เศรษฐกิจ-การเมืองฉุดกำลังซื้อรากหญ้าต่างจังหวัดไตรมาสแรกหายวูบ เซเว่นฯ เผยครึ่งปีหลังเศรษฐกิจโลกอาจดีขึ้น ด้านสหพัฒน์รับสินค้าแฟชั่นยอดตก 10% นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น อีเลฟเว่น” เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 มีอัตราการเติบโตที่ทรงตัว และไม่เป็นไปตามเป้าหมายตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งในส่วนของเซเว่นฯ ก็ต้องยอมเราว่าได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่ชะลอตัวไปของผู้บริโภคไปบ้าง แต่นับว่าได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่ที่จำหน่ายจะเป็นอาหาร ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ก็ยังเติบโตได้ดี เนื่องจากมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกของปีก็ขยายไป 100 สาขาแล้วด้วยกัน โดยแผนการขยายสาขาในช่วงไตรมาสแรกของปีนับได้ว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ไม่มีการติดขัดจากสถานการณ์ทางการเมืองแต่อย่างใด สำหรับกำลังซื้อในต่างจังหวัดในตอนนี้ค่อนข้างเล็กน้อย สืบเนื่องมาจากราคาข้าว ยางพารา หรือพืชผลทางเกษตรกรตกต่ำทำให้ประชาชนมีรายได้ที่ลดลงไป โดยในช่วงนี้ประชาชนในต่างจังหวัดก็ได้ส่งบุตรเข้าศึกษาตามหัวเมืองใหญ่ซึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายที่สูง ในขณะที่รายได้น้อยลงจึงมีผลต่อกำลังซื้อให้ลดลงตามไปด้วยเช่นกัน โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี ปัจจัยการเมืองเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคน้อยลง แต่เหตุผลหลักน่าจะมาจากปัญหาของเศรษฐกิจโลกโดยรวมมากกว่าที่ยังคงมีติดขัดอยู่ในขณะนี้ ทั้งในส่วนของประเทศจีนที่เริ่มจะมีปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ และสถานการณ์วิกฤติของยูเคน ก็ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งโลก “เศรษฐกิจโลกเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลำดับ ทั้งในส่วนของยุโรปและสหรัฐอเมริกา แต่ยังไม่ได้ส่งผลดีมาถึงยังประเทศไทยในขณะนี้ โดยมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังสถานการณ์น่าจะเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหตุเพราะประเทศเหล่านั้นก็ไม่ได้ต้องการเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจยาวนานแต่อย่างใด คงต้องรีบแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน และเศรษฐกิจภายในประเทศไทยก็ขึ้นอยู่กับทิศทางของเศรษฐกิจโลกด้วยเช่นกัน” นายสุวิทย์ กล่าว ด้าน พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน ซึ่งศาลได้ตัดสินว่าขัดรัฐธรรมนูญนั้น มองว่าในขณะนี้ยังไม่ส่งสัญญาณต่อธุรกิจค้าปลีกว่าจะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด แต่ก็ต้องยอมรับว่าในอนาคตคงอาจได้รับผลกระทบบ้าง เนื่องจากธุรกิจค้าปลีกส่วนใหญ่ก็มาจากการเกิดและการขยายพื้นที่ของชุมชนตามแนวรถไฟฟ้า โดยหากโครงการเมกะโปรเจ็กต์ไม่เกิดขึ้น ก็จะทำให้ส่งผลต่อการขยายของธุรกิจค้าปลีกที่ต้องรอให้ชุมชนต่างๆ ถูกสร้างขึ้นมาก่อน ด้าน นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูลย์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุโภค-บริโภค เปิดเผยว่า กำลังซื้อในช่วงไตรมาส 1 ในพื้นที่ต่างจังหวัดมีการชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด ส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบมาจากปัญหาด้านเศรษฐกิจและความไม่สงบทางการเมือง ขณะเดียวกันร้านค้ารายย่อยที่ซื้อสินค้าจากร้านค้ารายใหญ่ไปจำหน่ายต่อ ก็ไม่มีเงินไปชำระค่าสินค้าให้กับร้านค้ารายใหญ่ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่ากำลังซื้อของภาคเกษตรกรหายไป ส่วนกำลังซื้อในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังคงไม่ดีอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกลุ่มสินค้าอุปโภคของเครือสหพัฒน์ ยังคงมียอดขายต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นสินค้ากลุ่มอาหาร ขณะที่ยอดขายกลุ่มสินค้าประเภทแฟชั่นและเครื่องสำอาง มียอดขายลดลงประทมาณ 10-20% โดยตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของไทยถือว่าต่ำสุดในรอบ 148 เดือน หรือที่ 6.9%. ที่มา : http://www.thaipost.net/