนอุตสาหกรรมฯได้วางแผนและซักซ้อมการระงับเหตุทุกเดือนอยู่แล้ว แต่เนื่องจากช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นเวลาตี 4 ซึ่งเป็นช่วงการเปลี่ยนกะการทำงาน แม้จะเข้าไประงับเหตุ แต่ไฟได้ลุกลามไปยังไลน์การผลิตข้างเคียงอย่างรวดเร็วจึงต้องขอความร่วมมือกับโรงงานอื่นๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาควบคุมเพลิงไว้ได้ในเวลา 12.00 น.

    สำหรับความเสียหายของโรงงานเอสวีไอ ผู้ผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ประเมินว่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท จนอาจทำให้ต้องเลื่อนการส่งมอบสินค้าไปสักระยะ อย่างไรก็ตาม บริษัทดังกล่าวมีประกัน และมีโรงงานอีกแห่งซึ่งตั้งอยู่ที่แจ้งวัฒนะ สามารถเพิ่มกำลังการผลิตทดแทนได้

    “ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นเป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร และวัตถุไวไฟทำให้ไฟลุกลามรวดเร็ว แม้จะปฏิบัติตามขั้นตอนการระงับเหตุแล้วแต่ก็ยังต้องใช้เวลา"

    นางสุจินต์ ยังกล่าวต่อว่า บทเรียนที่ได้รับจากเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนี้ ทำให้ต้องเตรียมแผนป้องกันระงับเหตุวิกฤติให้ทันท่วงที โดยตั้งคณะทำงานขึ้นมาอีกหนึ่งชุด ทำหน้าที่ระงับเหตุการณ์วิกฤติ ขณะที่การฟื้นฟูผลกระทบขณะนี้ จะติดตั้งเครื่องวัดระดับมลพิษ เพื่อตรวจสอบปริมาณมลพิษที่เกิดขึ้น

    นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการคือ การสื่อสารให้นักลงทุนเข้าใจสถานการณ์ พร้อมนำเสนอข้อมูลแนวทางการป้องกันปัญหาให้รัดกุมเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและลูกค้าว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก

    Tags : วีรพันธ์ พูลเกษ • SVI • ไฟไหม้ • ราคาหุ้น

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้