รีวิว Galaxy Note 10 Lite ปากกา S Pen ทำได้เหมือนรุ่นใหญ่ ในราคาถูกกว่าเกือบครึ่ง

หัวข้อกระทู้ ใน 'เทคโนโลยี' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 6 กุมภาพันธ์ 2020.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    นับตั้งแต่ Galaxy Note รุ่นแรกเปิดตัวในปี 2011 สมาร์ทโฟนซีรีส์ Note ถือเป็น "เรือธงตัวสูงสุด" ของซัมซุงมาโดยตลอด (แพงกว่าหรืออย่างน้อยก็ราคาเท่ากับซีรีส์ S) โดยซัมซุงใช้วิธียึดโยงปากกา S Pen เข้ากับความสามารถในเชิง productivity ที่เหนือกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ และต้องจ่ายแพงเท่านั้นถึงจะมีสิทธิใช้งาน

    ซัมซุงเคยออก Note รุ่นถูกมาแล้วหนึ่งครั้งตอน Note 3 Neo ในปี 2014 แต่ก็ไม่ได้ทำอีกเลย เราอาจนับ Galaxy Note FE แต่จริงๆ แล้วมันก็คือการนำ Note 7 ที่ตกรุ่นไปแล้วมาวางขายเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น

    แต่การเปิดตัว Note 10 Lite รอบนี้แตกต่างไปจากเดิม เพราะซัมซุงแสดงตัวชัดเจนว่าต้องการออก "มือถือมีปากกาที่ราคาถูกลงมา" ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนแปลงสำคัญของยุทธศาสตร์ Note ที่ใช้มาตลอด

    [​IMG]

    นิยามที่หนึ่ง: Note 10+ ในราคาถูกกว่าเกือบครึ่ง


    ซัมซุงเปิดตัว Note 10 Lite หลัง Note 10 ประมาณ 4 เดือน (สิงหาคม 2019 และมกราคม 2020) โดยจุดต่างสำคัญคือ "ราคา" ที่ต่างกันมากพอสมควร (อ้างอิงจากหน้าเว็บซัมซุงประเทศไทย)

    • Galaxy Note 10 รุ่นปกติจอ 6.3" ความจุ 256GB ราคาเปิดตัว 32,900 บาท ปัจจุบันขายอยู่ 28,900 บาท
    • Galaxy Note 10+ รุ่นจอใหญ่ 6.8" ความจุ 256GB ราคาเปิดตัว 37,900 บาท ปัจจุบันขายอยู่ 32,900 บาท
    • Galaxy Note 10 Lite จอใหญ่ 6.7" ใกล้เคียง Note 10+ ความจุ 128GB ราคาเปิดตัว 17,900 บาท

    หากเทียบราคาของ Note 10 Lite กับ Note 10+ ที่มีขนาดเครื่องใกล้เคียงกัน จะเห็นว่าราคาเปิดตัวต่างกันถึง 20,000 บาท หรือถ้าเอาราคาในปัจจุบันมาเทียบกันก็คือต่างกัน 15,000 บาท คิดเป็น 83% หรือเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว

    สิ่งที่ทุกคนอยากรู้ก่อนซื้อคงเป็นว่า ราคาต่างกันเกือบเท่าตัว แล้วมันต่างกันอย่างไรบ้าง

    [​IMG]

    นิยามที่สอง: Galaxy A71 มีปากกา


    ผมพยายามหานิยามของ Galaxy Note 10 Lite ว่ามันคืออะไรกันแน่ จึงลองนำสเปกของมือถือซัมซุงรุ่นที่ใกล้เคียงมากางเทียบกันแบบละเอียดๆ และได้คำตอบว่า Note 10 Lite คือการนำโครงของ Galaxy A71 ที่เปิดตัวไล่เลี่ยกัน (ธันวาคม 2019) มาอัพเกรดเป็นหน่วยประมวลผลตัวเดียวกับ Galaxy Note 9, ได้ปากกาตัวเดียวกับ Note 9 และได้ฟีเจอร์ฝั่งซอฟต์แวร์เกือบเท่ากับ Note 10+

