พรรคเพื่อไทย 6 พ.ย.-ทนายความ "ยิ่งลักษณ์" วอนนักวิชการทีดีอาร์ไอหยุดชี้นำสังคมในคดีโครงการรับจำนำข้าว ควรให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ตั้งข้อสังเกตมีวาระซ่อนเร้นหรือไม่ เปิดเผยข้อมูลขณะที่กรรมการร่วมป.ป.ช.-อัยการสูงสุดจะประชุมพรุ่งนี้ นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณทีดีอาร์ไอระบุว่า มีหลักฐานทุจริตโครงการรับจำนำข้าวปี 2554-2556 ถึง 1.1 แสนล้านบาท ตั้งแต่ขั้นตอนการระบายข้าวถึง 7.5 หมื่นล้านบาท ว่า ในฐานะทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่รับผิดชอบคดีดังกล่าว ขอตั้งข้อสังเกตว่านายนิพนธ์มีวาระซ่อนเร้น การนำตัวเลขดังกล่าวมาแถลงและชี้นำในช่วงเวลาที่คณะกรรมการร่วมอัยการสูงสุด และคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) จะประชุมในวันพรุ่งนี้ (7 พ.ย.) นายนรวิชญ์ กล่าวว่า นายนิพนธ์ยังมีเจตนาจะชี้นำเพื่อให้สังคมกดดันคณะกรรมการร่วมอัยการสูงสุด และ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่สมควร รวมทั้งนายนิพนธ์โดยสถานะเป็นพยานในคดีโครงการรับจำนำข้าว แต่ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติครั้งที่ 5/2552 เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2552 อีกทั้ง นายนิพนธ์เคยไปช่วยรัฐบาลสมัยนั้นทำโครงการช่วยเหลือชาวนา ซึ่งตรงข้ามกับโครงการรับจำนำข้าว "หากพิจารณาตัวเลขที่นำมาเปิดเผย จะเห็นได้ว่ามีข้อโต้แย้งและผิดพลาดเกี่ยวกับตัวเลขของเจ้าหน้าที่รัฐอยู่หลายเรื่อง เช่น เรื่องค่าใช้จ่ายในโครงการ ตลอดจนหลักฐานที่อ้างว่าทุจริต ปราศจากหลักฐาน เป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ ซึ่งข้อเท็จจริงปัจจุบันยังไม่ปรากฏว่าดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รายใด ผมในฐานะทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอวอนให้นายนิพนธ์ยุติการเคลื่อนไหวและชี้นำสังคมในช่วงที่จะมีการพิจารณาคดีต่อลูกความของผม ควรปล่อยให้คดีเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมมากกว่าการชี้นำทางสังคมเช่นนี้" นายนรวิชญ์ กล่าว