ธนชาตเร่งปรับโครงสร้างสินเชื่อ

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 5 พฤศจิกายน 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    "ธนชาต" คาดสินเชื่อปีนี้ติดลบ 1-2% หลังเช่าซื้อชะลอตัว มองปี 2558 ตลาดยังไม่ฟื้นชัด จนกว่าจะกลางปี 2559

    "ธนชาต" คาดสินเชื่อปีนี้ติดลบ 1-2% หลังเช่าซื้อชะลอตัว มองปี 2558 ตลาดยังไม่ฟื้นชัด จนกว่าจะกลางปี 2559 เร่งปรับพอร์ตหันไปรุกเอสเอ็มอีรายเล็กที่ยังมีโอกาสการเติบโตหนุนส่วนต่างดอกเบี้ยดีขึ้น คาดปีหน้าสินเชื่อเช่าซื้ออาจมีสัดส่วนต่ำกว่า 50% ยันยังเป็นพอร์ตหลักของธนาคาร ส่วนสินเชื่อปีหน้ากลับมาโตได้ 3-5% ขณะที่การทำกำไรยังทรงตัวได้จากปีก่อน ส่วนเอ็นพีแอลปี 2558 ลดลงต่อเนื่อง ด้านทหารไทยมองสินเชื่อเริ่มฟื้นตามภาวะเศรษฐกิจ คาดทั้งปีโตใกล้ 10% ส่วนปีหน้าคงเป้าโต 10% ด้านผลสำรวจ “แบงก์ชาติ” พบสถาบันการเงินยังระมัดระวังปล่อยกู้ ส่วนความเชื่อมั่นธุรกิจเริ่มดีขึ้น

    นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารธนชาต เปิดเผยว่า ในปี 2558 ธนาคารจะมีการปรับโครงสร้างสินเชื่อหลังจากที่ผลกระทบจากการชะลอตัวของสินเชื่อเช่าซื้อที่ธนาคารมีสัดส่วน 55% ของพอร์ตสินเชื่อรวม ทำให้คาดว่ายอดสินเชื่อคงค้างของธนาคารในปีนี้จะหดตัวลง 1-2% และในปี 2558 มองว่าตลาดเช่าซื้อยังไม่ฟื้นตัวมากนัก โดยในปีหน้าสินเชื่อเช่าซื้ออาจจะมีสัดส่วนลดลงมาอยู่ที่ 50% ขณะที่สินเชื่อรายใหญ่และสินเชื่อเอสเอ็มอีที่จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น

    อย่างไรก็ตามธนาคารไม่ได้ถอนตัวจากธุรกิจเช่าซื้อ โดยจะคงรุกตลาดสินเชื่อเช่าซื้อให้เป็นพอร์ตหลักและคงความเป็นผู้นำตลาดอยู่ แต่จะไปในตลาดที่ยังมีช่องวาง หรือมีศักยภาพในการเติบโตแทน โดยเฉพาะเอสเอ็มอีรายเล็กที่มียอดขายต่ำกว่า 10 ล้านบาท ที่ถือเป็นตลาดใหญ่ที่จะเข้าไปทำธุรกิจได้อีกมาก โดยจะเน้นการต่อยอดจากลูกค้าเช่าซื้อ เนื่องจากลูกค้าเช่าซื้อของธนาคารอยู่ในกลุ่มเอสเอ็มอีกว่า 60% โดยอัตราผลตอบแทนของสินเชื่อเอสเอ็มอีขนาดเล็กอยู่ที่ระดับ 7% สูงกว่าสินเชื่อเช่าซื้อ 2-3% จึงเป็นโอกาสในการเพิ่มส่วนต่างดอกเบี้ยให้ธนาคารอีกด้วย

    “สินเชื่อเช่าซื้อที่หดตัวลงส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการทำธุรกิจเช่าซื้อมาเป็นเวลานานทำให้พอร์ตสินเชื่อมีขนาดใหญ่ การชำระคืนของลูกค้าในแต่ละเดือนจึงเป็นเม็ดเงินจำนวนมาก และในภาวะแบบนี้การหาลูกค้าใหม่เพื่อมารองรับการชำระคืนหนี้ของลูกค้าหรือสูงกว่าเม็ดเงินชำระคืนถือเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ดังนั้นในเชิงตัวเลขแล้วก็ต้องหดตัวไปตามธรรมชาติ”

    ทั้งนี้ปัจจุบันมีพอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอีขนาดเล็กอยู่แล้ว 1 หมื่นล้านบาท จากลูกค้า 2-3 หมื่นราย ธนาคารตั้งเป้าการเติบโตด้วยเลข 2 หลัก หรือปล่อยสินเชื่อได้มากกว่า 5,000 ล้านบาทในปี 2558 โดยจะเน้นความรวดเร็วด้วยการ นำข้อมูลทางสถิติจากเครดิตบูโรมาประกอบการพิจารณาสินเชื่อ ทำให้พนักงานสาขาสามารถประเมินสินเชื่อได้ทันที และหากเอกสารครบจะได้รับเงินภายใน 7 วัน ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นธุรกิจที่เห็นการเติบโตได้มากในอนาคต โดยในปีหน้าธนาคารคาดว่าสินเชื่อในปี 2558 จะขยายตัวได้ 3-5%

