นายกรัฐมนตรี ปาฐกถา “ขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความก้าวหน้าไทย-ญี่ปุ่น” ยัน จำเป็นต้องปฏิรูป นำพาประเทศสู่ประชาธิปไตย เร่งเพิ่มศักยภาพ ศก. เน้น โครงสร้างพื้นฐาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาในงานเลี้ยงรับรอง หัวข้อ “ขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความก้าวหน้า ไทย-ญี่ปุ่น” (Driving the Business Forward, Thai-Japan) จัดโดย หอการค้าญี่ปุ่น ว่า ไทยกับญี่ปุ่น มีความสัมพันธ์มายาวนานกว่า 100 ปี และเมื่อครั้งที่ไทยประสบกับภัยพิบัติสึนามิ ในปี พ.ศ. 2547 ญี่ปุ่น ก็ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศไทย ขณะเดียวกัน เมื่อญี่ปุ่นประสบสึนามิ ในปี พ.ศ. 2554 ไทยก็ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ญี่ปุ่น เช่นกัน ทั้งนี้ ยังกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงในเดือนพฤษภาคม เป็นต้นมาว่า อาจยังมีความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองของไทย แต่ยืนยันว่าจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาการเมือง และปฏิรูปประเทศ ให้ก้าวพ้นจากสถานการณ์ชะงักงันที่ประเทศได้เผชิญมา โดยไม่มีทางออก แต่ขอให้เข้าใจสถานการณ์ของไทย และสิ่งที่กำลังดำเนินการอยู่ เพื่อนำพาประเทศกลับสู่ระบบประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง ยั่งยืน และเป็นที่ยอมรับของประชาชนไทย และประชาคมโลก นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ในการปฏิรูปทางด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลจะดำเนินนโยบายเพื่อเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยครอบคลุมในเรื่องต่างๆ อาทิ ด้านพลังงานเพื่อให้มีใช้อย่างพอเพียง การปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐาน การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การปรับโครงสร้างภาคเกษตรกรรม การเพิ่มขีดความสามารถของ SMEs และการส่งเสริมภาคเศรษฐกิจดิจิตอล หรือการนำเรื่องเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาพัฒนาเศรษฐกิจมากขึ้น เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านโครงสร้างพื้นฐานนั้น รัฐบาลมีแผนจะพัฒนาระบบคมนาคมและการขนส่งของประเทศ รวมถึงการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ด้านการขนส่งสินค้ามากขึ้น สำหรับการลงทุนนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า นโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน ยังยึดแนวนโยบายเศรษฐกิจเสรี ยินดีต้อนรับการลงทุนจากต่างประเทศ โดยรัฐบาลจะมุ่งมั่นปรับปรุงกฎระเบียบ และเสริมสร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนให้เหมาะสม พร้อมทั้งการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่อาจมี