    อ่านแล้วอาจดูซับซ้อน ลองดูตารางเปรียบเทียบอาจเข้าใจง่ายกว่าครับ

    [​IMG]

    จากตารางจะเห็นว่า สเปกของ Note 10 Lite และ Galaxy A71 ใกล้เคียงกันมาก ต่างกันที่หน่วยประมวลผลและกล้องหลังเท่านั้น

    ส่วนของหน้าตาก็เรียกได้ว่าเหมือนกันแทบ 100% เนื่องจากผมไม่มีเครื่อง Galaxy A71 มาด้วย เลยขอใช้ภาพเรนเดอร์จากเว็บไซต์ซัมซุงมาเทียบกันให้ดู

    [​IMG]

    หากดูขนาดเครื่องตามสเปก มือถือทั้งสองรุ่นมีความยาว x ความกว้างเท่ากันคือ 163.6 x 76.0 มิลลิเมตร โดยที่ A71 บางกว่า (7.7 มิลลิเมตร vs 8.7 มิลลิเมตร) และเบากว่า (179 vs 199 กรัม) ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องปากกา S Pen ที่เพิ่มเข้ามา

    อีกเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ Note 10 Lite มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรด้วย (เหมือนกับ A71 แต่ Note 10 ไม่มี) แถมเป็นจอแบนขอบไม่โค้งซะด้วย (จริงๆ มีโค้ง แต่นิดเดียว นิดมากๆ ตรงขอบกระจก) หลายคนอาจมองว่าสองปัจจัยนี้เป็นจุดเด่นเหนือรุ่นพี่อย่าง Note 10/10+ ด้วยซ้ำ

    [​IMG]

    จุดที่ Note 10 Lite เหนือกว่า A71 ชัดเจนคือหน่วยประมวลผล ที่ Note 10 Lite ใช้ Exynos 9810 ตัวเดียวกับ Note 9 แม้จะตกรุ่นไปแล้วปีกว่า (Note 9 ออกปี 2018) แต่ก็ยังถือเป็นอดีตเรือธง ในขณะที่ A71 ใช้ Snapdragon 730 ที่ใหม่กว่า (ออกช่วงต้นปี 2019) แต่เป็นซีรีส์รองเรือธง

    หากดูที่ราคาเทียบกับสเปกเพียงอย่างเดียว จะเห็นว่าส่วนต่างของ Note 10 Lite กับ A71 ต่างกันอยู่ 4,000 บาทถ้วน ตรงนี้เราจะได้หน่วยประมวลผลที่อัพเกรดขึ้น และปากกา S Pen ที่เพิ่มเข้ามา คนที่อยากได้ปากกามาวาดรูปหรือจดบันทึกข้อความต่างๆ คงต้องพิจารณากันว่า จ่ายเพิ่มอีก 4,000 บาทแล้วคุ้มหรือไม่

    นิยามที่สาม: Galaxy Note 9.5 ปากกาทำได้ทุกอย่างเท่า Galaxy Note 9


    เมื่อทราบตำแหน่งแห่งที่ (product positioning) ของ Note 10 Lite ในบรรดากองทัพมือถือของซัมซุงด้วยกันเองแล้ว เรามาเจาะกันที่ฟีเจอร์ชูโรงคือปากกา S Pen ของ Note 10 Lite ว่าเหมือน-ต่างจากรุ่นพี่อย่างไรบ้าง

    ส่วนตัวแล้วผมใช้สมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy Note มาตลอด (นับตั้งแต่ Note 3 และข้ามรุ่น อัพเกรดทุก 2 ปีคือ Note 5, Note 8, Note 10+) จึงคุ้นเคยกับรอมซัมซุง และฟีเจอร์ปากกา S Pen เป็นอย่างดี

