ตลาดหลักทรัพย์เล็งยื่นเกณฑ์คุมหุ้นเก็งกำไรเข้าบอร์ดพ.ย.นี้ คาดใช้สิ้นปี ประเมินวอลุ่มเทรดปีหน้า5หมื่ล./วัน นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตลาดอยู่ระหว่างการปรึกษากับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อออกมาตรการควบคุมหุ้นเก็งกำไร โดยคาดว่าจะมีการเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการตลาดในเดือน พ.ย. - ธ.ค. นี้ หลังจากนั้นจะมีการทำประชาพิจารณ์ และเสนอต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ต่อไป ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการประกาศมาตรการใหม่ได้ภายในปีนี้ตามแผนที่วางไว้ “ในส่วนรายละเอียดของมาตรการใหม่นี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่จะเป็นมาตรการที่ทำให้ผู้ลงทุนได้ตระหนักถึงหุ้นเหล่านั้น และมีเวลาคิด วิเคราะห์ และศึกษาหาข้อมูลก่อนตัดสินใจเข้าลงทุน” นางเกศรา กล่าว นางเกศรา กล่าวต่อว่า ปีหน้าคาดว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของตลาดและตลาดเอ็ม เอ ไอ จะกลับไปอยู่ระดับเดียวกับปี 2556 ที่ 50,329 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งเป็นจุดสูงสุดตั้งแต่เปิดทำการซื้อขายมา โดยปัจจัยสำคัญคือการคาดการณ์ว่าบริษัทจดทะเบียนจะรายงานผลประกอบการที่ดีขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มมีทิศทางฟื้นตัว ทั้งนี้ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 10 เดือนย้อนหลังในปีนี้อยู่ที่ 42,798 ล้านบาทต่อวัน แบ่งเป็นมูลค่าของตลาดหลักทรัพย์ 39,611 ล้านบาท และมูลค่าของตลาดเอ็ม เอ ไอ 3,186 ล้านบาท ส่วนในปี 2556 แบ่งเป็นมูลค่าของตลาดหลักทรัพย์ 48,070 ล้านบาท และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 2,259 ล้านบาท ในขณะที่การระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ในปีนี้น่าจะทำได้มากกว่าเป้าที่วางไว้ 2.1 แสนล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 1.6 แสนล้านบาท จากหุ้นไอพีโอ 25 บริษัท และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 7 กอง ส่วนในปี 2558-2559 คาดว่าการระดมทุนในแต่ละปี จะมากกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาดไอพีโอที่ดีต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้เป้าหมายของไอพีโอที่ชัดเจนในปีหน้ายังอยู่ระหว่างการจัดทำ แต่เบื้องต้นเห็นว่ามีบริษัทเตรียมเข้าจดทะเบียนอีกเป็นจำนวนมาก “ปัจจัยสำคัญที่ทำให้หุ้นไอพีโอได้รับความสนใจเป็นเพราะผู้ประกอบการต้องการระดมทุนเพื่อไปขยายธุรกิจ และเห็นว่านักลงทุนให้มูลค่าที่ดีกับบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ ทำให้บริษัททำการตลาดและเดินสายโรดโชว์เพื่อนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนมากขึ้น โดยในขณะนี้พบว่ามีนักลงทุนหน้าที่ต้องการลงทุนในหุ้นไอพีโอแต่ละตัวเพิ่มขึ้นเป็นหลักพันราย จากเมื่อก่อนแค่หลักร้อยราย ส่วนนักลงทุนไม่ว่าจะรายบุคคลหรือสถาบันต่างต้องการหุ้นใหม่ๆ ที่มีความน่าสนใจและมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เพื่อเข้ามาลงทุนแทนหุ้นที่มีอยู่แล้วในตลาดมากยิ่งขึ้น” นางเกศรา กล่าว ด้านนางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ กรรมการตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าเกี่ยวกับการออกมาตรการใหม่สำหรับหุ้นเก็งกำไรว่า ในเบื้องต้นทางคณะกรรมการยังไม่สามารถเปิดเผยถึงรายละเอียดได้ เนื่องจากต้องตรวจสอบความชัดเจนในด้านต่างๆ รวมถึงตรวจสอบระบบการซื้อขายว่าจะสามารถแก้ไขให้เป็นไปตามมาตรการได้หรือไม่ โดยมาตรการที่จะออกมาใหม่นี้อาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก แต่จะมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น “คาดว่าจะสามารถเสนอมาตรการใหม่เข้าการประชุมของคณะกรรมการตลาดภายในเดือน พ.ย. นี้ ซึ่งหากได้ข้อสรุปอย่างไรจะรีบเปิดเผยให้ทราบโดยเร็ว สำหรับจุดเด่นของมาตรการใหม่นี้จะเน้นไปที่การให้เวลากับนักลงทุนในการคิด วิเคราะห์ และหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนั้นๆ ก่อนที่เข้าไปลงทุน ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้นักลงทุนที่ประสบปัญหาการติดหุ้นที่ราคาสูงๆ มีจำนวนลดลง” นางภัทธีรา กล่าว ก่อนหน้านี้สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ ได้เตรียมแนวทางเกณฑ์ในการคุมหุ้นที่มีแรงเก็งกำไรสูง จนราคาเทียบกำไรสุทธิต่อหุ้น หรือ พีอีเรโช สูงมาก โดยหลักเกณฑ์ที่จะนำมาใช้ จะต้องไม่กระทบต่อภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี จึงมีแนวคิดว่าที่จะนำเกณฑ์เรื่องการไม่นับหุ้นเก็งกำไรสูง มาเป็นหลักประกันในบัญชีซื้อขายหุ้น หรืออาจจะใช้วิธีเพิ่ม หลักประกันเมื่อต้องการซื้อขายหุ้นดังกล่าว ซึ่งจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมสมาชิก ส่วนกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์เบื้องต้นได้มีการหารือ และวางมาตรการเพื่อป้องกันการเก็งกำไรในหุ้นที่มีความร้อนแรง โดยในบล.เริ่มเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์มากขึ้น และไม่ปล่อยสินเชื่อ ในหุ้นที่มีความร้อนแรง หรือมีการหมุนเวียนของปริมาณหุ้นที่สูงและไม่ มีพื้นฐานรองรับ Tags : เกศรา มัญชุศรี • ตลาดหลักทรัพย์