เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานพิธีทอดกฐิน งานบุญมหากุศลครั้งที่ 12 เนื่องในเทศกาลออกพรรษาของ นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หรือ โหรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่ วิหารหลวงปู่เกวลัน หมู่บ้านสุขิโต ต.ป่าตัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อสร้างบุญกุศลและให้บ้านเมืองสงบสุขร่มเย็นตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พระราชเจติยาจารย์ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมพระสงฆ์รวม 25 รูป มีพิธีจุดเทียนมงคล ทอดกฐิน 20 กอง เพื่อถวาย 20 วัดในตัวเมืองเชียงใหม่ พร้อมรักษาพระสงฆ์ที่อาพาธ มอบทุนการศึกษา บริจาคโลงศพ ก่อนปล่อยโค-กระบือ 9 ตัว มีผู้บริจาค 198,000 บาท ปล่อยปลา 20,000 ตัว ลงสู่แม่น้ำปิง 135,000 บาท พร้อมทอดผ้าป่าสมทบมูลนิธิข่วงพระเจ้าล้านนา มีผู้บริจาคทอดกฐินและทำบุญรวม 10 ล้านบาท นายปรีชา บัววิรัตน์เลิศ สมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) และน้องชายโหร คมช. นักการเมือง ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร นักธุรกิจ และประชาชนเข้าร่วมกว่า 1,000 คน พร้อมมอบหนังสือกฐินทาน บทสวดมนต์ แก่ผู้ร่วมงานทุกคน นายวารินทร์ กล่าวว่า ทอดกฐินและทำบุญมหากุศลเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา เป็นอานิสงส์มหาศาล คลายกรรมทุกขเวทนา ทำให้ชาติบ้านเมืองคลายกรรมที่ผจญวิบากให้ผ่อนคลาย บอบช้ำมาก ประเทศแทบล้มละลายในห้วงที่ผ่านมา ประชาชนควรให้โอกาส คสช.ฟื้นฟูประเทศและสร้างความสุขให้คนไทยอีก 2-3 ปี บ้านเมืองถึงกลับเข้าสู่ความสงบสุข และไม่กังวลว่าจะกลับไปวุ่นวายเหมือนเดิมอีก เพราะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คือกฎอัยการศึกที่ควบคุมและทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย "นโยบาย คสช. ต้องการฟื้นฟูและเยียวยาประเทศ หากให้เวลาเพียง 1 ปี ยังไม่พอ ควรให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ทำหน้าที่ให้ชาติบ้านเมืองและให้กำลังใจปฏิรูปประเทศสำเร็จตามแผนโรดแมป ส่วน สนช.และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ต้องทำตามนโยบาย คสช. เสียสละทำเพื่อส่วนรวม ละทิ้งความสุขส่วนตัว แม้ว่าจะเหนื่อย แต่ความสำเร็จรออยู่ข้างหน้า อยากให้การปฏิรูปและร่างกฎหมายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และปกป้องประชาชน ดังนั้น การให้กำลังใจและการมีส่วนร่วมกับ คสช. คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์และคุ้มครอง พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลให้ชาติเดินไปข้างหน้า" นายวารินทร์กล่าว