    คนที่ติดตามซีรีส์ Galaxy Note มาคงทราบว่าซัมซุงดันปากกา S Pen มาจนสุดทางแล้ว ในแง่ความละเอียดของแรงกด การสัมผัส มาถึงจุดสูงสุดตอน Note 8 ทำให้ซัมซุงต้องหนีไปพัฒนาแง่ฟีเจอร์อื่นของปากกาแทน

    Note 9 เปลี่ยนปากกาให้เป็น Bluetooth ชาร์จได้ในตัว ทำให้เราสามารถใช้ปากกา S Pen เป็นรีโมทควบคุมสมาร์ทโฟนได้จากการกดปุ่มบนตัวปากกา (เช่น คลิกเพื่อถ่ายรูป) พอมาถึงยุคของ Note 10 เพิ่มไจโรสโคปเข้ามา ให้ดักการเคลื่อนไหวของปากกาได้ เกิดเป็นท่าโบกปากกาไปซ้าย ขวา หรือวนเป็นวงแบบไม้กายสิทธิ์ เพื่อสั่งงานแอพต่างๆ


    สำหรับปากกาของ Note 10 Lite ถือว่าค่อนข้างเซอร์ไพร์สผมทีเดียว เพราะมันทำได้ทุกอย่างเท่ากับปากกา Note 9 นั่นคือมี Bluetooth ใช้เป็นรีโมทคลิกได้ ชาร์จได้ในตัว สิ่งที่หายไปมีแค่ท่าโบกปากกาแบบ Note 10 เท่านั้น (ซึ่งจากการใช้ Note 10 มาหลายเดือนก็คือไม่ได้ใช้เลยสักนิด! ไม่เป็นปัญหาใดๆ)

    ปากกาของ Note 10 Lite (ซ้าย) และ Note 10+ (ขวา)

    [​IMG]

    หน้าจอตั้งค่า S Pen เป็นรีโมท และ Air actions เวลาดึงปากกาออกมาจากเครื่อง

    [​IMG]

    ฟีเจอร์ Air actions ของ Note 10 Lite ทำได้แค่กดปุ่มเท่านั้น_

    [​IMG]

    เทียบกับ Air actions ของ Note 10+ ที่มีฟีเจอร์เยอะกว่ากันมาก

    [​IMG]

    แต่นอกจากเรื่อง Air actions กวาดท่า gesture แล้ว ต้องบอกว่าซัมซุงไม่กั๊กฟีเจอร์ปากกาของ Note 10 Lite เลย เพราะได้ฟีเจอร์ด้านซอฟต์แวร์เทียบเท่ากับ Note 10 รุ่นปกติ เช่น การแปลงลายมือเป็นข้อความ (ใช้กับภาษาไทยได้) หรือการเอาปากกาชี้คำศัพท์เพื่อแปลภาษาอัตโนมัติ

    [​IMG]

    ภาพรวมของการใช้ปากกาบน Note 10 Lite จึงน่าประทับใจ เพราะทำได้ทุกอย่างเหมือนมือถือราคาสามหมื่นกว่าบาท เว้นแต่ฟีเจอร์ Air actions ที่ในชีวิตจริงก็แทบไม่ได้ใช้สักเท่าไร

    [​IMG]

    Note 10+ (ซ้าย) และ Note 10 Lite (ขวา)

    [​IMG]

    กล้องหลัง 3 ตัว ดีกว่าที่คิดแต่ยังเป็นรอง Note 10+


    กล้องหลังของ Note 10 Lite มีทั้งหมด 3 ตัว ทุกตัวมีความละเอียด 12MP เท่ากันคือ

    • เลนส์หลัก 12MP f/1.7, Dual Pixel ช่วยเรื่องออโต้โฟกัส, OIS กันสั่น
    • เลนส์เทเล 12MP f/2.4, OIS, 2x optical zoom
    • เลนส์มุมกว้าง 12MP f/2.2

    ตรงนี้ถือเป็นจุดแตกต่างกับกล้องหลังของทั้ง Note 10+ (กล้องหลัง 4 ตัว เพิ่ม TOF หรือเซ็นเซอร์วัดระยะลึก) และ Galaxy A71 (กล้องหลัง 4 ตัวแต่เป็นคนละชุดกัน มีเลนส์มาโครมาแทนเทเล)

