ศาลปกครองสูงสุด พิพากษายกฟ้อง 'ยิ่งลักษณ์' ในคดีน้ำ 3.5 แสนล้านบาท กระทำโดยมิชอบ ชี้เป็นเพียงแค่แผนยังไร้ผลกระทบ ที่ศาลปกครองกลาง โดยศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด จากกรณีสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ฟ้อง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 4 คน ในข้อหากระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในการดำเนินโครงการจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท โดยขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกโครงการดังกล่าว โดยผู้ฟ้องเห็นว่าโครงการนี้จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากมิได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่ง ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำพิพากษากลับคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ในคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กับพวก ฟ้อง อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวกในการออกแผนแม่บทในการบริหารน้ำ โดยได้เห็นว่าแผนแม่บทในการจัดการบริหารทรัพยากรน้ำ 3.5 แสนล้านบาทของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เข้าข่ายไม่ชอบด้วยกฏหมาย เนื่องจากแผนงานที่จะทำในอนาคตหลายโครงการ ยังเป็นเพียงกรอบแนวคิด ที่ยังไม่ได้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเพียงพอ แม้จะเล็งเห็นว่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพของประชาชน แต่แผนนโยบายยังไม่มีการดำเนินการ ส่วนประเด็นที่ผู้ฟ้องขอให้ลงโทษ ผู้ถูกฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นั้น ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ไม่อยู่ในขอบอำนาจของศาลปกครอง แต่อยู่ในเขตอำนาจของศาลยุติธรรมจึงไม่สามารถรับวินิจฉัยในประเด็นนี้ได้ และสำหรับเรื่องการทุจริตในโครงการก็อยู่ในอำนาจของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 'ศรีสุวรรณ'ยอมรับคำพิพากษาของศาล นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยภายหลังการเข้ารับฟังคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ในกรณี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 4 คน ข้อหากระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินโครงการจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ว่า ยอมรับคำพิพากษาของศาล แม้ว่าจะมีคำพิพากษายกฟ้องรู้สึกเสียใจอยู่บ้างแต่ไม่เสียกำลังใจ พร้อมเดินหน้าทำงานตรวจสอบทุกโครงการที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลในยุคใดก็ตาม ซึ่งแม้ว่า แผนบริหารจัดการน้ำมูลค่า 3.5 แสนล้านของรัฐบาลชุดก่อน จะสิ้นสุดไปแล้วโดยรัฐบาลชุดนี้ แต่รัฐบาลชุดปัจจุบัน ก็ยังโครงมีแผนยุทธศาสตร์บริหารจัดการน้ำ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ภายใต้ความดูแลของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งตนและสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ก็ได้ส่งหนังสือท้วงติงถึงความจำเป็นของการจัดให้มีกระบวนการประชาพิจารณ์ไปแล้วเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน คาดว่าทางรัฐบาลจะมีหนังสือตอบกลับมาเร็วๆ นี้ และตนจะเดินหน้าตรวจสอบทุกโครงการของรัฐบาลที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนต่อไป