    ทั้งนี้เชื่อว่าจะรักษาระดับการทำกำไรในปีนี้ให้ใกล้เคียงกับปี 2556 แม้ว่าสินเชื่อจะหดตัวลงก็ตาม เนื่องจากธนาคารสามารถดูแลต้นทุนการเงินไว้ได้ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยกว้างขึ้น ขณะที่คุณภาพลูกหนี้เริ่มดีขึ้นจากช่วงไตรมาสแรก แต่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก เพราะราคาสินค้าเกษตรยังตกต่ำ ทั้งนี้ธนาคารมีการแก้ปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อย่างจริงจังทำให้เห็นว่ามูลค่าเอ็นพีแอลลดลง และเชื่อว่าจะต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 4 และปี 2558 ด้วย โดยในปีหน้าธนาคารพยายามคุมเอ็นพีแอลให้ต่ำกว่า 4%

    นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารธนชาต กล่าวว่า ที่ผ่านมาธนาคารพยายามลดเอ็นพีแอลด้วยการปรับโครงสร้างหนี้หรือขายหนี้ออกไป ทำให้แนวโน้มการยึดรถในขณะนี้มีปริมาณลดลง ส่วนในปี 2558 ธุรกิจเช่าซื้อของธนาคารจะหันไปมุ่งเน้นธุรกิจรถแลกเงินมากขึ้น ขณะที่สถานการณ์สินเชื่อเช่าซื้อคาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงกลางปี 2559

    ทางด้านนายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า ในปีนี้ธนาคารมั่นใจว่า การเติบโตของสินเชื่อจะเป็นไปตามเป้าเดิมที่ 10% ส่วนปีหน้าคาดว่าการเติบโตจะอยู่ที่ประมาณ 10% โดยเริ่มเห็นแนวโน้มสินเชื่อกลับมาดีขึ้น หลังจากที่เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวเศรษฐกิจชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตามยอมรับว่าการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ยังต้องใช้ความระมัดระวังอยู่มาก เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมา อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจเหล่านี้บ้าง

    “จริงๆ ไม่เรียกว่าเข้มงวด แต่เรียกว่าระมัดระวังมากขึ้น แบงก์เองก็พยายามหาโปรแกรมใหม่ๆ มาช่วย อย่างทีเอ็มบีได้เซ็นสัญญากับ ไอเอฟซี(บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ) และทำให้การcoverage ของพอร์ตเพิ่มจาก 20% เป็น 50% จึงสามารถรองรับความเสี่ยงในภาวะที่ผันผวนได้ ทำให้เราสามารถปล่อยสินเชื่อเพื่อให้ความมั่นใจได้” นายบุญทักษ์กล่าว

    ขณะเดียวกันธนาคารยังต้องระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อสินเชื่อส่วนบุคคลด้วย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากหนี้ครัวเรือนที่ทรงตัวในระดับสูง ส่วนเอ็นพีแอลทั้งปีเชื่อว่าน่าจะทรงตัวในระดับต่ำกว่า 3%

    รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า จากการสำรวจความเห็นของธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์(นอนแบงก์) มีความเห็นว่า ในไตรมาส 4 ปีนี้ สถาบันการเงินจะยังรักษาระดับมาตรฐานการให้สินเชื่อเอสเอ็มอี หลังจากที่เข้มงวดมามากแล้วระยะหนึ่งและคาดว่าจะผ่อนคลายมาตรฐานการให้สินเชื่อแก่ธุรกิจขนาดใหญ่ลงบ้าง ส่งผลให้มาตรฐานการให้สินเชื่อภาคธุรกิจในภาพรวมมีแนวโน้มผ่อนคลายลงเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามสถาบันการเงินยังคงความเข้มงวดมาตรฐานการให้สินเชื่อภาคครัวเรือนจากความกังวลเกี่ยวกับภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง

    สำหรับภาวะธุรกิจในไตรมาส 4 ผลสำรวจพบว่า มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่คาดว่าภาวะธุรกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้ามีแนวโน้มปรับดีขึ้นจากปัจจุบัน โดยการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มดีขึ้นตามความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีรายได้ระดับกลางและระดับบนเป็นสำคัญ

    ขณะที่รายได้เกษตรกรที่ลดลงและภาระหนี้ครัวเรือนของผู้มีรายได้น้อยยังคงฉุดรั้งการขยายตัวของการบริโภคในภาพรวม สำหรับการลงทุนโดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ยังคงชะลอตัวเนื่องจากผู้ประกอบการรอประเมินความชัดเจนของนโยบายภาครัฐและการฟื้นตัวของอุปสงค์ส่วนการส่งออกสินค้าเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวหลังเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวน้อยกว่าที่คาดไว้ ขณะที่ธุรกิจท่องเที่ยวทยอยฟื้นตัว สะท้อนจากยอดจองที่พักล่วงหน้าที่ปรับดีขึ้นเล็กน้อย

    ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คาดว่าจะดีขึ้นต่อเอง โดยเฉพาะโครงการแนวสูงตามเส้นทางรถไฟฟ้าที่กลับมาคึกคักหลังคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากนโยบายเร่งลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลชุดใหม่

    Tags : ธนชาต • สินเชื่อ • เช่าซื้อ

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้