ตอบโจทย์ Compliance กฎหมายข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) อย่างรวดเร็วด้วย Microsoft 365

หัวข้อกระทู้ ใน 'เทคโนโลยี' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 24 มีนาคม 2020.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    ในยุค "data is the new oil” ข้อมูลลูกค้ากลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ การเก็บข้อมูลลูกค้ากลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในขณะที่ลูกค้าเองก็มีความตื่นตัวเรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

    ในปีที่ผ่านมา มีกฎหมายที่ผ่านการพิจารณาโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คือ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (Personal Data Protection Act หรือ PDPA) ซึ่งพุ่งเป้าไปที่การเก็บและรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่องค์กรนำมาเก็บไว้ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 นี้

    ปัญหาคือประเทศไทยไม่มีเคยมีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลลักษณะนี้มาก่อน องค์กรต่าง ๆ ควรปรับตัวเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ได้อย่างไร บทความนี้มีคำตอบให้

    [​IMG]

    กฎหมาย PDPA ของไทยที่ถอดแบบมาจาก GDPR ของยุโรป


    ที่ผ่านมา องค์กรมีกรอบคิดด้านการเก็บข้อมูลลูกค้าว่า แค่แจ้งเตือนให้ทราบและขอความยินยอม (notice and consent) จากลูกค้าก็เพียงพอแล้ว เราทุกคนย่อมเคยเห็นเอกสาร "เงื่อนไขและข้อตกลงการใช้งาน" (terms and condition) ที่ยาวจนเรามักจะเลื่อนผ่าน ๆ แล้วกดยอมรับครั้งเดียวจบ และในบางครั้ง หากกดไม่ยอมรับ ก็จะไม่สามารถใช้บริการนั้นได้เลย

    แต่การมาถึงของ GDPR (General Data Protection Regulation) กรอบกฎหมายด้านการคุ้มครองข้อมูลของสหภาพยุโรป ได้เปลี่ยนวิธีคิดดังกล่าวไปอย่างมาก เพราะลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น (consumer empowerment) มีสิทธิปฏิเสธการให้ข้อมูลแต่ยังสามารถรับบริการได้อยู่ อีกทั้งบีบให้องค์กรที่เก็บข้อมูลมีความรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น (company accountability) ทั้งการเก็บรักษาข้อมูล การใช้งาน ไปจนถึงการชดเชยกรณีที่ทำข้อมูลรั่วไหล ผลของ GDPR ทำให้หลายประเทศเริ่มพิจารณาหรือบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลฉบับใหม่ที่ถอดแบบคิดมาจาก GDPR

    [​IMG]

    สำหรับกรณีของประเทศไทย พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) ก็ถูกเขียนขึ้นมาด้วยวิธีคิดที่ถอดแบบออกมาจาก GDPR โครงหลักเหมือนกัน แค่แตกต่างกันไปในรายละเอียดเท่านั้น

    PDPA มีใจความสำคัญดังนี้

    • การเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้หรือเปิดเผย เจ้าของข้อมูลต้องยินยอมก่อนเสมอ และต้องเก็บจากเจ้าของข้อมูลโดยตรงเท่านั้น
    • กระบวนการขอความยินยอมต้องแยกออกจากส่วนข้อความอื่นอย่างชัดเจน อ่านเข้าใจง่าย เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการแอบวางข้อความเอาไว้เล็ก ๆ และแอบอ้าง
    • ต้องแจ้งประเภทข้อมูลที่เก็บ ระยะเวลาการเก็บข้อมูล และวัตถุประสงค์การเก็บ ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลให้ชัดเจน
    • ต้องแจ้งสิทธิของเจ้าของข้อมูล อาทิ
    • สิทธิในการขอถอนการยินยอมให้ข้อมูล
    • สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บ
    • สิทธิในการขอลบหรือทำลายข้อมูล
    • สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
    • สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูล
    • องค์กรที่เก็บข้อมูลต้องรักษาข้อมูลเป็นความลับ มีการวางระบบและทีมงานในการดูแลข้อมูลให้ปลอดภัยที่สุด
    • การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศหรือประเทศปลายทางที่รับข้อมูล จะต้องมีมาตรฐานการป้องกันและคุ้มครองข้อมูลที่เพียงพอ ยกเว้นเป็นการโอนที่เป็นไปตามกฎหมาย ตามสัญญาหรือได้รับการยินยอมจากเจ้าของข้อมูลแล้ว
    • องค์กรที่ไม่ปฏิบัติตามมีความผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญาและทางปกครอง

    [​IMG]

