ป๋าเทพ ตกอับ! ขายบ้านใช้หนี้ แฟนคลับเปิดธุรกิจช่วย

หัวข้อกระทู้ ใน 'แวดวงบันเทิง' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 6 พฤศจิกายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    [​IMG]

    หลังจากล้มลุกคลุกคลานกับการทำธุรกิจส่วนตัวจนไม่ประสบความสำเร็จมาอย่างนับไม่ถ้วน อีกทั้งหนี้สินที่ประดังเข้ามาในช่วงชีวิตบั่นปลาย จนถึงขั้นเคยมีข่าวเม้าท์ออกมาว่าตลกหนุ่มรุ่นใหญ่ "เทพ โพธิ์งาม" เตรียมหันหลังให้วงการแล้ว แต่คนอย่างป๋าเทพหรือจะยอมแพ้ต่อโชคชะตาชีวิต เพราะก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้ออกมาให้สัมภาษณ์ไปอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่มีทางหันหลังให้วงการที่รักเด็ดขาด อาจมีบ้างที่เบื่อๆอยากหาอย่างอื่นทำเพิ่ม

    และล่าสุดป๋าเทพก็ได้เชิญสื่อมวลชนให้ไปงานเปิดร้านอาหาร หมูกระทะขั้นเทพ ย่านซ.ลาดพร้าว101 แยก39 ที่เหมือนเป็นการการันตีว่าป๋าเทพยังไม่ยอมแพ้ ขอต่อสู้และดิ้นรนเพื่อชีวิตและครอบครัวอีกครั้ง โดยครั้งนี้เจ้าตัวได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้ยอมขายบ้านที่ศาลายาเพื่อลดหนี้สินบางส่วนลงแล้ว ด้านเรื่องของร้านหมูกระทะที่ทำนี้ ป๋าเทพบอกไม่มีเงินทุนที่จะลง แต่ฝ่ายหุ้นส่วนติดตามผลงานและชื่นชอบเป็นการส่วนตัว เลยได้ให้ป๋าเทพมาช่วยลงแรงดูแลจัดการร้านนี้เหมือนหุ้นส่วนอีกคน

    เป็นมาอย่างไรกับการมาทำธุรกิจชิ้นนี้ ?
    "เราก็ไม่คิดหรอกว่าจะได้เจอคนนี้เข้า คนที่มาชวนเราทำ ป๋าก็ไม่ได้อะไร พอเจอกันนิดหน่อยเขาก็ชวน เราเลยลองดูบ้างซะที ก็ดีเหมือนกัน เพราะเราก็เบื่อหน่ายทางวงการนี้มามากแล้วไง อยากจะเจอทางใหม่ๆ ก็มาได้เจอเลยขอลองดู อีกอย่างตรงนี้เราก็ไม่ได้ลงทุนอะไรมากมายครับ เป็นทุนของเขา เราเพียงแต่ให้เขาเอาภาพเรามาใช้ เขาก็ให้เราเป็นหุ้นส่วนนั้นแหละ"

    ตรงนี้เรามีส่วนช่วยอะไรเขาบ้าง ?
    "ก็ช่วยในทางบันเทิงอะไรพวกนี้ คอยจัดการดูแลทั้งหมด ช่วยๆกัน"

    ส่วนตัวได้ใช้เงินลงทุนครั้งนี้บ้างไหม ?
    "ป๋าไม่ได้ไปลงหรอก เอาเงินที่ไหนไปลง ก็นี้แหละเอาชื่อเสียงเรามา และมาเปิดเป็นร้านอย่างนี้เข้า มีหุ้นกันแค่2คนเอง ระหว่างเขากับป๋าเอง"

    ทำไมเขาถึงตัดสินใจให้เราเป็นหุ้นส่วน ทั้งๆที่ไม่ได้ลงเงิน ?
    "ไม่รู้ เขาก็บอกดูป๋ามานานก็ชอบอะไรแบบนี้ พอทำตรงนี้เขาก็มาปรึกษา เราก็ว่าดีนะมันเป็นทางใหม่ของเรา เพราะเราไม่เคยมาทางนี้ ก็มาลองดู ไม่ได้เสียหายอะไร"

