(รายงาน) เปิดเออีซีหนุนลงทุน "อสังหาฯ" แนวโน้มราคาที่ดินปีหน้าพุ่ง 4% รายการ Ringside สังเวียนหุ้น ทางสถานีโทรทัศน์ NOW26 ตอน "แนวโน้มราคาที่ดินในปี 2558" ฟังทัศนะของกูรูอสังหาริมทรัพย์ กับอนาคตที่สดใสของภาคพร็อพเพอร์ตี นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส กล่าวถึงแนวโน้มราคาที่ดินช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ต่อเนื่องถึงปี 58 ว่า ราคาที่ดินในปัจจุบันยังปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ราคาที่ดินย่านสยามสแควร์ เพลินจิต ชิดลม อยู่ที่ประมาณ 1.7 ล้านบาทต่อตารางวา หรือประมาณไร่ละ 680 ล้านบาท ขณะที่ชานเมืองอย่างย่านลำลูกกา (จ.ปทุมธานี) อยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาทต่อไร่ ราคาต่างกัน 680 เท่า เพราะสาธารณูปโภคและความสะดวกสบายต่างกัน ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาถือว่าราคาที่ดินในบ้านเราไม่ได้ปรับขึ้นสูงมากนักเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกัน อย่างราคาที่ดินในสิงคโปร์และเวียดนามถือว่าแพงกว่าบ้านเรามาก ซึ่งจากการประเมินมองว่าราคาที่ดินบ้านเรายังเติบโตได้อีก และเชื่อว่าจะยังไม่เกิดวิกฤติฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์และที่ดิน เนื่องจากการเติบโตยังมีต่อเนื่อง "ช่วง 8 เดือนแรกของปี 57 (ม.ค.- ส.ค.) ประมาณการตัวเลขเปิดใหม่ของโครงการอสังหาริมทรัพย์ตลอดทั้งปีไว้ว่า น่าจะมีหน่วยขายเปิดใหม่ 101,901 หน่วย รวมมูลค่า 308,566 ล้านบาท หรือหน่วยละ 3.028 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 56 ที่มีหน่วยเปิดใหม่ 131,645 หน่วย ที่มูลค่า 385,447 ล้านบาท จะพบว่าในปี 57 ทั้งปีจะมีหน่วยขายเปิดลดลงประมาณ 23% และมูลค่าการพัฒนาลดลงประมาณ 20%" นายโสภณ ระบุ คาดปีหน้าราคาที่ดินพุ่ง ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยฯ กล่าวต่อว่า ราคาที่ดินในปีหน้าน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 4% ใกล้เคียงกับปีนี้ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจยังไม่เติบโตดีมากเท่าที่ควร คนที่จะซื้อบ้านอาจมีการชะลอเพื่อตัดสินใจมากขึ้น ขณะที่ราคาที่ดินในโซนกลางเมือง และพื้นที่ที่เป็นเส้นทางผ่านของรถไฟฟ้า น่าจะปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 10% และเชื่อว่าราคาจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนยังซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์เก็บเพื่อการอยู่อาศัยและการลงทุนมากขึ้น "ปี 58 น่าจะดีกว่าปี 57 เพราะความวุ่นวายทางการเมืองคงไม่เกิดขึ้น เนื่องจากรัฐบาลและ คสช. (คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) ยังประกาศกฎอัยการศึกอยู่ ทำให้การเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับการเมืองไม่อาจเกิดขึ้นได้ และจากประสบการณ์หลังความตกต่ำเพราะน้ำท่วมปี 54 ก็พบว่าการเปิดตัวโครงการใหม่ของปีถัดมา คือปี 55 และ 56 เติบโตเป็นอย่างมาก" "ดังนั้นจึงคาดการณ์เบื้องต้นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 58 น่าจะดีกว่าปี 57 แต่หนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นมาก ทำให้โอกาสการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ลดลง กำลังซื้อที่คาดว่าจะมีก็อาจลดลงไปบ้างก็ได้ บริษัทพัฒนาที่ดินขนาดใหญ่ที่คาดการณ์ว่าจะเปิดตัวโครงการมากมายในปี 58 อาจผิดแผนและต้องปรับตัวใหม่ก็ได้" เปิดเออีซีดึงต่างชาติลงทุน นายโสภณ กล่าวอีกว่า การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปีหน้าจะช่วยให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยมากขึ้น เนื่องจากราคาอสังหาริมทรัพย์ไทยยังถูกมากเมื่อเทียบกับราคาของประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่การเปิดโครงการใหม่ในบ้านเราแต่ละปีจะอยู่ที่ประมาณ 