    ตอบโจทย์ข้อกฎหมาย ด้วย Microsoft 365 โซลูชัน


    PDPA มีผลบังคับใช้กับองค์กรทุกองค์กรที่เก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในราชอาณาจักรไทย เพื่อขายสินค้าหรือบริการให้กับเจ้าของข้อมูล (ตามมาตรา 5 ในกฎหมาย) ดังนั้นองค์กรจึงต้องเริ่มวางแผน ทั้งในด้านบุคลากร เช่น แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) ตามมาตรา 41 และ 42 รวมไปถึงจัดทำกระบวนการต่างๆ เช่น จัดทำขั้นตอนในการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (consent management process) และเครื่องมือหรือเทคโนโลยีด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลมาใช้ เพื่อการันตีเรื่อง compliance ก่อนกฎหมายจะมีผลบังคับใช้ในอีกเพียง 2 เดือนข้างหน้านี้เท่านั้น

    และเมื่อองค์กรได้ทำการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล Microsoft 365 โซลูชัน ก็มีเทคโนโลยีที่องค์กรสามารถนำไปใช้ในการดูแล รักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล รวมไปถึงเครื่องมือที่จะช่วยรองรับกระบวนการการร้องขอข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA อีกด้วย

    [​IMG]

    ไมโครซอฟท์เองในฐานะบริษัทระดับโลก ก็จำเป็นต้องปฏิบัติตาม GDPR เช่นกัน ทำให้โซลูชันของไมโครซอฟท์เองอย่าง Microsoft 365 รองรับ GDPR มาตั้งแต่แรก เมื่อ PDPA มีความใกล้เคียงกับ GDPR มาก การปรับ Microsoft 365 ให้เข้ากันได้กับ PDPA จึงทำได้แทบจะทันที

    จากผลสำรวจของทางไมโครซอฟท์ได้ระบุว่า การเปลี่ยนมาใช้งาน Microsoft 365 จะช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA ไปแล้วถึงประมาณ 70% โดยที่โซลูชัน Microsoft 365 จะเข้ามาช่วยเหลือใน 7 ขั้นตอนหลักที่องค์กรจำเป็นต้องคำนึงถึง เพื่อปฏิบัติตามกฏหมาย PDPA

    1. การค้นหาข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกจัดเก็บในไฟล์เอกสารต่างๆ ไม่ว่าจะอยู่ใน on-premise, Office 365 หรือ Cloud อื่นๆ

    ด้วยเครื่องมือที่หลากหลายบนโซลูชัน Microsoft 365 ไม่ว่าจะเป็น Azure Information Protection, Office 365 Advanced eDiscovery ที่ช่วยให้องค์กรสามารถค้นหาไฟล์เอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลได้ในทันที ไม่ว่าไฟล์เอกสารนั้นๆ จะถูกจัดเก็บไว้ที่ on-premise server, Office 365 หรือ Cloud Services อื่นๆ รวมถึงสามารถรู้ถึงรายละเอียดของประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่มีอยู่ในไฟล์เอกสารนั้นๆ ด้วย

    [​IMG]

    2. การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลบนไฟล์เอกสารต่างๆ เมื่อผู้ใช้เข้าถึงไฟล์จากอุปกรณ์ หรือสถานที่ต่างๆ

    ในปัจจุบัน หลายๆ องค์กรเริ่มให้ความสำคัญกับนโยบายการทำงานนอกสถานที่ (remote work) หรือการทำงานจากที่บ้าน (work from home) ทำให้หลายๆ องค์กรมีความจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงไฟล์เอกสารต่างๆ รวมถึงการป้องกันการรั่วไหลของไฟล์เอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคล
    ด้วยเครืองมือ Azure Active Directory Premium สามารถช่วยให้องค์กรกำหนดเงื่อนไขที่จะอนุญาตให้ผู้ใช้เข้าถึงไฟล์เอกสาร (Conditional Access) เพื่อรองรับสภาวะแวดล้อมที่หลากหลายได้ อาทิเช่น

    • ผู้ใช้ที่ต้องการเข้าถึงไฟล์เอกสาร โดยเป็นการทำงานนอกสถานที่ จำเป็นต้องให้ผู้ใช้งานยืนยันตัวตนเพิ่มเติม โดยส่งสัญญาณไปที่โทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อให้ยืนยันตัวตน หรืออาจจะโทรเข้าไปให้กด PIN (multi-factor authentication)
    • ผู้ใช้ที่ใช้อุปกรณ์สื่อสารส่วนบุคคล (personal mobile phone/tablet) เพื่อเข้าถึงไฟล์เอกสาร จำเป็นต้องให้ผู้ใช้งานยืนยันตัวตนเพิ่มเติมผ่าน Multi-factor authentication และยอมรับใน “Terms of use” ในการใช้ไฟล์เอกสารนั้นๆ

    [​IMG]

    3. การกำหนดสิทธิในการเข้าถึงไฟล์เอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคล

