IGN สัมภาษณ์ Dario Casali ผู้ออกแบบเลเวลของเกม Half-Life: Alyx ซึ่งเขาเป็นพนักงานของ Valve มาตั้งแต่ปี 1996 ทำให้ได้คำตอบตรงๆ เป็นครั้งแรกว่า Half-Life 2 Episode Three หายไปไหน Casali ย้อนความว่า Valve ใช้เวลาพัฒนา Half-Life 2 นานถึง 6 ปี เพราะพัฒนาเอนจิน Source ควบคู่ไปพร้อมกับตัวเกมด้วย เมื่อ Half-Life 2 วางขายแล้ว และเอนจิน Source ก็นิ่งแล้ว ทำให้ Valve เลือกทำเกมเป็นตอนๆ (episodic) ที่มีเนื้อหาน้อยลง ออกได้บ่อยกว่าเดิม Half-Life 2 Episode One ใช้เวลาพัฒนาเพียง 1 ปีได้ตามแผนที่วางไว้ แต่พอขึ้น Episode Two แนวทางที่ตั้งใจไว้ก็เพี้ยนไป เพราะทีมงานติดนิสัยเพิ่มสิ่งต่างๆ ลงไปในเกมมากขึ้น เพื่อให้เกมดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ทำให้ Episode Two ใช้เวลานานขึ้นเป็น 2 ปี หลังจบ Episode Two ทีมงานจึงมาทบทวนแนวทางพัฒนาเกมกันใหม่ ระหว่างนั้นก็มีปัจจัยแทรกเข้ามาอีก 2 เรื่อง เรื่องแรกคือ ชื่อเสียงของเกม Half-Life เองทำไว้เยอะ และสร้างความคาดหวังว่าต้องเกิดผลกระทบให้วงการเกมอย่างสูง พาวงการเกมเดินไปข้างหน้า (next big impact) แต่ Valve กลับไม่สามารถค้นหาเจอว่าควรทำอะไร บริษัทมีโครงการภายในเกี่ยวกับ Half-Life เยอะ แต่ก็ไม่สามารถออกมาสู่สาธารณะได้ เพราะรู้สึกว่าไม่ดีพอ เรื่องที่สองคือ ตอนนั้น Valve เริ่มพัฒนาเอนจิน Source 2 พอดี (เริ่มใช้ครั้งแรกใน Dota 2) และจากบทเรียนในอดีต ทำให้ Valve ไม่อยากพัฒนาเกม Half-Life ใหม่จนกว่า Source 2 จะเสร็จ (Source 2 เริ่มโครงการปี 2007 เสร็จจริงปี 2014, Half-Life: Alyx ที่ใช้ Source 2 เริ่มพัฒนาปี 2016 เสร็จปี 2020) Casali บอกว่าเทคโนโลยี VR อาจเป็น next big thing ที่ Valve กำลังมองหาอยู่ เมื่อบวกกับเอนจิน Source 2 ที่ทำเสร็จแล้ว ทำให้ Alyx ควรค่าแก่การเป็น Half-Life ภาคใหม่ได้อย่างสมศักดิ์ศรี (IGN ให้คะแนนรีวิวภาค Alyx ที่ 10 คะแนนเต็ม) Casali ยังหวังว่า Alyx จะเป็นจุดเปลี่ยนของซีรีส์ Half-Life ที่ทำให้เราไม่ต้องรอกันนานอีกต่อไป ที่มา - IGN Topics: Half-LifeGamesValve