300 โครงการ ขณะที่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกัน อย่างอินโดนีเซียและมาเลเซียจะเปิดน้อยมาก ประเด็นเหล่านี้จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาที่ดินในประเทศไทยยังปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งนักลงทุนไทยหรือผู้บริโภคที่ต้องการซื้อที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ก็สามารถซื้อได้เลยหากพร้อม เพราะหากรอ ราคาจะปรับขึ้นต่อเนื่อง ตอนนี้มองว่าต้องเกิดสงครามในประเทศเท่านั้นราคาที่ดินถึงจะปรับลดลง ยิ่งหากการเมืองมีความมั่นคง ที่ดินในบ้านเราก็จะยิ่งน่าสนใจ "การเก็บภาษีที่ดินไม่ได้มีส่วนทำให้ราคาที่ดินในประเทศเราถูกลง การเก็บภาษีที่ดินจะยิ่งส่งผลให้ราคาที่ดินเพิ่มมากขึ้น เพราะเท่ากับว่าการเก็บภาษีที่ดินก็เพื่อพัฒนาท้องถิ่นให้ดีขึ้น ราคาก็ย่อมปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย หากเทียบในภูมิภาคเดียวกัน จะมีเพียงไทย เมียนมาร์ และบูรไนเท่านั้นที่ไม่มีการเก็บภาษีที่ดิน นอกนั้นทุกประเทศในภูมิภาคนี้มีการเก็บภาษีที่ดินทั้งหมดแล้ว" เขากล่าว มั่นใจไม่เกิดฟองสบู่ นายเจมส์ ดูอัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เฟรแกรนท์ พร็อพเพอรตี้ จำกัด กล่าวว่า มั่นใจว่าจะไม่เกิดวิกฤติฟองสบู่ในตลาดที่ดิน เนื่องจากเชื่อว่าตลาดที่ดินในปัจจุบันยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และมีความต้องการเพิ่มสูงมากขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ก็ยังสามารถรับภาระในต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นได้อยู่ ส่วนแนวโน้มราคาที่ดินในต่างจังหวัดจะปรับเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน จากการขยายการลงทุนไปตามหัวเมืองใหญ่ ขณะที่การลงทุนของตลาดโลกก็เริ่มไหลเข้ามาลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียมากขึ้น โดยช่วงที่ผ่านมามีการลงทุนในภาคอสังหาฯของเอเชียประมาณ 11% แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 14% ซึ่งการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียตอนนี้ จุดที่น่าลงทุนที่สุด คือ ไทย เมื่อเทียบกับจีนและฮ่องกงที่ตอนนี้บรรยากาศไม่ค่อยดี ประกอบกับราคาที่ดินในไทยยังถูกมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค ราคาที่ดินโตก้าวกระโดด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เฟรแกรนท์ พร็อพเพอรตี้ จำกัด กล่าวอีกว่า แนวโน้มราคาที่ดินในประเทศตอนนี้กำลังปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าในปีหน้าราคาที่ดินจะปรับเพิ่มมากกว่า 4% แน่นอน และน่าจะเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดจากปีนี้ด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาราคาที่ดินในประเทศปรับขึ้นช้ามากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น อย่างฮ่องกง ราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้น 4 เท่าตัว ซึ่งถือว่าโตเร็วเกินไป ขณะที่ราคาที่ดินในอังกฤษปรับขึ้นประมาณ 2 เท่าตัว โดยช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา สัดส่วนการลงทุนของต่างชาติในประเทศไทยมีมากขึ้นเรื่อยๆ และเชื่อว่าจะมากขึ้นต่อไป ซึ่งจะทำให้ราคาที่ดินโตอย่างก้าวกระโดดมากกว่าที่ผ่านมาได้ "ผมเชียร์ให้รัฐบาลเก็บภาษีที่ดินเพื่อใช้ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ ดูจากปีที่ผ่านมาเราเก็บค่าโอนที่ดินได้เพียง 4-5 พันล้านบาทเท่านั้น หากเก็บภาษีที่ดิน รัฐจะมีเงินในการพัฒนาประเทศอีกมาก และการเก็บภาษีที่ดินก็จะยิ่งทำให้ความน่าสนใจและมูลค่าของที่ดินเพิ่มขึ้นอีกด้วย" นายเจมส์ ดูอัน ระบุ Tags : RINGSIDE สังเวียนหุ้น • NOW26 • โสภณ พรโชคชัย • เออีซี • อสังหาฯ • ราคาที่ดิน • เจมส์ ดูอัน