    เพื่อช่วยปกป้องไฟล์เอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องปกป้อง และกำหนดสิทธิการเข้าถึง Azure Information Protection เป็นเครื่องมือบนโซลูชัน Microsoft 365 ที่จะ จะช่วยแบ่งแยกประเภทของไฟล์เอกสาร (classify) พร้อมติดป้าย (label) ให้ว่าเป็นเอกสารทั่วไป เอกสารความลับเฉพาะ หรือข้อมูลอ่อนไหวของลูกค้า (sensitive data) องค์กรสามารถกำหนดนโยบายรักษาความปลอดภัย (policy) ของไฟล์ในแต่ละประเภท label ว่าสามารถเปิดหรือแชร์ไฟล์ที่ไหนได้บ้าง พร้อมทั้งเข้ารหัสข้อมูล (encryption) โดย policy และ label เหล่านี้จะติดกับเอกสารไปทุกที่ไม่ว่าจะถูกส่งหรือนำไปเปิดที่ไหน

    [​IMG]

    4. ความสามารถในการตรวจสอบว่าไฟล์เอกสารได้ถูกจัดเก็บไว้ที่ใด และสามารถเรียกคืนสิทธิการเข้าถึงได้ในทุกเวลาที่ต้องการ

    ไฟล์เอกสารที่ได้ถูกแบ่งประเภท (classify) และติดป้าย (label) ไว้แล้ว หากมีการแชร์ออกไปให้กับผู้ใช้งานอื่นๆ เราสามารถใช้ Azure Information Protection ในการ Monitor ดูว่า เอกสารถูกแชร์ไปให้ผู้ใช้งานคนไหน หรือ location ของไฟล์ที่ถูกแชร์ออกไปนอกองค์กร นอกจากนี้ยังสามารถที่จะเรียกคืนสิทธิ์ของการใช้งานไฟล์นั้นได้อีกด้วย

    [​IMG]

    5. ตอบสนองได้อย่างทันท่วงที ต่อเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหล รวมไปถึงมีระบบการป้องกันความเสี่ยงด้าน Cybersecurity

    เพื่อช่วยในการตรวจสอบไฟล์ที่สำคัญว่ามีการรั่วไหลออกไปจากระบบหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นทาง email, พื้นที่ storage ส่วนตัว และพื้นที่ส่วนกลาง เทคโนโลยี Data Loss Prevention บน Microsoft 365 จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการกำหนดนโยบายในเรื่องปลอดภัย หรือจัดทำข้อแนะนำเวลาที่ไฟล์สำคัญเหล่านี้จะถูกแชร์ หรือส่งออกไป โดยเครื่องมือจะช่วยทำการตรวจไฟล์ที่สำคัญเหล่านี้ว่ามีการส่งออกไปนอกระบบขององค์กรหรือไม่ หากมีการส่งไฟล์ออกไประบบจะทำการแจ้งเตือนผู้ดูแลให้ทราบ

    ในเรื่องของการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์เป็นสิ่งที่ทุกๆ องค์กรควรมีเครื่องมือในการดูแลป้องกันและตรวจสอบความผิดปกติในระบบได้ Microsoft 365 Advanced Threat Protection จึงเป็นเครื่องมือที่จะตรวจสอบภัยคุกคามที่เข้ามาในรูปแบบต่างๆ เช่น Microsoft Defender Advanced Threat Protection จะช่วยตรวจสอบความผิดปกติของอุปกรณ์ PC, Notebook ที่ผู้ใช้งานทำงานอยู่

    [​IMG]

    6. การตรวจสอบอย่างต่อเนื่องเพื่อให้องค์กรสามารถปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA

    หนึ่งในพระเอกของ Microsoft 365 ซึ่งได้แก่ เครื่องมือ Compliance Manager ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถตรวจสอบว่าตัวเองทำตามกฎระเบียบ (compliance) มากน้อยแค่ไหน มีส่วนไหนบ้างที่ต้องปรับปรุง โดยจะแสดงผลออกมาเป็นคะแนน พร้อมมีคำแนะนำและขั้นตอนต่าง ๆ ในส่วนที่ต้องปรับปรุงให้ด้วย เฟรมเวิร์คที่มีให้ก็ค่อนข้างครอบคลุมการใช้งานในไทย อาทิ เช่น GDPR เป็นต้น

    [​IMG]

    7. ตอบสนองกับการเรียกคืนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า (Data Subject Requests)

    จาก พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ข้อกำหนดหนึ่งที่สำคัญคือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธ์ที่จะขอดูข้อมูลของตนได้ ดังนั้นบริษัทจะต้องมีกระบวนการ และมีเครื่องมือที่รองรับความต้องการนี้ได้ Microsoft 365 มีฟังก์ชั่น Data Subject Request ที่จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือให้องค์กรค้นหาไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ

    [​IMG]

    สำหรับองค์กรที่สนใจ Microsoft 365 เพื่อการปรับตัวและปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA สามารถพูดคุยกับทางบริษัท ไมโครซอฟท์ ผ่านช่องทาง https://aka.ms/ContactMSFTTH

    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.microsoft.com/th-th/trust-center/privacy/gdpr-overview

    [​IMG]

    Topics: MicrosoftMicrosoft 365EnterpriseGDPR
     

แบ่งปันหน้านี้