    [​IMG]

    ถ้าให้เทียบกันแล้ว สมาร์ทโฟนรุ่นที่กล้องหลังคล้าย Note 10 Lite ที่สุดคือ Note 10 ตัวธรรมดา (กล้องหลัง 3 ตัวไม่มี TOF, เป็นกล้องหลัก เทเล มุมกว้าง เหมือนกัน) แต่ในรายละเอียดก็มีความแตกต่างกันอยู่ดังนี้ (ข้างล่างคือสเปกของ Note 10/10+ ที่ไม่รวม TOF)

    • เลนส์หลัก 12MP เท่ากัน เซ็นเซอร์ขนาด 1.4µm เหมือนกัน แต่เป็น Dual Aperture f/1.5-2.4
    • เลนส์เทเล เหมือนกับเกือบทุกอย่าง ยกเว้นค่า f-stop คือ f/2.4 (Note 10 Lite) และ f/2.1 (Note 10)
    • เลนส์มุมกว้าง ของ Note 10 มีความละเอียดมากกว่าคือ 16MP, ค่า f/2.2 เท่ากัน, ของ Note 10 มีฟีเจอร์ Super Steady video

    ส่วนกล้องหน้าของ Note 10 Lite เป็นตัวเดียวกับ A71 คือ 32MP f/2.2 ในขณะที่ Note 10/10+ เป็น 10MP f/2.2 ขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่กว่าและมี Dual Pixel

    ดูจากสเปกบนกระดาษก็พอสรุปได้ว่ากล้องของ Note 10 Lite เป็นรอง Note 10/10+ อยู่บ้าง (ก็ตามราคานะครับ) ไปดูภาพถ่ายของจริงดีกว่า (ภาพทั้งหมดถ่ายด้วยโหมด Auto และไม่ปรับแต่งใดๆ ยกเว้นย่อขนาดไฟล์ให้เหมาะกับแสดงผลบนหน้าเว็บ)

    ภาพถ่ายกลางวัน ในร่ม

    Note 10 Lite ทำผลงานได้น่าประทับใจดี เก็บรายละเอียดของผิวส้มได้ครบ

    [​IMG]

    ภาพถ่ายกลางวัน กลางแจ้ง

    Note 10 Lite ให้ภาพสีสดกว่า คอนทราสต์จัดกว่า ซึ่งดูเกินจริงกว่าที่สายตาเห็นไปพอสมควร ตรงนี้ Note 10+ เก็บภาพได้เป็นธรรมชาติมากกว่า แต่ข้อเสียคือสีจะออกติดเหลืองมากกว่า

    [​IMG]

    [​IMG]

    ภาพถ่ายกลางคืน พอมีแสงไฟ

    ทดสอบการถ่ายภาพกลางคืน ในซอยที่มีไฟถนนส่องถึงใบกล้วย รายละเอียดของใบกล้วยที่โดนแสงไฟเก็บได้พอๆ กัน (Note 10+ จะติดเหลืองเหมือนเดิม) แต่ Note 10+ จะเก็บรายละเอียดของใบไม้มืดๆ ที่อยู่ด้านหลังได้ดีกว่า

    [​IMG]

    [​IMG]

    ภาพถ่ายกลางคืน มีแสงไฟน้อย

    ทดสอบในซีนที่ยากขึ้นไปอีก คือในซอยจุดที่แสงไฟส่องไม่ค่อยถึง ซึ่งภาพออกมาไม่ดีนักทั้งคู่ในโหมด Auto แต่ Note 10+ เก็บรายละเอียดในจุดที่มืดได้ดีกว่า (สังเกตกระถางต้นไม้อันกลาง)

    [​IMG]

    [​IMG]

