ทิสโก้ห่วงการเมืองไม่นิ่งกระทบแผนลดเอ็นพีแอลได้ ขณะที่แผนปีหน้าคาดเช่าซื้อกลับมาโตได้ตามตลาดรถยนต์ที่ 5% นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนธุรกิจของธนาคารในปีหน้าว่ายังอยู่ระหว่างการพิจารณา แต่แนวโน้มตลาดเช่าซื้อคาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ตามตลาดรถยนต์ที่คาดว่าจะเติบโตที่ระดับ 5% ในปี 2558 ส่วนในปีนี้สินเชื่อของธนาคารยังคงหดตัว โดย 9 เดือนที่ผ่านมาสินเชื่อของธนาคารปรับลดลง 6% จากสิ้นปีก่อนมาอยู่ที่ 2.75 แสนล้านบาท ตามการชะลอตัวขอสินเชื่อเช่าซื้อที่คิดเป็นพอร์ตหลักของธนาคารที่ 65% ของพอร์ตรวม “สินเชื่อที่ลดลงส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาเกษตรที่ลดลงกระทบต่อกำลังซื้อ แต่อยากให้รัฐช่วยเกษตรกร ซึ่งมาตรการที่จ่ายเงินโดยตรงให้เกษตรกรไร่ละ 1,000 บาทช่วยให้สภาพคล่องเกษตรกรพอไปได้ แต่ราคาสินค้าเกษตรไม่น่าห่วงเท่าปัญหาการเมือง หากเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งมาก ๆ จะเป็นผลลบกับธุรกิจได้” ทั้งนี้ธนาคารจะต้องเร่งจัดการกับหนี้เสียหรือเอ็นพีแอลที่สูงขึ้นด้วยโดยล่าสุดอยู่ที่ 2.4%เพิ่มขึ้นจาก สิ้นปีก่อนที่มี 1.7% โดยจะต้องใช้เวลาในการแก้ไขให้ลดลงมาเท่าปลายปีก่อน แต่หากเกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจขึ้นอีกอาจจะทำให้คุณภาพสินเชื่อถูกกระทบไปได้ แม้สินเชื่อของธนาคารในปีนี้จะโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของธนาคารยังคงเพิ่มขึ้น ซึ่งธนาคารยังคงคาดว่าในปีหน้าส่วนต่างดอกเบี้ยของธนาคารยังอยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่องจากปีนี้ เนื่องจากการแข่งขันในการระดมเงินฝากยังไม่รุนแรงมากนัก ขณะที่สภาพคล่องในระบบยังมีอยู่มาก หลังจากที่ความต้องการสินเชื่อในช่วงที่ผ่านมาชะลอตัวลง ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนเงินฝากของธนาคารไม่ปรับเพิ่มขึ้นมากนัก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในปีหน้าความต้องการสินเชื่ออาจจะเพิ่มขึ้นจากโครงการลงทุนในสาธารณูปโภคของภาครัฐ แต่เชื่อว่าภาครัฐก็เลือกระดมทุนด้วยการออกพันธบัตรรัฐบาลเป็นหลัก และความต้องการระดมทุนในแต่ละปีจะมีไม่มาก ทำให้ธนาคารพาณิชย์ยังไม่ต้องแข่งขันเงินฝาก ทั้งนี้ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ธนาคารมีอัตราผลตอบแทนเงินให้สินเชื่อสุทธิอยู่ที่ 6.5% คงที่จากไตรมาสก่อน ขณะที่ต้นทุนเงินทุนปรับลดลงจาก 3.3% ในไตรมาส 2 มาเป็น 3.1% จากต้นทุนเงินฝากที่ลดลง และบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของเงินให้สินเชื่อปรับสูงขึ้นเป็น 3.4% เมื่อเทียบกับ 3.2% และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิในไตรมาส 3 อยู่ที่ 3.1% เพิ่มขึ้นจาก 2.9% ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปีก่อนอัตราผลตอบแทนเงินให้สินเชื่อลดลงจาก 6.6% มาเป็น 6.5% ต้นทุนเงินทุนปรับตัวลดลงจาก 3.5% ในไตรมาส 3 มาอยู่ที่ 3.1% ส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของเงินให้สินเชื่อปรับสูงขึ้นเป็น 3.4% และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 3.1% เพิ่มขึ้นจาก 2.8% เมื่อเทียบไตรมาสเดียวกันของปีก่อน นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตชะลอตัวปี 2558 เนื่องจากสินเชื่อจะขยายตัวเพียงเล็กน้อย ทำให้ผู้บริหารแบงก์ทิสโก้เชื่อว่าฐานเงินทุนในขณะนี้เพียงพอสำหรับการดำเนินงานในไตรมาส 4/57 จนถึงปี 2558 โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน โดยอัตราส่วนความพอเพียงของเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง ณ สิ้นเดือนก.ย.เป็น 16.2% ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนของกองทุนเงินขั้นที่ 1 ที่ 12.2% Tags : สุทัศน์ เรืองมานะมงคล • ทิสโก้