    รู้จักกับเขาได้อย่างไร ?
    "รู้จักโดยบังเอิญเลย ไปเจอกันที่จอดรถ ก็คุยๆกัน ขอเบอร์กันไว้ และไม่รู้ว่ามายังไง ยังคงงงๆเหมือนกัน"

    หลายคนยังตกใจว่าทำไมถึงมาลงหุ้นอีก เพราะว่าป๋าเคยทำธุรกิจกับเพื่อนและมีปัญหา ?
    "ไม่ต้องตกใจหรอก เพราะว่าป๋าไม่มีเงินไปลงกับเขาหรอก (หัวเราะ)"

    กลัวจะมีปัญหาอีกไหม ?
    "ถ้ามีปัญหาป๋าก็ไม่กลัว เพราะว่าปัญหามันสามารถที่จะเกิดได้ ไม่เป็นไรนิ เราก็ทำไป ระหว่างที่เราทำเจออะไรบ้าง ก็แก้ไขไปตรงนั้นเลย ป๋าว่ามันเป็นเรื่องปกติที่จะต้องแน่นอนคนเราทำด้วยกันจะต้องมีเลิกรากันอยู่แล้ว"

    ในเรื่องของรายได้ส่วนแบ่ง ในเมื่อเราไม่ได้ลงทุน แล้วแบ่งกันอย่างไร ?
    "ก็โอเคแหละ เขาก็ให้เกียรติเรา ก็เรียกว่าพอได้ เราก็ดูถ้าเกิดว่าอย่างที่เขาพูดเราก็โอเค"

    เตรียมรับมือกับปัญหา ที่จะเกิดขึ้นหรือยัง ?
    "ป๋าไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น มันอาจจะเรื่องการเงินไม่ถูกต้อง หรือตรงนี้ทำไม่บอกฉันได้ยังไง มันอาจจะมีปัญหาตรงนี้ แต่ป๋าก็พยายามเคลียร์กับเขาให้รู้เรื่อง ประสบการณ์ป๋ามีผ่านมาเยอะ คนเราเมื่อดีกันแล้ว ทำดีด้วยกันแล้ว ทำไปข้างหน้าให้มันเจริญดีกว่า ดีกว่ามาทะเลาะกัน ก็พูดตรงๆเขาเคยทำให้สมรักษ์ คำสิงห์ มาแล้ว คนเดียวกัน"

    ประสบการณ์ล้มลุก คลุกคลานเราเยอะ นำมาปรับใช้กับครั้งนี้อย่างไรบ้าง ?
    "เราก็คิดไว้อย่างเดียวว่า จะลงอะไรก็แล้วแต่ต่อจากนี้ อย่าเอาเงินไปลงทุนแล้วกัน เพราะเราไม่มีเงินไปลงทุนแล้ว เราเสี่ยงแบบนี้คงไม่เจ็บตัวเท่าไหร่หรอก"

    มั่นใจกับธุรกิจครั้งนี้แค่ไหน เพราะช่วงนี้ธุรกิจประเภทปิ้งย่างมีเยอะ ?
    "ก็ไม่ได้จะคาดหวังอะไรมากมาย ก็อย่างที่พูดนั้นแหละ มันก็เยอะนะ เยอะมาก แต่มันอยู่ตรงที่ว่าเราจะทำอย่างไรให้คนมาร้านเราให้ได้ ร้านทั่วไปส่วนมากจะไม่มีอะไรพิเศษมากมาย แต่เราขนมาทั้งดนตรี ทั้งนักร้อง จ้างวงใหญ่ๆดังๆมา เราจะมีแบบนั้นเลย"

    จะมีโอกาสได้เห็นป๋าขึ้นโชว์เล่นตลกที่นี้หรือเปล่า ?
    "ป๋าต้องขึ้นตลอดอยู่ๆ ขึ้นๆลงแบบนี้ ร้องเพลงบ้าง กับลูกกับหลาน คอยดูแลบ้าง"