    ภาพถ่ายกลางคืน มีแสงไฟน้อย ใช้ Night Mode

    ลองถ่ายซีนเดิมที่สภาพแสงน้อย แล้วใช้ Night Mode ช่วย ตรงนี้เห็นความแตกต่างของ Note 10+ กับ Note 10 Lite ชัดเจนว่าภาพของ Note 10+ ดีกว่ามาก เห็นรายละเอียดของภาพเกือบหมด (สังเกตกระถาง) ส่วน Note 10 Lite นอกจากเก็บรายละเอียดได้ไม่ดีเท่า ยังเร่งคอนทราสต์จนสีเพี้ยนไปอีก

    [​IMG]

    [​IMG]

    ภาพรวมของกล้อง Note 10 Lite ถ้าเทียบกับ Note 10+ ก็ต้องสรุปว่า "ตามราคา" เพราะไม่อย่างนั้นตอบไม่ได้ว่าทำไมราคาต่างกันถึง 15,000 บาท แต่ถ้าวัดเฉพาะกล้องของ Note 10 Lite แล้วถือว่าน่าพอใจทีเดียว สำหรับกล้องในราคาระดับนี้

    ซอฟต์แวร์: Android 10 แต่ไม่มี Samsung Pay และ DeX


    ระบบปฏิบัติการของ Note 10 Lite เป็นรอม One UI 2.0 / Android 10 มาตั้งแต่โรงงานเลย (เปิดเครื่องมาจะได้อัพเดตเป็นแพตช์รอบเดือน 1 มกราคม 2020 ทันที)

    ซอฟต์แวร์ที่มากับเครื่องก็ตามมาตรฐานรอมซัมซุง ไม่มีอะไรพิสดาร ที่มากับเครื่องมี Bixby, Galaxy Store, Samsung Pass และ Samsung Notes ติดมาให้สำหรับจดโน้ต (แต่ไม่มี Samsung Pay และ DeX นะครับ เก็บไว้เป็นจุดขายให้ตัวแพง)

    ส่วนซอฟต์แวร์อื่นอย่าง Samsung Internet, Galaxy Gift, Samsung Health สามารถดาวน์โหลดได้เองในภายหลัง

    [​IMG]

    ประเด็นอื่นๆ จากการลองใช้งาน


    จากการลองใช้งาน Note 10 Lite เทียบกับ Note 10+ พบว่าความรู้สึกในแง่ขนาดแทบไม่ต่างกัน เพราะเป็นมือถือจอใหญ่ระดับใกล้เคียงกัน แต่ Note 10 Lite มีความโค้งมนมากกว่า (ในแง่การใช้งานก็ไม่รู้สึกอะไร) และวัสดุมัน ลื่นมือมากกว่า ทำตกได้ง่ายหากไม่ใส่เคสที่พื้นผิวขรุขระสักหน่อย

    [​IMG]

    [​IMG]

    การมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ย่อมทำให้มีตัวเลือกเรื่องหูฟังมากขึ้น แต่ถ้าใครย้ายมาสู่หูฟัง USB-C หรือหูฟังไร้สาย true wireless แล้วก็ไม่มีปัญหา รองรับทุกอย่าง

    [​IMG]

    จุดที่น่าสนใจแบบแปลกๆ คือซัมซุงย้ายปุ่มปรับระดับเสียงและปิดหน้าจอของ Note 10 Lite กลับมาไว้ทางขวาเหมือนเดิม ซึ่งต่างจาก Note 10/10+ ที่ย้ายมาไว้ทางซ้ายแบบงงๆ ชีวิต (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าย้ายไปทำไม แล้วย้ายกลับ) โดยปุ่ม power สามารถตั้งค่าได้เช่นกันว่าจะเป็นปิดหน้าจอ หรือเรียก Bixby

    ถาดใส่ซิมของ Note 10 Lite ย้ายจากขอบบนของเครื่อง (ที่ซัมซุงใช้มาตลอดในมือถือเกือบทุกรุ่น) มาอยู่ที่ขอบด้านซ้ายบนแทน ซึ่งในการใช้งานก็ไม่มีผลอะไรเช่นกัน

