นายกรัฐมนตรี พร้อมภริยา ร่วมพิธีเปิดประชุมอาเซียนอย่างเป็นทางการ ผู้นำพม่า แนะนำ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้นำใหม่ เข้าร่วมเป็นครั้งแรก พร้อมขอบคุณชาติอาเซียน เข้าใจสถานการณ์ในไทย ลุยขยายเสรษฐกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 25 ที่กรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมาร์ โดยมี นายเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีเมียนมาร์ รอให้การต้อนรับผู้นำประเทศต่างๆ ที่เดินทางมาถึงศูนย์การประชุม ก่อนที่ผู้นำทั้งหมดจะเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียนอย่างเป็นทางการ จากนั้นประธานาธิบดีเมียนมาร์ ในฐานะประธานอาเซียน ได้กล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุม เริ่มจากแนะนำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำใหม่ที่เพิ่งเข้าร่วมการประชุมอาเซียนเป็นครั้งแรก ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ได้กล่าวถึงการประชุมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นว่า เป็นการสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความพยายามของอาเซียน เพื่อย้ำถึงเจตนารมณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งอาเซียนจะเสริมสร้างความร่วมมือทั้งภายในและภายนอกภูมิภาคให้มากขึ้น เพื่อให้เป็นไปตามแผนโรดแมปประชาคมอาเซียน ทั้งนี้ อาเซียนจะเดินหน้ากำหนดวิสัยทัศน์ภายหลังปี 2558 หลังจากเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปีหน้า โดยหัวข้อหลักของการประชุมในปีนี้ คือ การก้าวไปข้างหน้าสู่ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวและประชาคมที่สงบสุขและเจริญรุ่งเรือง โดยย้ำถึงความร่วมมือในระดับต่อไปใน 4 ด้าน ความร่วมมือในการส่งเสริมวัฒนธรรมร่วมกัน, ส่งเสริมให้อาเซียนมีบทบาทและเป็นกลไกสำคัญในระดับภูมิภาคและเวทีโลก, ความร่วมมือเพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ลดความยากจน และส่งเสริมให้อาเซียนปรับตัวเพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน เพื่อให้อาเซียนสามารถการเผชิญหน้าต่อความท้าทายของโลก พลเอกประยุทธ์ ได้กล่าวขอบคุณประเทศสมาชิกอาเซียนที่เข้าใจต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา และยืนยันว่ายังคงให้ความสำคัญต่ออาเซียนและจะยึดมั่นต่อพันธกรณีต่างๆ ในการสร้างประชาคมอาเซียนในภูมิภาค เพื่อสร้างผลประโยชน์ร่วมกันในภูมิภาค ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ในปี 2558 อาเซียนควรให้ความสำคัญกับประเด็นเร่งด่วนที่ควรดำเนินการให้เกิดผล 4 ประการ คือ ส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อนำไปสู่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ซึ่งไทยให้ความสำคัญและสนันสนุนการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนในภูมิภาค เพื่อกระจายความเจริญ ลดช่องว่างการพัฒนา เพิ่มการจ้างงาน ขณะเดียวกันอาเซียนต้องมีความพร้อมในการรับมือกับปัญหาข้ามชาติมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาการค้ามนุษย์และอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมระบุว่า อาเซียนควรเร่งการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ให้แล้วเสร็จในปี 2558 ตามที่ได้เคยประกาศไว้ เพื่อช่วยขยายโอกาสทางการค้าการลงทุนของประเทศในภูมิภาค นอกจากนี้ ยังเห็นว่า อาเซียนต้องร่วมกันรับมือกับภัยพิบัติ เพื่อไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนในภูมิภาค