เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ (กปปส.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จ่อเรียกบุคคลมารายงานตัวรอบ 2 เพื่อสกั้นกั้นคลื่นใต้น้ำว่า เท่าที่ทราบขณะนี้ แกนนำของกปปส.ยังไม่มีใครถูกเชิญไปรอบ 2 ซึ่งตนก็คุยกับ นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ น.ส.จิตตภัสร์ กฤษดากร อยู่ตลอดก็ไม่เห็นว่าทั้ง 2 คน ถูกเรียกไปรายงานตัว อีกทั้งแกนนำทุกคนก็อยู่ในที่ตั้งใช้ชีวิตภายใต้กฏกติกาของคสช. อย่างไรก็ตามหาก คสช.จะเชิญแกนนำไปรายงานตัวอีกครั้ง ทางเราก็ไม่ขัดข้อง ส่วนที่มองว่า นายถาวร เสนเนียม แกนนำกปปส.ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องของการถอดถอน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฏร นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา นั้นทำให้ คสช.อาจมองว่าเป็นการปลุกระดม ตนมองว่า อาจเป็นความเข้าใจผิดซึ่งนายถาวรก็ออกมาแถลงข่าวชี้แจงเรื่องดังกล่าวแล้ว นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า ยืนยัน กปปส.ยังอยู่ในที่ตั้งไม่มีความเคลื่อนไหวหรือปลุกระดมมวลชนใดๆทั้งสิ้น แกนนำทุกคนก็อยู่ในพื้นที่ของตัวเอง ไม่มีการไปยุยงมวลชน เดินขบวนหรือเคลื่อนไหวในแนวทางอื่นๆ เรายังอยู่ในกติกาและเงื่อนไขของ คสช. หากกปปส.จะเคลื่อนไหวก็จะมุ่งเน้นไปที่กระบวนการปฏิรูปประเทศ ซึ่งเป็นเป้าหมายใหญ่ของกปปส. ที่อาจจะมีการแสดงความเห็นวิพากษณ์วิจารณ์บ้าง แต่ กปปส.จะไม่ไปขัดขวางแนวทางการปฏิรูป หรือสร้างปัญหาให้คสช.และรัฐบาล เพราะกปปส.ต้องการให้เดินหน้าต่อไม่อยากให้สิ่งที่ทำมานั้นเกิดการสูญเปล่า แต่หากมีความเคลื่อนไหวจากกลุ่มการเมืองที่จะทำให้การปฏิรูปประเทศสะดุด เชื่อว่า ทางคสช.ก็ต้องเชิญไปพูดคุย เพื่อป้องปราม ทั้งนี้กปปส.ยังเชื่อมั่นแนวทางของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ในการเดินหน้าบริหารประเทศ