    [​IMG]

    บทสรุป: Note 10 Lite การปลดล็อคปากกาสู่มหาชน


    ในฐานะแฟนซีรีส์ Note ยอมรับเลยครับว่า Note 10 Lite ทำออกมาได้ดีกว่าที่คิดมากๆ เพราะในราคาที่ถูกกว่า Note 10/10+ เป็นหลักหมื่น เราได้

    • ปากกา S Pen ที่เป็นจุดขายหลักของ Note โดยฟีเจอร์เท่ากันเกือบหมด ยกเว้นท่าสะบัดปากกา Air command ที่ไม่ค่อยได้ใช้หรอกในชีวิตจริง
    • หน้าจอใหญ่เท่ากัน ความละเอียดอาจด้อยกว่า แต่ในชีวิตจริง ใช้ความละเอียด FHD+ ก็เหลือเฟือแล้ว ใช้ WQHD+ เปลืองแบตเตอรี่เปล่าๆ
    • สเปกที่ด้อยกว่าเรือธงนิดหน่อย ซึ่งไม่มีผลมากถ้าไม่ได้เล่นเกมอะไรเวอร์วัง
    • กล้องที่ด้อยกว่าเรือธงนิดหน่อย แต่ถือว่าค่อนข้างโอเคแล้วสำหรับยุคสมัยนี้

    แถมบางอย่างอาจดูเหนือกว่าด้วยซ้ำ

    • แบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่านิดหน่อย (4500 mAh vs 4300 mAh)
    • ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรที่เรือธงไม่มี
    • จอไม่โค้ง หลายคนน่าจะพึงพอใจ

    สิ่งที่อาจต้องจับตาดูคงเป็นเรื่องการอัพเดตซอฟต์แวร์ (ที่ซัมซุงทำได้ดีขึ้นมากๆ ในรอบปีที่ผ่านมานี้) ว่า Note 10 Lite จะได้อัพเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหญ่ต่อไปแค่ไหน เมื่อเทียบกับเรือธง Note 10/10+ ที่ย่อมได้ความสำคัญมากกว่า แต่จากประวัติเก่าของซัมซุงตอน Note FE ก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร (Nougat > Oreo > Pie ได้อัพเดต 2 รอบใหญ่)

    ถ้าไม่ติดใช้ฟีเจอร์บางตัวใน Note รุ่นใหญ่ (เช่น สะบัดปากกา, DeX หรือ Samsung Pay) ผมคิดว่า Note 10 Lite เป็นมือถือที่น่าสนใจมากๆ สำหรับคนที่อยากได้ปากกา S Pen มาจดงาน แต่ติดขัดที่เรื่องราคาของ Note แพงเกินไป

    [​IMG]

    การที่ซัมซุงยอมปล่อยปากกา S Pen ออกมาสู่มือถือราคาระดับกลางๆ (ต่ำสองหมื่นเล็กน้อย) ถือเป็นการเปลี่ยนยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญของซีรีส์ Note เลยทีเดียว เพราะ Note 10 Lite ถือว่าเหลือเฟือแล้วสำหรับคนทั่วๆ ไป และจะกลายเป็นว่ามันไปตัดยอดขายของ Note รุ่นเรือธงด้วยซ้ำ (ตรงนี้ซัมซุงคงคิดมาดีแล้วว่ายอมให้ตัดยอดขายระหว่างรุ่นกันเอง น่าจะดีกว่าปล่อยให้คู่แข่งมาแย่งตลาดไป)

    มือถือที่จะหวาดกลัว Note 10 Lite มากที่สุดคงหนีไม่พ้น Galaxy Note เรือธงรุ่นถัดไป (Galaxy Note 20?) หากไม่สามารถสร้างนวัตกรรมที่เหนือชั้นกว่ามากๆ ได้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องจ่ายแพงกว่าเป็นหมื่นอีกแล้ว

    Topics: Galaxy Note 10MobileSamsungReview
     

แบ่งปันหน้านี้