เล็งหั่นดัชนี "เอ็มพีไอ" ปีนี้ติดลบ3% สศอ.ชี้ส่งออก9เดือนติดลบ บริโภคในประเทศไม่ฟื้น สศอ.เตรียมปรับประมาณดัชนี"เอ็มพีไอ"ปีนี้ คาดติดลบ 3% จากเดิมจะขยายตัว 1.3-2% ชี้ภาคผลิตกระทบหนักจากตลาดส่งออกชะลอ-การบริโภคในประเทศยังไม่ฟื้นตัว เตือนผู้ประกอบการเร่งปรับตัวหลังเผชิญกับการแข่งขันจากประเทศในอาเซียน แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่าสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) เตรียมปรับลดประมาณการดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI)ของปีนี้ลงเป็นติดลบ 3% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 1.5-2% เนื่องมาจากการส่งออกและบริโภคภายในไม่ฟื้นตัว ทั้งนี้ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมใน 9 เดือนแรก(ม.ค.-ก.ย.)ของปีนี้ติดลบ ซึ่งต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ถือว่าติดลบต่อเนื่องกันเป็นเวลา 18 เดือน ขณะที่การผลิตอุตสาหกรรมไม่มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างที่คาด โดยปัจจัยหลัก มาจากส่งออกที่ตกต่ำตามเศรษฐกิจโลก ซึ่งล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า 9 เดือนแรกของปีนี้การส่งออกยังคงติดลบ 0.85% ขณะที่ภาคการผลิตอุตสาหกรรมเกิน 60% เป็นการผลิตเพื่อส่งออก และการผลิตเพื่อขายในประเทศก็ลดลงไปตามการบริโภคในประเทศก็ชะงักงัน ด้านการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐยังล่าช้ายังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งผลไปยังภาคการผลิตได้ ทั้งนี้ อุตสาหกรรมของไทยกว่า 60% เป็นการผลิตเพื่อส่งออก เมื่อเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักอย่างสหรัฐฯ ยุโรป จีน และญี่ปุ่นชะลอตัว ก็ทำให้การผลิตของไทยลดลงไปด้วย ในขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์ที่เดิมคาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวในปลายปีตอนนี้ก็ไม่เห็นสัญญาณที่ดีขึ้น ยอดขายรถยังลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมแล้ว สศอ. ยังลดประมาณการจีดีพีปีนี้ลงเป็นติดลบ 2% จากเดิมที่คาดว่าเป็นบวก 1-2% ส่วนแนวโน้มของปี 2558 ขณะนี้ สศอ.อยู่ระหว่างเตรียมข้อมูลเพื่อจัดทำประมาณการ แต่หลักๆ ยังคงขึ้นอยู่กับสถานการณ์การส่งออก ซึ่งยังคงประเมินว่าจะฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับปีนี้ เห็นจากประมาณการเศรษฐกิจโลกของสำนักต่างๆ ที่มองว่าเศรษฐกิจโลกปีหน้าจะเข้าสู่ภาวะฟื้นตัว แต่จะเป็นการฟื้นตัวที่ไม่หวือหวาเพราะประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างสหรัฐฯจะดูดีขึ้น โดยยุโรปยังคงฉุดเศรษฐกิจโลก จากอัตราการว่างงานล่าสุดที่ยังสูงกว่า 10% อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจโลกในปีหน้า จะต้องจับตาการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลาว่าจะรุนแรงขึ้นหรือไม่ ความขัดแย้งระหว่างยุโรปกับรัสเซียในกรณียูเครน และความรุนแรงในตะวันออกกลางจะขยายวงกว้างหรือไม่ ถ้าปัจจัยเหล่านี้รุนแรงขึ้น ก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในปีหน้า และเป็นตัวชี้วัดต่อเศรษฐกิจไทยว่าจะขยายตัวได้มากน้อยเพียงไร "ผู้ประกอบการเอกชนต้องติดตามเทรนด์และปรับตัว นอกจากเผชิญกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกแล้ว การผลิตในไทยยังถูกท้าทายจากที่ประเทศเพื่อนบ้านที่เดิมไม่มีความพร้อมด้านการผลิต เคยนำเข้าสินค้าจากไทยขณะนี้ก็เริ่มผลิตสินค้าเอง เช่นกรณีการผลิตรถยนต์ในอินโดนีเซีย ที่ขณะนี้ลดการนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูป แต่นำเข้าชิ้นส่วนจากไทยไปผลิตแทน และผ่านไประยะหนึ่งเมื่อขนาดตลาดเพียงพอแล้วก็จะลดการนำเข้าชิ้นส่วนจากไทยแล้วผลิตเองในประเทศ ซึ่งลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอุตสาหกรรมสิ่งทอที่เดิมเวียดนาม กัมพูชา จะต้องนำเข้าวัตถุดิบต้นน้ำจากไทยไปผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปในประเทศ แต่เมื่อการผลิตมีจำนวนมากเพียงพอก็ผลิตผ้าผืนเองและลดการนำเข้าจากไทย" แหล่งข่าวกล่าว Tags : ดัชนีเอ็มพีไอ • สศอ. • อุตสาหกรรม • เศรษฐกิจ • การบริโภค