"อินโดรามา" เตรียมงบลงทุน 2 หมื่นล้านบาทสำหรับซื้อกิจการปีหน้า พร้อมเดินเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 7.5 ล้านตัน นายดีลิป กุมาร์ อากาวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) กล่าวว่า ในปี 2558 บริษัทเตรียมงบลงทุน 20,000 ล้านบาท หรือ 650 ล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อกิจการ และขยายกำลังการผลิตในส่วนของพีทีเอ (PTA) จำนวน 1 โรงงาน และอีกส่วนหนึ่งจะใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเดิมที่มีอยู่ การลงทุนในครั้งนี้จะเป็นการควบรวมกิจการ 2 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จตั้งแต่ปลายปีนี้ ถึงช่วงต้นปี 2558 ซึ่งจะเป็นการขยายในธุรกิจใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยไปมาก่อน และขยายธุรกิจในปัจจุบันที่ดำเนินการอยู่แล้ว แต่จะไปลงทุนในที่ที่ยังไม่เคยไป รวมถึงจะนำเงินไปใช้ขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 7.5 ล้านตันทั้งในโรงงานที่มีอยู่ปัจจุบันและโรงงานใหม่ที่อินโดนีเซีย จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีกำลังการผลิต 6.5 ล้านตัน นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมลงทุนในโครงการผลิตพาราไซลีน มูลค่าโครงการ 2 พันล้านดอลลาร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเซ็นสัญญาร่วมทุนกับบริษัทในรัฐอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 50% คาดว่าจะมีกำลังการผลิต 1.4 ล้านตัน เริ่มเดินเครื่องได้ในปี 2561 และโครงการผลิตเอทิลีนที่ประเทศสหรัฐ ที่ยังอยู่ระหว่างการเจรจา มูลค่าโครงการรวม 2.5 พันล้านดอลลาร์ บริษัทจะเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 49% กำลังการผลิต 1.5 ล้านตัน คาดว่าจะเดินเครื่องผลิตได้ในปี 2562 เขากล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2558 จะเติบโตเป็น 3 แสนล้านบาท จากปี 2557 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 2.6 แสนล้านบาท เนื่องจากคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวลดลงในปีหน้าส่งผลบวกต่อปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์ทั่วไปที่มีความจำเป็น เช่น พีอีที (PET) และเส้นใยเส้นด้าย รวมทั้งจะช่วยเพิ่มกำไรให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) นอกจากนั้น ยังเกิดผลดีต่อต้นทุนโดยรวมของบริษัทฯ จากการอ่อนตัวลงของค่าเงินยูโร ค่าเงินเปโซเม็กซิกัน ค่าเงินลีราตุรกี และรูเปี๊ยะห์อินโดนีเซีย รวมถึงจากการที่ปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐ จะปรับตัวลดลงจากการเกิดอุบัติเหตุของแหล่งผลิตน้ำมัน BP ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความต้องการใช้ในตลาดโลกเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้ บริษัทแจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/2557 มีกำไรสุทธิ 587.18 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 1,090.17 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกปีนี้มีกำไร 2,438.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 1,795.31 ล้านบาท นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ผลประกอบการบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส ในไตรมาส 23/2557 เป็นไปตามที่ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ 26% ทั้งนี้ กำไรสุทธิที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า มีผลมาจากการกำไรพิเศษที่ลดลงในไตรมาสดังกล่าว ส่วนกำไรหลักที่เติบโตเป็นผลจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากสินทรัพย์ PHP ซึ่งเป็นบริษัทย่อย และ TurkPET ที่ซื้อมาเมื่อไตรมาส 2/2557 ขณะที่ปัจจัยซึ่งส่งผลให้กำไรหลักหดตัวนั้นมาจากส่วนต่างราคาโดยรวมที่ลดลง โดยสัดส่วนกำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคาต่อตันลดลง 19% จากไตรมาสที่แล้ว เป็น 80 ดอลลาร์ต่อตัน ทั้งนี้ คาดว่ากำไรหลักของบริษัทจะคาดเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/2557 หนุนจากปริมาณขายที่เพิ่มมากขึ้นจากโรงงานใหม่ในประเทศอินโดนีเซีย, ส่วนแบ่งกำไรจากกิจการที่พึ่งเข้าซื้อ รวมถึงส่วนต่างราคาโดยรวมที่เพิ่มขึ้น ส่วนปริมาณขายและส่วนต่างราคาโดยรวมคาดจะทรงตัวจากไตรมาสที่แล้ว ส่งผลให้กำไรหลักน่าจะทรงตัวเช่นกัน นักวิเคราะห์กล่าวว่า มีแนวโน้มที่จะบันทึกค่าสินไหมทดแทนจากประกันในความขัดข้องทางธุรกิจซึ่งเกิดจากเหตุสุดวิสัยของซัพพลายเออร์พีทีเอ ในสหรัฐในไตรมาส 4/57 ในขณะเดียวกัน กำไรสุทธิในไตรมาส 4/2557 ก็ยังมีความเสี่ยงขาลงเนื่องจากการขาดทุนจากสินค้าคงคลังอีกด้วยสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป Tags : อินโดรามา เวนเจอร์ส • IVL • ดีลิป กุมาร์ อากาวาล • งบลงทุน