จ่อขึ้นแอลพีจี "ขนส่ง-ครัวเรือน" สนพ.ลดแอลพีจีอุตฯ ต่ำสุดรอบ 2 ปี 10 เดือน เหลือ 25.37 บาท/กก. กระทรวงพลังงานเตรียมขึ้นแอลพีจี"ขนส่ง-ครัวเรือน"อีกรอบ 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม ภายในเดือนพ.ย.นี้ หลังกองทุนน้ำมันเป็นบวก พร้อมเสนอกพช.ปรับโครงสร้างแอลพีจีแบบขั้นบันได ชี้ราคาสุดท้ายขึ้นไม่ต่ำกว่าหน้าโรงกลั่น 26 บาท/กก. แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่ากระทรวงพลังงานเตรียมเสนอแนวทางการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันและก๊าซต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในเดือน พ.ย. 2557 นี้ ตามเงื่อนไขที่ระบุว่าจะปรับโครงสร้างเมื่อสถานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเริ่มเป็นบวก ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 2 พ.ย. 2557 เป็นบวก 827 ล้านบาท จากติดลบมาโดยตลอด ดังนั้น การเสนอปรับโครงสร้างราคาน้ำมันและก๊าซที่จะถึงนี้ จะมีผลต่อการขึ้นภาษีน้ำมัน โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลเพื่อให้มีอัตราภาษีใกล้เคียงกับน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ที่ 3 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันเก็บอยู่เพียง 75 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งการปรับภาษีดังกล่าวจะไม่มีผลต่อราคาน้ำมันหน้าปั๊ม เนื่องจากปรับโดยอาศัยช่วงน้ำมันตลาดโลกลดลงและเป็นการโยกเงินกองทุนน้ำมันฯไปไว้กับภาษีแทน อย่างไรก็ตามการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันและก๊าซดังกล่าวจะมีความชัดเจนถึงขอบเขตการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ภาคขนส่งและครัวเรือนว่าจะปรับขึ้นไปจนสิ้นสุดที่ราคาใด และทยอยปรับราคาในรูปแบบใด "ในเบื้องต้น เตรียมปรับขึ้นแอลพีจีภาคครัวเรือนและขนส่งอีก 50 สตางค์ต่อกิโลกรัมในเดือนพ.ย. 2557 นี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ราคา 22.63 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งจะทำให้ราคาแอลพีจีรวมเป็น 23.13 บาทต่อกิโลกรัม" ทั้งนี้การปรับขึ้นราคาดังกล่าวเป็นเพียงการปรับเล็ก ภายใต้กรอบของคณะกรรมบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีอำนาจปรับขึ้นได้สูงสุดไม่เกินหน้าโรงแยกก๊าซที่ 24.82 บาทต่อกิโลกรัม แต่กระทรวงพลังงานกำลังพิจารณาจะปรับโครงสร้างราคาก๊าซครั้งใหญ่แบบขั้นบันได โดยกำลังพิจารณาต้นทุนที่แท้จริงว่าควรปรับเท่าหน้าโรงกลั่นน้ำมันที่ประมาณ 26 บาทต่อกิโลกรัม หรือเฉลี่ยทั้ง 3 ส่วนคือ โรงแยกก๊าซ โรงกลั่นและราคานำเข้า ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 27-29 บาทต่อกิโลกรัม ใกล้เคียงกับราคาแอลพีจีภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้กำลังพิจาณาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้ใช้ด้วย โดยหากปรับโครงสร้างตามขั้นบันไดดังกล่าวจะต้องเสนอผ่าน กพช.และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่อีกครั้ง สำหรับแอลพีจีภาคอุตสาหกรรมนั้น ปัจจุบันเป็นราคาลอยตัวตามตลาดโลกแต่ไม่เกินเพดาน 30.13 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งจะประกาศราคาประจำทุกเดือน โดยในเดือนพ.ย. 2557 สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้ประกาศราคาแอลพีจีภาคอุตสาหกรรมให้จำหน่ายที่ 25.37 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งปรับลดลงจากเดือน ต.ค. 2557 ที่อยู่ระดับ 29.02 บาทต่อกิโลกรัม หรือปรับลดลงถึง 3.65 บาทต่อกิโลกรัม ราคาแอลพีจีอุตสาหกรรม 25.37 บาทต่อกิโลกรัม ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี 10 เดือน เนื่องจากราคาแอลพีจีในตลาดโลกปรับลดลงอย่างหนักเหลือแค่ 606 ดอลลาร์ต่อตัน จากเดือนต.ค.2557 ที่อยู่ระดับ 747 ดอลลาร์ต่อตัน หรือปรับลดลง ถึง 141 ดอลลาร์ต่อตัน ทั้งนี้ สนพ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคาดการณ์ว่าราคาแอลพีจีตลาดโลกจะทรงตัวระดับต่ำตลอดสิ้นปี 2557 ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และคาดว่าปี 2558 ราคาแอลพีจีโลกจะทรงตัวต่อที่ระดับ 760 ดอลลาร์ต่อตัน หรือ 29 บาทต่อกิโลกรัม ดังนั้น เป็นจังหวะดีที่กระทรวงพลังงานจะเร่งปรับโครงสร้างราคาแอลพีจีให้สะท้อนต้นทุนและทยอยปรับให้แอลพีจีเป็นราคาเดียวกันทั้งภาคครัวเรือน ขนส่งและอุตสาหกรรม Tags : กพช. • กระทรวงพลังงาน • แอลพีจี • ราคาน้ำมัน • ก๊าซ