    กับข่าวที่ผ่านๆมา คนที่ร่วมหุ้นตอนนี้รับรู้มาตลอดใช่ไหม เขาได้พูดถึง หรือมีกังวลอะไรบ้างไหม ?
    "ป๋าก็บอกว่าทุกอย่างถ้าคนเราจะทำด้วยกัน หุ้นด้วยกัน อย่างหนึ่งที่จะต้องปฏิบัติคือ อย่าระแวงกันนะ ทำอะไรอย่าให้เขาสงสัย คนเราถ้าจะแตกกันมันก็เพราะเรื่องตรงนี้แหละ เหมือนกับทำไมไม่บอกฉันล่ะ ไม่อธิบายให้ละเอียด"

    ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่เราได้ทำ ?
    "ป๋าชอบว่ะ ถ้ามีงานใหม่มาเหมือนทำให้เรารู้สึกตื่นเต้น โลกมันดูสดใสขึ้น"

    เป็นเพราะงานในวงการเราห่างหายไปหรือเปล่า เลยต้องหางานตรงนี้เพิ่ม ?
    "แน่นอน เพราะป๋าภาระเยอะไง จะไปรอละครกว่าจะมาแต่ละเรื่อง หนังกว่าจะมา ถ้าเราไปรอตรงนั้นอดตายจริงๆ เราก็เลยต้องดิ้นรนไง"

    ตอนนี้ยังมีภาระเหลืออีกเยอะไหม ?
    "ประมาณโหทั้งชีวิตก็ใช้ไม่หมดหรอก แต่ก็เหลือไม่มากเท่าไหร่แล้ว 5-6 ล้านบาท แต่ตอนนี้บอกขายบ้านไปแล้ว ที่ศาลายา ตอนนี้ก็เช่าบ้านไปก่อน คือถ้ามีตังจริงๆค่อยเอา ถ้าเกิดต้องมาผ่อนนี้ไม่เอาอีกแล้ว เพราะรู้ว่าทำเงินมาไม่รู้เท่าไหร่ แต่ได้ใช้เท่าไหร่เอง เหมือนได้มาร้อยหนึ่ง ได้ใช้จริงๆแค่ 40 บาทเอง ไม่ไหว อีก 60 บาทต้องเสียให้เขา จริงๆไปเก็บให้ลูกให้หลานกินจะดีกว่า"

    ได้ขายบ้านหลังนี้ไปหรือยัง ?
    "ขายครับ ขายแล้ว แต่ว่าเขาจะมาโอนประมาณวันที่22นี้"

    ก็ถือว่าตัดหนี้สินออกไปเยอะเหมือนกัน ?
    "ครับ ไอ้ตัวเราไม่เป็นไร อยู่ไหนก็ได้ เพียงแต่ว่าถ้าเราไม่มีหนี้สินมากมายน่าจะมีความสุข"

    แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน ?
    "ตอนนี้ยังอยู่บ้านเก่าอยู่ ยังไม่ได้ย้ายออก เพราะเขาจะมาโอนวันที่22 ส่วนที่ใหม่ยังไม่รู้เลย ยังเป็นสัมภเวสีอยู่ ยังมองอยู่ว่าจะไปทางไหนดีว่ะ แต่ว่าอย่างน้อยเราก็หาเช่าแถวนี้เพราะมันอยู่ใกล้ที่ทำงานเรา"

    ทางครอบครัวโอเคใช่ไหมที่เราตัดสินใจแบบนี้ ?
    "มันต้องโอเคแหละ มาอย่างนี้แล้ว มันต้องไปด้วยกัน ก็มาด้วยกันแล้ว ถ้าอยากจะฉีกออกไปก็เรื่องของมันแล้วล่ะ"

    แล้วที่เคยบอกว่าจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่ลาว ?
    "นี่แหละ เราจะไปทางนี้ แต่เราไม่ได้ไปทางปลูกผักแล้ว ปลูกผักดูแล้วปัญหาจะเยอะ ไปสืบมาแล้ว เขามีกฎหมายขั้นรุนแรง ก็เลยเปลี่ยนมาแนวนี้ เอาธุรกิจนี้ไป อาจไปตั้งที่เวียงจันทน์เลย ที่พม่าด้วย ทั้งเวียดนาม อะไรแบบนี้ พาร้านขั้นเทพนี้ไปแหละครับ แต่เดี๋ยวเอาทางนี้ให้อยู่ตัวก่อน"

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้